This Ex Post Facto study compared s

This Ex Post Facto study compared standardized test scores of grade nine students in urban high
schools of the same school district being taught algebra in the classroom using Computer
Assisted Instruction (CAI) to students being taught in the classroom without the use of
computers, Traditional Method Instruction (TMI). Comparison of each group's mean score on
the NPSS, a norm-referenced test, was used to determine if there was a statistically significant
difference in scoring by each group. Additional testing for interaction of gender with the
treatment was done. Four algebra classrooms throughout the district having data on the NPSS
were found to use CAI during the period of 1995 to 1999. The students used PLATO software.
Out of over 8000 students, a total of 64 students were found who received CAI, but only 45 had
NPSS test scores. A group of 45 randomly selected students in the TMI group were paired for
gender and school. Using an analysis of variance (ANOVA) (p = .05), results indicated that the
TMI group in grade nine scored significantly higher (p = .010488). Additionally, the CAI group
compared their grade eight and nine scores. Of the 45 who had NPSS scores in grade nine only
24 had NPSS scores in grade eight. An ANOVA indicated there was no significant difference in
scores from grade eight to grade nine (.p = .0.922628). Testing for interaction of gender and
treatment with this group resulted in no significant change in NPSS scores.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศึกษาอดีตดีแฟ็คโตโพสต์เปรียบเทียบคะแนนทดสอบมาตรฐานของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีเก้าในเมืองสูง โรงเรียนย่านโรงเรียนเดียวกันที่การเรียนการสอนในห้องเรียนที่ใช้คอมพิวเตอร์พีชคณิต ช่วยสอน (ไก) การเรียนการสอนในห้องเรียนโดยไม่ใช้ คอมพิวเตอร์ สอนวิธีดั้งเดิม (TMI) เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยของแต่ละกลุ่มบน NPSS ปกติอ้างอิงทดสอบ ใช้ในการตรวจมีความสำคัญทางสถิติ ความแตกต่างในการให้คะแนนโดยแต่ละกลุ่ม ทดสอบเพิ่มเติมสำหรับการโต้ตอบของเพศกับการ รักษาได้แล้ว ห้องเรียนพีชคณิตสี่ตลอดย่านที่มีข้อมูลในการ NPSS พบการใช้ไกช่วง 1995-1999 นักเรียนใช้ซอฟต์แวร์เพลโต จากนักศึกษากว่า 8000 จำนวนนักเรียน 64 พบผู้รับไก แต่เพียง 45 ได้ NPSS ทดสอบคะแนน กลุ่มของนักเรียนโดยการสุ่มเลือก 45 กลุ่ม TMI ถูกจับคู่ใน โรงเรียนและเพศ โดยใช้ผลต่างของการวิเคราะห์ (วิเคราะห์ความแปรปรวน) (p =.05), ระบุผลที่จะ กลุ่ม TMI ในเกรดเก้าคะแนนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (p =.010488). นอกจากนี้ กลุ่มไก เปรียบเทียบคะแนนเกรดแปดและเก้าของพวกเขา ของ 45 ที่มีคะแนน NPSS ในเกรดเก้าเท่านั้น 24 มี NPSS คะแนนเกรดแปด แสดงการวิเคราะห์ความแปรปรวนมีไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญใน คะแนนจากชั้นแปดชั้นเก้า (.p =.0.922628) ทดสอบการโต้ตอบของเพศ และ รักษากลุ่มนี้ทำให้ไม่เปลี่ยนแปลง NPSS คะแนน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โพสต์นี้อดีต Facto ศึกษาเปรียบเทียบคะแนนการทดสอบมาตรฐานของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่เก้าในเมืองสูง
โรงเรียนของโรงเรียนอำเภอเดียวกันได้รับการสอนพีชคณิตในห้องเรียนโดยใช้คอมพิวเตอร์
ช่วยสอน (CAI) ให้กับนักเรียนที่ได้รับการสอนในห้องเรียนโดยไม่ต้องใช้
คอมพิวเตอร์วิธีการแบบดั้งเดิม การเรียนการสอน (TMI) เปรียบเทียบของแต่ละค่าเฉลี่ยของกลุ่มใน
NPSS การทดสอบบรรทัดฐานอ้างอิงถูกนำมาใช้เพื่อตรวจสอบว่ามีนัยสำคัญทางสถิติ
ความแตกต่างในการให้คะแนนโดยแต่ละกลุ่ม การทดสอบเพิ่มเติมสำหรับการทำงานร่วมกันของเพศที่มี
การรักษาที่ได้กระทำ สี่ห้องเรียนพีชคณิตทั่วอำเภอที่มีข้อมูลเกี่ยวกับ NPSS
พบว่ามีการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในช่วงระยะเวลาของปี 1995 ปี 1999 นักเรียนที่จะใช้ซอฟแวร์ PLATO.
