Water covers about 70% of Earth’s s

Water covers about 70% of Earth’s surface, makes up about 70% of your mass,
and is essential for life. This photograph of planet Earth, taken by the Apollo 17 crew as they traveled toward the moon on December 7, 1972, shows an area of the planet from the Mediterranean Sea to Antarctica. Water is visible in this photograph as the Atlantic, Indian and Southern (or Antarctic) Oceans, the south polar icecap, and as heavy cloud cover in the southern hemisphere and scattered along the equator.


Water is the only substance that exists naturally on Earth in all three physical states of matter—gas, liquid, and solid—and
it is always on the move among them. The Earth has oceans of liquid water and polar regions covered by solid water. Energy from the sun is absorbed by liquid water in oceans, lakes, and rivers and gains enough energy for some of it to evaporate and enter the atmosphere as an invisible gas, water vapor. As the water vapor rises in the atmosphere it cools and condenses into tiny liquid droplets that scatter light and become visible as clouds. Under the proper conditions, these droplets further combine and become heavy enough to precipitate (fall out) as drops of liquid or, or if the air is cold enough, flakes of solid, thus returning to the surface of the Earth to continue this cycle of water between its condensed and vapor phases. (Visit http://www.eoearth.org/article/Hydrologic_cycle for more information on the Hydrologic Cycle.)



Water in all three states makes a large contribution to the planet’s climate. Water vapor is a greenhouse gas that traps energy radiated from the surface of the planet and helps to keep the planet warm enough to sustain the complex life that has evolved in this environment. Water vapor is responsible for more than half the Earth’s greenhouse gas warming. On the other hand, clouds and ice fields on the surface reflect a good deal of the radiation from the sun, so this radiation does not reach the surface and warm it. The reflectivity of clouds and ice has a cooling effect on the planet. However, where the earth’s surface has been heated by solar radiation, clouds help trap energy radiated from the heated surface and thus have a warming effect as well. Variations in the amount and form of water in the atmosphere have a complex relationship to our climate that is difficult to model and predict.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

น้ำครอบคลุมพื้นผิวโลกประมาณ 70%, 70% ของมวลของคุณ ทำให้ และเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต ภาพนี้ของโลก โดยลูกเรืออพอลโล 17 เป็นถ่ายพวกเขาเดินทางไปยังดวงจันทร์บน 7 ธันวาคม 1972 แสดงพื้นที่ของโลกจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทวีปแอนตาร์กติกา น้ำจะมองเห็นได้ในภาพนี้ เป็นมหาสมุทรแอตแลนติก อินเดีย และทางตอนใต้ หรือแอนตาร์กติก) มหาสมุทร icecap ขั้วโลกใต้ และเมฆหนาปกคลุมในซีกโลกใต้ และกระจายไปตามเส้นศูนย์สูตร น้ำเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติบนโลกในทั้งหมดสามสถานะทางกายภาพของสสาร เท่านั้น — ก๊าซ ของเหลว ของแข็ง และ — และ ก็มักจะเคลื่อนไหวในหมู่พวกเขา โลกมีมหาสมุทรของน้ำ และเขตขั้วโลกที่ปกคลุม ด้วยน้ำแข็ง พลังงานจากดวงอาทิตย์จะถูกดูดซึม โดยน้ำในมหาสมุทร ทะเลสาบ และแม่น้ำ และได้รับพลังงานเพียงพอสำหรับการระเหย และใส่บรรยากาศเป็นแก๊สมองไม่เห็น ไอน้ำ เป็นไอน้ำที่เพิ่มขึ้นในบรรยากาศเย็น และควบแน่นเป็นหยดของเหลวเล็ก ๆ ที่กระจายแสง และมองเห็นได้เป็นเมฆ ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม หยดเหล่านี้เพิ่มเติมรวม และกลายเป็นหนักตกตะกอน (ร่วง) เป็นหยดของเหลว หรือ หรือถ้าอากาศ เย็นพอ เกล็ดของแข็ง จึง กลับไปยังพื้นผิวของโลกที่ต่อไปนี้วงจรของน้ำระหว่างความข้น และไอเฟส (เยี่ยมชม http://www.eoearth.org/article/Hydrologic_cycle สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมบนวงจร Hydrologic) น้ำในทุกรัฐที่สามทำให้ภูมิอากาศของโลกบริจาคขนาดใหญ่ ไอน้ำเป็นก๊าซเรือนกระจกที่กับดักพลังงานที่แผ่จากพื้นผิวของดาวเคราะห์ และช่วยให้โลกอบอุ่นชีวิตซับซ้อนที่มีพัฒนาในสภาพแวดล้อมนี้ ไอน้ำรับผิดชอบมากกว่าครึ่งโลกเรือนกระจกก๊าซร้อน บนมืออื่น ๆ เมฆและทุ่งน้ำแข็งบนพื้นผิวสะท้อนอย่างดีของรังสีจากดวงอาทิตย์ ดังนั้นรังสีนี้ไม่ถึงผิว และอบอุ่นมัน สัมประสิทธิ์ของเมฆและน้ำแข็งมีผลต่อโลกเย็น อย่างไรก็ตาม ที่พื้นผิวโลกได้รับร้อน ด้วยรังสีแสงอาทิตย์ เมฆช่วยดักพลังงานที่แผ่จากพื้นผิวร้อน และจึง มีผลต่อภาวะโลกร้อนเช่นกัน เปลี่ยนแปลงในจำนวนและรูปแบบของน้ำในบรรยากาศมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับสภาพภูมิอากาศของเราที่เป็นรุ่น และทำนาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

