Green roof types, plants, and subst

Green roof types, plants, and substrates
Green roofs can be classified into extensive and intensive types,
based on the depth of substrate. Substrate depth of extensive green
roofs is often less than 20 cm; thus, the weight capacity of the green
roof and the selection of vegetation are limited. In contrast, substrate
depth of an intensive green roof can be more than 20 cm,
which can support woody plants. However, owing to heavy loading
and the careful maintenance work required for intensive green
roofs, their use is limited compared to extensive green roofs. In
Taiwan, there is no standard definition or design for green roofs. The
only official recommendation is from New Taipei City, where German
FLL guidelines are recommended. Major concerns in selecting
the type of green roof for use in Taiwan include drainage issues and
possible damage to roof surfaces. Building owners are concerned
that litter may clog drainage pipes and cause flooding on roofs and
plants may root into roof construction materials and result in water
leakage in ceilings. Thus, most existing green roofs are of the extensive
type and a few use potted plants instead of planting vegetation
in beds. The main advantage to using potted plants is that they can
easily be removed and replaced, but the cost is higher per area than
an extensive green roof. Some newly built buildings have roof gardens
for recreational purposes, with trees planted on a small part
of the roof area. Strictly speaking, this type might not be identified
as a green roof because of the small surface area covered by
vegetation. For example, a green roof is required to cover 20–60%
of the roof surface in Toronto according to the Green Roof Bylaw
and 50% is indicated by the Clean Energy Stimulus and Investment
Assurance Act in the USA.
Taiwan’s tropical and subtropical climate promotes extensive
biological diversity, and a great variety of plant species can be used
on green roofs. Table 3 shows the vegetation types commonly used
in green roofs in Taiwan. Plant selection and preservation has a
substantial influence on green roof performance (Rowe, 2011). For
example, vegetation with greater plant depth and root density can
store more water (Dunnett et al., 2008). Runoff water quality also
varies with the type of vegetation (Monterusso et al., 2004).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังคาเขียวชนิด พืช และพื้นผิวหลังคาสีเขียวสามารถแบ่งตามชนิดของข้อมูลอย่างละเอียด และเข้มข้นตามความลึกของพื้นผิว ความลึกของพื้นผิวสีเขียวมากมายหลังคามักจะน้อยกว่า 20 ซม. ดังนั้น น้ำหนักกำลังการผลิตของสีเขียวหลังคาและการเลือกพืชพรรณมีจำกัด ในทางตรงกันข้าม พื้นผิวความลึกของหลังคาเขียวแบบเร่งรัดสามารถมากกว่า 20 ซม.ซึ่งสามารถสนับสนุนพืชวู้ดดี้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการโหลดหนักและงานบำรุงรักษาระวังที่จำเป็นสำหรับสีเขียวแบบเร่งรัดหลังคา ใช้ได้จำกัดเมื่อเทียบกับหลังคาสีเขียวมากมาย ในไต้หวัน มีไม่มีข้อกำหนดมาตรฐานหรือออกแบบสำหรับหลังคาสีเขียว ที่เฉพาะทางมาก ๆ คือจากนิวไทเปซิตี้ เยอรมันแนะนำแนวทาง FLL กังวลในการเลือกชนิดของหลังคาเขียวใช้ในไต้หวันรวมถึงปัญหาการระบายน้ำ และความเสียหายได้กับพื้นผิวหลังคา เจ้าของอาคารมีความกังวลที่แคร่อาจอุดตันท่อระบายน้ำ และทำให้เกิดน้ำท่วมบนหลังคา และพืชอาจรากเป็นวัสดุก่อสร้างหลังคา และทำให้น้ำรั่วไหลในเพดาน ดังนั้น หลังคาสีเขียวที่มีอยู่ส่วนใหญ่เป็นที่กว้างขวางชนิดและไม่ใช้พืชในกระถางปลูกพืชในเตียง ประโยชน์หลักการใช้ต้นไม้เป็นที่พวกเขาสามารถง่าย ๆ ได้ถูกเอาออก และแทน