จากนักเรียนมากกว่า 8000 รวม 64 นักเรียนพบว่ามีผู้ที่ได้รับบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน แต่เพียง 45 มี
คะแนนการทดสอบ NPSS กลุ่มนักเรียน 45 คนสุ่มเลือกในกลุ่ม TMI คู่สำหรับ
เพศและโรงเรียน โดยใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวน (ANOVA) (p = 0.05) ผลการศึกษาพบว่า
กลุ่ม TMI ในระดับเก้าคะแนนที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (p = 0.010488) นอกจากนี้กลุ่มบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
ชั้นประถมศึกษาปีของพวกเขาเมื่อเทียบแปดเก้าคะแนน 45 ที่มีคะแนนในระดับ NPSS เก้าเพียง
24 NPSS มีคะแนนในระดับแปด ANOVA ระบุไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญใน
คะแนนจากเกรดแปดถึงเก้าชั้น (.p = .0.922628) การทดสอบการทำงานร่วมกันของเพศและ
การรักษาด้วยกลุ่มนี้ส่งผลให้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในคะแนน NPSS

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นี้อดีตโพสต์ facto เปรียบเทียบคะแนนแบบทดสอบที่เป็นมาตรฐานของนักเรียนชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนเมืองสูง
เดียวกันโรงเรียนการสอนพีชคณิตในชั้นเรียน โดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน ( CAI )
นักเรียนที่ได้รับการสอนในชั้นเรียนโดยไม่ใช้
คอมพิวเตอร์ วิธีการสอนแบบดั้งเดิม ( TMI ) การเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของคะแนนของแต่ละกลุ่มใน npss
,เป็นแบบทดสอบอิงกลุ่มอิงเกณฑ์ ถูกใช้เพื่อตรวจสอบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ โดย
คะแนนในแต่ละกลุ่ม การทดสอบเพิ่มเติมสำหรับปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพศกับ
รักษาเสร็จแล้ว สี่พีชคณิตห้องเรียนตลอดเขตมีข้อมูลใน npss
พบการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนในช่วงปี 1995 ถึง 1999 นักเรียนใช้แบบซอฟต์แวร์
จากกว่า 8 , 000 คนทั้งหมด 64 คน พบว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนที่ได้รับแต่เพียง 45 มี
คะแนนการทดสอบ npss . จำนวน 45 สุ่มนักเรียนกลุ่ม TMI เป็นคู่ สำหรับ
เพศและโรงเรียน โดยใช้การวิเคราะห์ความแปรปรวน ( ANOVA ) ( p = . 05 ) ผลการวิจัยพบว่า ในกลุ่ม
TMI เกรดเก้าคะแนนสูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ( p = . 010488 ) นอกจากนี้ กลุ่มไก
เทียบเกรดของพวกเขาแปดและเก้าคะแนนของที่ได้ npss 45 คะแนนเกรดเก้าเท่านั้น
npss 24 มีคะแนนเกรดแปด เป็นทางเดียวพบว่าไม่มีความแตกต่าง
คะแนนจากเกรดแปดเกรดเก้า ( P = . 0.922628 ) การทดสอบปฏิสัมพันธ์ของเพศและการรักษาด้วยกลุ่ม
โดยที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสําคัญในคะแนน npss .