1. Have students write regularly an

1. Have students write regularly and frequently.
Frequent writing helps to break down students’ writing inhibitions and make them more comfortable in
expressing their ideas in written words. Don’t worry: You don’t have to grade every writing assignment.
You might simply scan some of these assignments.
2. Focus less on mechanics than on the thinking and writing skills central to your discipline.
Your job is not to teach the basic mechanics of writing. By the time your students reach you, they will
already have had a great deal of instruction in grammar, syntax, word choice, organization, and other
aspects of writing. If they continue to have problems with mechanics, let specialists, in the Writing Center,
help them.
3. Stress the “pre-writing” process.
“Pre-writing” is the process through which a writer asks questions of the material and devises (or
brainstorms) strategies for analyzing the material. You might ask the students to summarize a particular
reader’s argument or describe a debate within the scholarship or formulate a thesis or draft a compelling
introduction to a topic. Pre-writing is a great way to overcome writer’s anxiety and get ideas flowing.
4. Vary the assignment’s purpose and audience.
Students write best when they have a clear sense of the purpose of the writing and of their audience. You
mightaAsk your students to write for an audience other than you. For example, in a Political Science course, you might ask them to write a memorandum to a political campaign or a brief to the Supreme
Court.
5. Tailor your assignments to the skills and conventions of your discipline.
In the social sciences, for example, students must evaluate quantitative data and critically evaluate
methodologies and distinguish between correlation and causation. Therefore, you might give your students
an assignment in which they must analyze a data set, evaluate a methodological approach, or assess
whether a correlation is spurious or causal.
6. Build assignments around focused “prompts.”
A common mistake in disciplinary-based writing is to give assignments that are too vague and unfocused.
Instead, consider build your assignment around a specific disciplinary skill. For instance, in a History
course this might involve weighing evidence or evaluating conflicting interpretations of a particular
historical event.
7. Integrate peer review into your class.
That doesn’t necessarily mean asking students to grade other students’ written work. It might involve
having the entire class discuss anonymous excerpts from students’ writing or having a small group of
students review the literature on a topic and draft a hypothesis.
8. Create sequential assignments that build on one another.