แต่ต้นทุนสูงต่อพื้นที่มากกว่าหลังคาเขียวกว้างขวางขึ้น บางอาคารสร้างใหม่มีสวนซาวน่า กับต้นไม้ที่ปลูกในส่วนเล็ก ๆพื้นที่บนดาดฟ้า พัฒน ชนิดนี้อาจไม่สามารถระบุเป็นหลังคาสีเขียวเนื่องจากพื้นที่ขนาดเล็กที่ครอบคลุมโดยพืช ตัวอย่าง หลังคาสีเขียวจะต้องครอบคลุม 20 – 60%ของพื้นผิวของหลังคาในโตรอนโตตาม Bylaw หลังคาสีเขียวและ 50% เป็นตามกระตุ้นพลังงานสะอาดและการลงทุนพระราชบัญญัติประกันในสหรัฐอเมริกาสภาพอากาศ ร้อนของไต้หวันส่งเสริมอย่างกว้างขวางสามารถใช้ความหลากหลายทางชีวภาพ และพืชชนิดต่าง ๆบนหลังคาสีเขียว ตาราง 3 แสดงชนิดของพืชที่ใช้ในหลังคาเขียวในไต้หวัน เลือกพืชและเก็บรักษาได้เป็นอิทธิพลที่พบบนหลังคาเขียวประสิทธิภาพ (Rowe, 2011) สำหรับตัวอย่าง พืช มีมากกว่าพืชลึกและรากหนาแน่นสามารถเก็บน้ำเพิ่มเติม (Dunnett et al., 2008) ไหลบ่าคุณภาพน้ำยังแตกต่างกันไปกับชนิดของพืช (Monterusso et al., 2004)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเภทหลังคาสีเขียวพืชและพื้นผิวหลังคาสีเขียวสามารถแบ่งออกเป็นประเภทอย่างกว้างขวางและเข้มข้นขึ้นอยู่กับความลึกของพื้นผิว ความลึกของพื้นผิวของสีเขียวที่กว้างขวางหลังคามักจะน้อยกว่า 20 ซม.; ดังนั้นความจุน้ำหนักของสีเขียวหลังคาและการเลือกของพืชจะถูก จำกัด ในทางตรงกันข้ามพื้นผิวเชิงลึกของหลังคาสีเขียวเข้มได้มากกว่า 20 เซนติเมตรซึ่งสามารถรองรับไม้ยืนต้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากการโหลดหนักและงานบำรุงรักษาอย่างระมัดระวังที่จำเป็นสำหรับสีเขียวเข้มหลังคา, การใช้งานของพวกเขาจะ จำกัด เมื่อเทียบกับหลังคาสีเขียวที่กว้างขวาง ในไต้หวันไม่มีการกำหนดมาตรฐานหรือการออกแบบสำหรับหลังคาสีเขียว คำแนะนำอย่างเป็นทางการเท่านั้นจากนิวไทเปซิตี้ที่เยอรมันแนวทาง FLL มีการแนะนำ ความกังวลที่สำคัญในการเลือกชนิดของหลังคาสีเขียวสำหรับการใช้งานในไต้หวันรวมถึงประเด็นการระบายน้ำและความเสียหายที่อาจจะพื้นผิวหลังคา เจ้าของอาคารที่มีความกังวลว่าอาจเกิดการอุดตันครอกท่อระบายน้ำและทำให้เกิดน้ำท่วมบนหลังคาและพืชอาจรากลงในวัสดุก่อสร้างหลังคาและส่งผลให้เกิดน้ำรั่วไหลในเพดาน ดังนั้นหลังคาสีเขียวที่มีอยู่ส่วนใหญ่จะเป็นของที่กว้างขวางชนิดและใช้ไม้กระถางไม่กี่แทนการปลูกพืชผักในเตียง ประโยชน์หลักในการใช้กระถางต้นไม้ที่พวกเขาสามารถได้อย่างง่ายดายถูกลบออกไปและแทนที่แต่ค่าใช้จ่ายสูงต่อพื้นที่กว่าหลังคาสีเขียวที่กว้างขวาง บางอาคารที่สร้างขึ้นใหม่มีสวนหลังคาเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจที่มีต้นไม้ที่ปลูกในส่วนเล็ก ๆ ของพื้นที่หลังคา อย่างเคร่งครัดพูดประเภทนี้อาจจะไม่ได้ระบุว่าเป็นหลังคาสีเขียวเพราะพื้นที่ผิวขนาดเล็กปกคลุมด้วยพืชพรรณ ยกตัวอย่างเช่นหลังคาสีเขียวจะต้องครอบคลุมถึง 20-60% ของพื้นผิวหลังคาในโตรอนโตตามเทศบัญญัติหลังคาสีเขียวและ 50% จะถูกระบุโดยกระตุ้นพลังงานสะอาดและการลงทุนประกันพระราชบัญญัติในประเทศสหรัฐอเมริกา. ไต้หวันภูมิอากาศเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนส่งเสริม ครอบคลุมความหลากหลายทางชีวภาพและความหลากหลายของพันธุ์พืชที่สามารถนำมาใช้บนหลังคาสีเขียว ตารางที่ 3 แสดงให้เห็นถึงชนิดพืชที่ใช้กันทั่วไปในหลังคาสีเขียวในไต้หวัน เลือกพืชและการเก็บรักษาที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อประสิทธิภาพการทำงานหลังคาสีเขียว (Rowe 2011) สำหรับตัวอย่างเช่นพืชผักที่มีความลึกมากขึ้นของพืชและความหนาแน่นของรากสามารถเก็บน้ำมากขึ้น(Dunnett et al., 2008) คุณภาพน้ำที่ไหลบ่ามานอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับชนิดของพืช (Monterusso et al., 2004)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สีเขียวหลังคาประเภทพืชและพื้นผิว
สีเขียวหลังคา สามารถจำแนกได้เป็นประเภทอย่างกว้างขวางและเข้มข้น
ขึ้นอยู่กับความลึกของพื้นผิว ความลึกของพื้นผิวหลังคาสีเขียว
กว้างขวางมักจะน้อยกว่า 20 ซม. และน้ำหนักความจุของหลังคาสีเขียว
และการคัดเลือกพืชมีจำกัด ในทางตรงกันข้าม , ความลึกของพื้นผิว
หลังคาสีเขียวเข้มจะมากกว่า 20 ซม.
