Cigarette smoking is a growing prob

Cigarette smoking is a growing problem among adolescents. This correlational study tested theoretical relationships between the dependent variable (smoking behavior) and the independent variables (depression and smoking resistance self-efficacy) in a convenience sample of 364 college students ages 18 to 21 years recruited from a large urban public college. An a priori mediational model tested the role of smoking resistance self-efficacy as a mediator in the relationship between smoking behavior and depression. Findings showed there was a statistically significant positive relationship between depression and smoking behavior (r = 0.122, p = 0.01). There was a statistically significant negative relationship between smoking resistance self-efficacy and smoking behavior (r = -0.744, p = 0.01). Additionally, smoking resistance self-efficacy was a mediator of the relationship between depression and smoking behavior (ß = -0.757, p = 0.001). This study identifies a need for further theory-driven study of the relation of adolescent depression and smoking behavior. The findings of this study have implications for nursing interventions targeted to both current smokers and smoking initiation prevention programs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การสูบบุหรี่เป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นในหมู่วัยรุ่น การศึกษานี้ correlational ทดสอบทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรขึ้นอยู่กับ (พฤติกรรมสูบบุหรี่) และตัวแปรอิสระ (ภาวะซึมเศร้าและการสูบบุหรี่ต่อต้านตนเองประสิทธิภาพ) ในตัวอย่างสะดวก 364 วิทยาลัยนักเรียนอายุ 18-21 ปีพิจารณาจากวิทยาลัยสาธารณะเมืองใหญ่ การใช้ priori รุ่น mediational ผ่านทดสอบบทบาทของบุหรี่ต่อต้านตนเองประสิทธิภาพเป็นผู้ไกล่เกลี่ยในความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการสูบบุหรี่และภาวะซึมเศร้า ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า มีความสัมพันธ์ในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างภาวะซึมเศร้าและพฤติกรรมการสูบบุหรี่ (r = 0.122, p = 0.01) การ มีความสัมพันธ์เชิงลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างการสูบบุหรี่ต่อต้านตนเองประสิทธิภาพ และพฤติกรรมการสูบบุหรี่ (r =-0.744, p = 0.01) การ นอกจากนี้ ต้านทานตนเองประสิทธิภาพการสูบบุหรี่เป็นสื่อกลางของความสัมพันธ์ระหว่างภาวะซึมเศร้าและพฤติกรรมการสูบบุหรี่ (ß =-0.757, p = 0.001) การศึกษานี้ระบุต้องเพิ่มเติมทฤษฎีการขับเคลื่อนการศึกษาความสัมพันธ์ของวัยรุ่นซึมเศร้าและพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ผลการวิจัยของการศึกษานี้มีนัยสำหรับพยาบาลงานเป้าหมายทั้งผู้สูบบุหรี่ปัจจุบันและโปรแกรมป้องกันการเริ่มต้นสูบบุหรี่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การสูบบุหรี่เป็นปัญหาการเจริญเติบโตในหมู่วัยรุ่น การศึกษาครั้งนี้ได้รับการทดสอบความสัมพันธ์เชิงทฤษฎีระหว่างตัวแปรตาม (การสูบบุหรี่พฤติกรรม) และตัวแปรอิสระ (ภาวะซึมเศร้าและการสูบบุหรี่ต้านทานประสิทธิภาพของตนเอง) ในตัวอย่างความสะดวกสบายของ 364 นักศึกษาอายุ 18-21 ปีได้รับคัดเลือกจากวิทยาลัยสาธารณะเมืองใหญ่ เบื้องต้นรูปแบบ mediational ทดสอบบทบาทของความต้านทานการสูบบุหรี่การรับรู้ความสามารถของตนเองเป็นสื่อกลางในความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการสูบบุหรี่และภาวะซึมเศร้า ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์เชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างภาวะซึมเศร้าและพฤติกรรมการสูบบุหรี่ (r = 0.122, p = 0.01) มีความสัมพันธ์เชิงลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างความต้านทานการสูบบุหรี่การรับรู้ความสามารถตนเองและพฤติกรรมการสูบบุหรี่ (r = -0.744, p = 0.01) นอกจากนี้การสูบบุหรี่ต้านทานประสิทธิภาพของตนเองเป็นสื่อกลางของความสัมพันธ์ระหว่างภาวะซึมเศร้าและพฤติกรรมการสูบบุหรี่ (ÃÅว = -0.757, p = 0.001) การศึกษาครั้งนี้ระบุถึงความต้องการการศึกษาทฤษฎีที่ขับเคลื่อนต่อไปของความสัมพันธ์ของภาวะซึมเศร้าวัยรุ่นและพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ผลการศึกษาครั้งนี้มีผลกระทบต่อการปฏิบัติการพยาบาลที่กำหนดเป้​​าหมายทั้งผู้สูบบุหรี่ในปัจจุบันและการเริ่มต้นโปรแกรมการป้องกันการสูบบุหรี่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การสูบบุหรี่เป็นปัญหาการเจริญเติบโตของวัยรุ่น การศึกษาเชิงสหสัมพันธ์นี้ทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรเชิงพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ) และตัวแปรอิสระ ( ภาวะซึมเศร้าและสูบบุหรี่ ความสามารถต้านทาน ) ในความสะดวกสบายตัวอย่างของนักศึกษาอายุ 18 ถึง 21 ปี ผมได้รับคัดเลือกจากขนาดใหญ่ในเมืองสาธารณะวิทยาลัยเป็นแบบทดสอบ mediational ระหว่างบทบาทของการสูบบุหรี่ต้านทานแรงเป็นสื่อกลางในความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการสูบบุหรี่และภาวะซึมเศร้า ผลการวิจัยพบว่ามีความสัมพันธ์เชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างภาวะซึมเศร้าและพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ( r = 0.122 , p = 0.01 )มีความสัมพันธ์เชิงลบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างการรับรู้ความสามารถของตนเองและพฤติกรรมต่อต้านการสูบบุหรี่สูบบุหรี่ ( r = -0.744 , p = 0.01 ) นอกจากนี้ ความสามารถต้านทานสูบบุหรี่เป็นสื่อกลางของความสัมพันธ์ระหว่างภาวะซึมเศร้าและพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ( ß = -0.757 , p = 0.001 )การศึกษาครั้งนี้ ระบุว่าต้องการทฤษฎีเพิ่มเติมขับเคลื่อนการศึกษาความสัมพันธ์ของอาการซึมเศร้าในวัยรุ่นและพฤติกรรมการสูบบุหรี่ การศึกษานี้มีเป้าหมายสำหรับการพยาบาล smokers ในปัจจุบันและโปรแกรมการป้องกันการริเริ่มสูบบุหรี่