น้ำครอบคลุมประมาณ 70% ของพื้นผิวโลกทำให้ขึ้นประมาณ 70% ของมวลของคุณ
และเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต การถ่ายภาพของโลกที่นำโดยพอลโล 17 ลูกเรือขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังดวงจันทร์ในวันที่ 7 ธันวาคม 1972 นี้แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ของดาวเคราะห์จากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแอนตาร์กติกา ๆ น้ำเป็นสิ่งที่มองเห็นในภาพนี้เป็นมหาสมุทรแอตแลนติกและอินเดียใต้ (หรือแอนตาร์กติก) มหาสมุทรที่ icecap ขั้วโลกใต้และเมฆปกคลุมเป็นหนักในซีกโลกใต้และกระจัดกระจายอยู่ตามเส้นศูนย์สูตร.


น้ำเป็นสารเดียวที่มีอยู่ตามธรรมชาติบนโลก ทั้งสามรัฐทางกายภาพของเรื่องก๊าซของเหลวและของแข็งและ
มันเป็นเสมอในการย้ายในหมู่พวกเขา โลกมีมหาสมุทรน้ำของเหลวและบริเวณขั้วโลกปกคลุมด้วยน้ำที่เป็นของแข็ง พลังงานจากดวงอาทิตย์ถูกดูดซึมโดยน้ำในมหาสมุทรทะเลสาบและแม่น้ำและกำไรพลังงานเพียงพอสำหรับบางส่วนของมันจะระเหยและป้อนบรรยากาศที่เป็นก๊าซที่มองไม่เห็นไอน้ำ ในฐานะที่เป็นไอน้ำที่เพิ่มขึ้นในชั้นบรรยากาศมันเย็นตัวลงและควบแน่นเป็นหยดของเหลวขนาดเล็กที่กระจายแสงและกลายเป็นมองเห็นเป็นเมฆ ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสมละอองเหล่านี้ต่อไปรวมและกลายเป็นหนักพอที่จะเกิดการตกตะกอน (ตกออก) เป็นหยดของเหลวหรือหรือถ้าอากาศเย็นพอสะเก็ดของแข็งจึงกลับไปที่พื้นผิวของโลกเพื่อดำเนินการต่อวงจรของการนี้ น้ำระหว่างข้นและไอขั้นตอนของ (การเข้าชม http://www.eoearth.org/article/Hydrologic_cycle สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฏจักรอุทกวิทยา.)



น้ำในทุกสามรัฐทำให้ผลงานที่มีขนาดใหญ่กับสภาพภูมิอากาศของโลก ไอน้ำเป็นก๊าซเรือนกระจกที่ดักพลังงานแผ่ออกจากพื้นผิวของดาวเคราะห์และจะช่วยให้โลกอบอุ่นพอที่จะรักษาชีวิตที่ซับซ้อนที่มีการพัฒนาในสภาพแวดล้อมนี้ ไอน้ำเป็นผู้รับผิดชอบมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลกร้อนก๊าซเรือนกระจก บนมืออื่น ๆ , เมฆและทุ่งน้ำแข็งบนพื้นผิวที่สะท้อนให้เห็นถึงการจัดการที่ดีของรังสีจากดวงอาทิตย์ดังนั้นรังสีเหล่านี้ไม่ถึงพื้นผิวและอบอุ่น สะท้อนแสงของเมฆและน้ำแข็งมีผลต่อการระบายความร้อนบนโลก แต่ที่พื้นผิวของโลกที่ได้รับความร้อนจากพลังงานแสงอาทิตย์, พลังงานเมฆช่วยเหลือดักแผ่จากพื้นผิวความร้อนและทำให้มีผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนได้เป็นอย่างดี การเปลี่ยนแปลงในปริมาณและรูปแบบของน้ำในชั้นบรรยากาศมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับสภาพภูมิอากาศของเราที่เป็นเรื่องยากในการจำลองและคาดการณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