ซึ่งสามารถสนับสนุนพืชวู้ดดี้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก
โหลดหนักและระวังงานบำรุงรักษาที่จำเป็นสำหรับหลังคาสีเขียว
เข้มข้น , ใช้ของพวกเขาถูก จำกัด เมื่อเทียบกับหลังคาสีเขียวที่กว้างขวาง ใน
ไต้หวัน ไม่มีนิยามมาตรฐานหรือการออกแบบหลังคาสีเขียว
แค่แนะนำอย่างเป็นทางการจากเมืองไทเป ซึ่งแนวทาง FLL เยอรมัน
แนะนํา ความกังวลหลักในการเลือก
ประเภทของหลังคาสีเขียวสำหรับใช้ในไต้หวัน ได้แก่ ปัญหาการระบายน้ำและ
ความเสียหายที่เป็นไปได้กับพื้นผิวหลังคา เจ้าของอาคารมีความกังวลว่าอาจเกิดการอุดตันท่อระบายน้ำทิ้ง

และสาเหตุน้ำท่วมบนหลังคาและรากพืชอาจหลังคาวัสดุก่อสร้างและผลในการรั่วไหลของน้ำ
ในเพดาน ดังนั้น ส่วนใหญ่ที่มีอยู่ของอย่างละเอียด
หลังคาสีเขียวประเภทและใช้ไม่กี่พืชกระถางแทนการปลูกพืช
ในเตียง ประโยชน์หลักในการใช้ไม้กระถางที่พวกเขาสามารถ
ได้อย่างง่ายดายสามารถถอดออกและแทนที่ แต่ค่าใช้จ่ายสูงต่อพื้นที่มากกว่า
เป็นหลังคาสีเขียวที่กว้างขวาง สร้างขึ้นใหม่บางอาคารมีหลังคาสวน
เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ กับต้นไม้ที่ปลูกบน
ส่วนเล็ก ๆของพื้นที่หลังคา อย่างเคร่งครัดพูดชนิดนี้ไม่อาจจะระบุได้
เป็นหลังคาสีเขียว เพราะขนาดเล็ก พื้นที่ผิวปกคลุมด้วย
พืช ตัวอย่างเช่น หลังคาสีเขียวจะต้องครอบคลุม 20 – 60 %
ของพื้นผิวหลังคาหลังคาสีเขียวในโตรอนโตตามเทศบัญญัติ
และ 50% ระบุโดยพระราชบัญญัติพลังงานสะอาดสิ่งเร้า และทุนประกัน

ในสหรัฐอเมริกาไต้หวันของเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนสภาพภูมิอากาศอย่างละเอียด
)ความหลากหลายทางชีวภาพ และความหลากหลายของชนิดพืช สามารถใช้
หลังคาสีเขียว ตารางที่ 3 แสดงประเภทพืชที่ใช้กันทั่วไป
ในหลังคาสีเขียวในไต้หวัน การปลูกและการดูแลรักษาได้
มีอิทธิพลต่อสมรรถนะ หลังคาสีเขียว ( Rowe , 2011 ) สำหรับพืชที่มีความลึก
ตัวอย่างพืชมากขึ้นและความหนาแน่นของรากจะ
ร้านน้ำมากขึ้น ( Dunnett et al . , 2008 )คุณภาพน้ำ
น้ำท่ายังขึ้นอยู่กับชนิดของพืช ( monterusso et al . , 2004 )