Each assignment should add a layer of complexity or broaden the range of students’ writing experiences.
For instance, you might ask students to begin by writing a literature review. Then you might ask them to
critique the literature, and then craft a thesis of their own.
9. Focus your criticism.
Instead of asking a student to correct all the errors in a paper, focus on the most glaring. Identify a
particular problem before moving on to other difficulties.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. มีนักเรียนที่เขียนอย่างสม่ำเสมอ และบ่อย ๆ
เขียนบ่อยช่วยแบ่งนักเขียน inhibitions และให้สะดวกสบายมากขึ้นใน
กำลังความคิดในการเขียนคำ ไม่ต้องกังวล: คุณไม่จำเป็นต้องกำหนดเขียนทุกชั้นปี
คุณอาจเพียงแค่สแกนการกำหนดเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่ง
2 ความสำคัญน้อยในกลศาสตร์กว่าคิดและศูนย์กลางของคุณวินัยทักษะการเขียน
เป็นไม่สอนกลศาสตร์พื้นฐานของการเขียน โดยเวลานักเรียนของคุณถึงคุณ พวกเขาจะ
แล้วจะมีคำแนะนำในไวยากรณ์ ไวยากรณ์ คำเลือก องค์กร และอื่น ๆ มาก
ลักษณะเขียน หากพวกเขายังมีปัญหาเกี่ยวกับกลศาสตร์ ให้ผู้เชี่ยวชาญ ในการเขียน,
ช่วยให้พวกเขา
3 ความเครียดการ "เขียนล่วงหน้า"
"ก่อนเขียน" เป็นกระบวนการที่นักเขียนถามคำถามวัสดุและ devises (หรือ
brainstorms) กลยุทธ์การวิเคราะห์วัสดุ คุณอาจขอให้นักเรียนสรุปเฉพาะ
อาร์กิวเมนต์ของผู้อ่าน หรืออธิบายอภิปรายภายในทุนสร้างวิทยานิพนธ์ หรือร่างจับใจ
แนะนำหัวข้อ เขียนก่อนเป็นวิธีดีเพื่อเอาชนะความวิตกกังวลของผู้เขียน และความคิดที่ไหล
4 การกำหนดวัตถุประสงค์และผู้ชมแตกต่างกันไป
นักเรียนเขียนส่วนเมื่อมีความชัดเจนของวัตถุประสงค์ ของการเขียน และผู้ชมของพวกเขา คุณ
mightaAsk นักเรียนในการเขียนสำหรับผู้ชมไม่ใช่คุณ ในหลักสูตรรัฐศาสตร์ ตัวอย่าง คุณอาจขอให้เขียนบันทึกเพื่อการณรงค์หรือย่อให้ฎีกา
ศาลได้
5 ปรับแต่งของคุณกำหนดให้กับทักษะและระเบียบวินัยของ
ในสังคมศาสตร์ ตัวอย่าง นักศึกษาต้องประเมินข้อมูลเชิงปริมาณ และประเมินถึง
วิธี และแยกความแตกต่างระหว่างความสัมพันธ์และ causation ดังนั้น คุณอาจให้นักเรียนของคุณ
การกำหนดที่จะต้องวิเคราะห์ชุดข้อมูล ประเมินวิธี methodological หรือประเมิน
ไม่ว่าความสัมพันธ์จะเก๊ หรือสาเหตุ
6 สร้างกำหนดรอบโฟกัส "พร้อมท์การ"
ผิดวินัยการเขียนทั่วไปคือให้กำหนดที่ unfocused และคลุมเครือเกินไป
แทน พิจารณาสร้างการมอบหมายสถานเฉพาะวินัยทักษะการ ตัวอย่าง ในประวัติ
หลักสูตรนี้อาจเกี่ยวข้องกับการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน หรือการประเมินตีความขัดแย้งทั้งหมด
เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ได้
7 รวมรีวิวเพียร์เป็นคลาสของคุณ
ที่ไม่ได้หมายความว่า ขอให้นักศึกษาชั้นปีอื่น ๆ นักเขียนงาน มันอาจเกี่ยวข้องกับ
มีคลาสทั้งหมดหารือนำแบบจากนักเขียน หรือมีกลุ่มเล็ก
นักเรียนทบทวนวรรณกรรมในหัวข้อ และร่างเป็นสมมติฐาน
8 สร้างการมอบหมายลำดับที่สร้างกัน
กำหนดแต่ละครั้งควรเพิ่มชั้นของความซับซ้อน หรือขยายช่วงของนักเขียนประสบการณ์
ตัวอย่างเช่น คุณอาจให้นักเรียนเริ่ม ด้วยการเขียนทบทวนวรรณกรรม แล้วคุณอาจขอให้
วิจารณ์วรรณกรรม และหัตถกรรมวิทยานิพนธ์ของตนเองแล้ว