น้ำครอบคลุมประมาณ 70% ของผิวโลก ทำให้ขึ้นประมาณ 70% ของมวลของคุณและเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต รูปถ่ายของโลก นำโดย อพอลโล 17 ลูกเรือเมื่อพวกเขาเดินทางไปยังดวงจันทร์เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2515 แสดงพื้นที่ของโลกจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในทวีปแอนตาร์กติกา น้ำที่สามารถมองเห็นได้ในรูปนี้เป็นแอตแลนติก และอินเดียใต้ ( หรือมหาสมุทรแอนตาร์กติก ) , ชั้นน้ำแข็งที่ปกคลุมพื้นโลกใต้ขั้วโลก และเมฆปกคลุมหนักในพื้นที่ภาคใต้ และกระจายไปตามแนวเส้นศูนย์สูตรน้ำเป็นเพียงสสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติบนโลกทั้งสามรัฐทางกายภาพของก๊าซ ของเหลวและของแข็ง และขึ้นมันเสมอในการย้ายของพวกเขา แผ่นดินมีมหาสมุทรน้ำเหลวและแข็งแถบขั้วโลกปกคลุมด้วยน้ำ พลังงานจากดวงอาทิตย์จะถูกดูดซึมโดยของเหลวในมหาสมุทร ทะเลสาบ และแม่น้ำ ได้รับพลังงานเพียงพอสำหรับบางมันระเหยเข้าสู่บรรยากาศ เป็นแก๊ส มองไม่เห็นไอน้ำ เป็นไอน้ำที่เพิ่มขึ้นในบรรยากาศมันเย็นและควบแน่นเป็นหยดของเหลวเล็กๆ กระจายแสง และจะมองเห็นเป็นเมฆ ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม หยดเหล่านี้เพิ่มเติมรวมและกลายเป็นหนักพอที่จะตกตะกอน ( ตก ) เป็นหยดของเหลวหรือ หรือถ้าอากาศเย็น พอสะเก็ดแข็ง จึงกลับไปที่พื้นผิวของโลกต่อวัฎจักรของน้ำระหว่างย่อและไอเฟส ( เยี่ยมชม http://www.eoearth.org/article/hydrologic_cycle สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฏจักรอุทกวิทยา )น้ำใน 3 รัฐ ทำให้ผลงานขนาดใหญ่เพื่อบรรยากาศของดาวเคราะห์ ไอน้ำเป็นก๊าซเรือนกระจกที่กับดักพลังงานที่เกิดจากพื้นผิวของโลกและช่วยให้โลกอบอุ่นพอที่จะรักษาชีวิตที่ซับซ้อนที่ได้พัฒนาในสภาพแวดล้อมนี้ ไอน้ำเป็นผู้รับผิดชอบมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลกก๊าซร้อน บนมืออื่น ๆ , เมฆและทุ่งน้ำแข็งบนพื้นผิวสะท้อนให้เห็นถึงการจัดการที่ดีของรังสีจากดวงอาทิตย์ ดังนั้น รังสีนี้ไม่ถึงพื้นผิว และอบอุ่นค่ะ และการสะท้อนกลับของเมฆและน้ำแข็งมีการระบายความร้อนบนโลก อย่างไรก็ตาม ที่พื้นผิวโลกได้รับความร้อนจากรังสีดวงอาทิตย์เมฆช่วยดักจับพลังงานที่เกิดจากผิวอุ่น และร้อนจึงมีลักษณะเป็น อย่างดี การเปลี่ยนแปลงปริมาณและรูปแบบของน้ำในบรรยากาศมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับสภาพภูมิอากาศของเรามันยากที่จะโมเดลและคาดเดาได้