9 เน้นการวิจารณ์ของคุณ
แทนของขอเรียนแก้ไขข้อผิดพลาดในเอกสาร เน้นสุดแจ๋ ระบุการ
ปัญหาเฉพาะก่อนที่จะย้ายในกับปัญหาอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . มีนักเรียนเขียนเป็นประจำและบ่อย
เขียนบ่อย ๆ ช่วยแบ่งนักศึกษาเขียนยับยั้งและให้สะดวกสบายมากขึ้นในการแสดงความคิดเห็นของพวกเขาใน
ภาษาเขียน อย่ากังวลคุณไม่ต้องเขียนเกรดทุกงาน
คุณอาจเพียงแค่สแกนบางส่วนของงานเหล่านี้
2 .โฟกัสน้อยกว่ากลศาสตร์กว่าในการคิดและการเขียน กลาง กับ วินัย ของคุณทักษะ
งานของคุณไม่ได้ที่จะสอนกลศาสตร์พื้นฐานของการเขียน โดยเวลาที่นักเรียนของคุณถึงคุณ , พวกเขาจะ
แล้วมีการจัดการที่ดีของการสอนไวยากรณ์ , ไวยากรณ์ , การเลือก , องค์กรคำ และด้านอื่น ๆ
เขียน ถ้าพวกเขายังคงมีปัญหากับช่าง ให้ผู้เชี่ยวชาญในการเขียนศูนย์
ช่วยพวกเขา
3 ความเครียด " ก่อน " การเขียนกระบวนการ
" ก่อน " การเขียนเป็นกระบวนการซึ่งเป็นนักเขียนที่ถาม ของวัสดุ และการสร้าง ( หรือ
brainstorms ) กลยุทธ์ในการวิเคราะห์วัสดุ คุณอาจจะถามให้นักเรียนสรุปเฉพาะ
อ่านของการโต้แย้งหรืออธิบายการอภิปรายภายในทุนหรือสร้างวิทยานิพนธ์หรือร่างน่าสนใจ
แนะนำหัวข้อ เขียนก่อนเป็นวิธีที่ดีที่จะเอาชนะความวิตกกังวลของนักเขียนและได้รับความคิดไหล
4 เปลี่ยนวัตถุประสงค์ของงานและผู้ชม
นักเรียนเขียนที่ดีที่สุดเมื่อพวกเขามีความเข้าใจที่ชัดเจนของวัตถุประสงค์ของการเขียนและผู้ชมของพวกเขา คุณ
mightaask นักเรียนเขียนสำหรับผู้ชม นอกจากคุณ ตัวอย่างเช่น ในทางรัฐศาสตร์ครับคุณอาจจะถามพวกเขาที่จะเขียนบันทึกเพื่อการรณรงค์ทางการเมืองหรือย่อให้ศาลฎีกา


5 ปรับแต่งงานของคุณทักษะและแบบแผนของวินัยของคุณ
ในสังคมศาสตร์ ตัวอย่างเช่น นักศึกษาต้องศึกษาข้อมูลเชิงปริมาณและวิธีการประเมินและแยกความแตกต่างระหว่างวิกฤต
) และสาเหตุ ดังนั้น คุณอาจจะให้นักเรียนของคุณ
งานที่พวกเขาต้องวิเคราะห์ชุดข้อมูล ประเมินวิธีการวิธีการ หรือประเมิน
ว่าปลอม หรือ มีความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ
6 สร้างงานรอบเน้น " แจ้ง "
ผิดพลาดทั่วไปในทางวินัยจากการเขียนเพื่อให้งานที่คลุมเครือเกินไป และไม่ตั้งเป้า
แทน พิจารณาสร้างการบ้านรอบเฉพาะทางทักษะ สำหรับอินสแตนซ์ในประวัติศาสตร์
หลักสูตรนี้อาจเกี่ยวข้องกับการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน หรือประเมินที่ขัดแย้งกันแม้เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์โดยเฉพาะ


7 รวมรีวิวเพื่อนในชั้นเรียนของคุณ
นั่นไม่ได้หมายความว่าถามนักเรียนเกรดนักเรียนคนอื่น ๆที่เขียนงาน มันอาจเกี่ยวข้องกับ
มีทั้งชั้นปรึกษานิรนามตัดตอนจากนักศึกษาเขียน หรือมีกลุ่มเล็ก ๆของ
นักเรียนทบทวนวรรณกรรมในหัวข้อและร่างสมมติฐาน
8 สร้างแบบลำดับขั้นที่สร้างในอีกแบบหนึ่ง
แต่ละงานควรเพิ่มชั้นของความซับซ้อน หรือขยายช่วงของนักศึกษาเขียนประสบการณ์
ตัวอย่าง คุณอาจถามนักเรียนจะเริ่มต้นด้วยการเขียนทบทวนวรรณกรรม . แล้วคุณอาจจะถามพวกเขาที่จะ
วิจารณ์วรรณกรรมและจากนั้น วิทยานิพนธ์ของตนเอง
9 เน้นการวิจารณ์ของคุณ
แทนที่จะถามนักเรียนเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดทั้งหมดในกระดาษ มุ่งเน้นจ้องมองมากที่สุด ระบุปัญหาที่เฉพาะเจาะจงก่อนที่จะย้าย

ปัญหาอื่น ๆ