Well, there are various ways, but t

Well, there are various ways, but the most direct is to use a very powerful microscope like the atomic force microscope. That is what Seth Darling used to “see” his surfaces and all those shapes that make it look like waves on the ocean.
The world’s most powerful micro- scopes don’t see things with light.
They see things by feeling with a very sharp tip on the end of something that looks like a needle. The tip is so sharp that it’s only a few atoms wide, so as it is moved across something tiny, like a single molecule, it can feel the shape.
These very powerful microscopes are called atomic force microscopes, because they can see things by feeling the forces between atoms. So with an atomic force microscope you can see things as small as a strand of DNA or even individual atoms.
These microscopes use computers to help convert the information from tapping on a surface to generate a three-dimensional view of an object. So with the world’s most powerful microscope, scientists have been able to ”see” DNA and report that it is a double helix just like Watson and Crick showed over 50 years ago! Or, more recently, Seth Darling was able to see his material.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดี มีหลายวิธี ได้ตรงมากที่สุดคือการ ใช้กล้องจุลทรรศน์ที่มีประสิทธิภาพมากเช่นกล้องจุลทรรศน์แรงอะตอม นั่นคือบริษัทเศรษฐ์ลิ้งที่ใช้การ "เห็น" ของพื้นผิว และรูปร่างเหล่านั้นทั้งหมดที่ทำให้มันดูเหมือนคลื่นในมหาสมุทร ของโลกมีประสิทธิภาพที่สุดไมโครขอบข่ายไม่เห็นสิ่งที่ มีแสงพวกเขาเห็นสิ่งจากความรู้สึกกับเคล็ดลับคมมากในส่วนของสิ่งที่มีลักษณะเหมือนเข็ม เคล็ดลับได้คมชัดจึงเป็นเพียงไม่กี่อะตอมที่กว้าง เพื่อจะเป็นย้ายข้ามสิ่งเล็ก ๆ เช่นโมเลกุลเดี่ยว มันสามารถรู้สึกรูปร่างกล้องจุลทรรศน์ที่มีประสิทธิภาพสูงเหล่านี้จะเรียกว่ากล้องจุลทรรศน์แรงอะตอม เนื่องจากพวกเขาสามารถดูสิ่งที่รู้สึกกองระหว่างอะตอม ดังนั้นคุณสามารถดูสิ่งที่ตามสาระของดีเอ็นเอหรือแม้แต่ละอะตอมได้ ด้วยกล้องจุลทรรศน์แรงอะตอมการคิตเหล่านี้ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อช่วยแปลงข้อมูลจากแตะบนพื้นผิวเพื่อสร้างมุมมองสามมิติของวัตถุ ดังนั้น ด้วยกล้องจุลทรรศน์มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก นักวิทยาศาสตร์ได้สามารถ "เห็น" ดีเอ็นเอและรายงานที่เป็นเกลียวคู่เช่นเดียวกับวัตสัน และคริกพบกว่า 50 ปีที่ผ่านมา หรือ เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทเศรษฐ์ลิ้งได้ดูวัสดุของเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดีมีหลายวิธี แต่ที่ตรงที่สุดคือการใช้กล้องจุลทรรศน์ที่มีประสิทธิภาพมากเช่นกล้องจุลทรรศน์แรงอะตอม นั่นคือสิ่งที่เซทดาร์ลิ่งที่ใช้ในการ "เห็น" พื้นผิวและรูปทรงเหล่านั้นของเขาว่าให้มีลักษณะเหมือนคลื่นในมหาสมุทร.
ขอบเขตไมโครที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลกไม่เห็นสิ่งที่มีแสง.
พวกเขาเห็นสิ่งด้วยความรู้สึกที่มีความคมชัดมาก เคล็ดลับในการสิ้นสุดของบางสิ่งบางอย่างที่มีลักษณะเหมือนเข็ม เคล็ดลับคมเพื่อที่จะเป็นเพียงไม่กี่อะตอมกว้างเพื่อที่มันจะเดินข้ามบางสิ่งบางอย่างเล็ก ๆ เช่นโมเลกุลเดียวที่จะสามารถรู้สึกรูปร่าง.
เหล่านี้กล้องจุลทรรศน์ที่มีประสิทธิภาพมากจะเรียกว่ากล้องจุลทรรศน์แรงอะตอมเพราะพวกเขาสามารถมองเห็นสิ่งที่ความรู้สึก กองกำลังระหว่างอะตอม ดังนั้นด้วยกล้องจุลทรรศน์แรงอะตอมคุณสามารถเห็นสิ่งที่มีขนาดเล็กเป็นสาระของดีเอ็นเอหรือบุคคลแม้อะตอม.
กล้องจุลทรรศน์เหล่านี้ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการแปลงข้อมูลจากการแตะบนพื้นผิวเพื่อสร้างมุมมองสามมิติของวัตถุ ดังนั้นด้วยกล้องจุลทรรศน์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลกที่นักวิทยาศาสตร์ได้รับสามารถที่จะ "เห็น" ดีเอ็นเอและรายงานที่ว่ามันเป็นเกลียวคู่เช่นเดียวกับวัตสันและคริกแสดงให้เห็นว่ากว่า 50 ปีที่ผ่านมา! หรือเมื่อเร็ว ๆ นี้เซทที่รักก็สามารถที่จะมองเห็นวัตถุ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ก็มีหลายวิธี แต่ทางตรงมากที่สุดคือการใช้กล้องจุลทรรศน์ที่มีประสิทธิภาพมากเช่นกล้องจุลทรรศน์แรงอะตอม นั่นคือสิ่งที่เซทที่รักเคย " เห็น " ของเขาเหล่านั้นทั้งหมดที่พื้นผิวและรูปร่างให้เหมือนคลื่นในมหาสมุทร
ไมโคร - ของโลกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดขอบเขตไม่เจอ เรื่องแสง
พวกเขาเห็นบางอย่าง ด้วยความรู้สึกที่มีปลายคมมาก ในส่วนของสิ่งที่มีลักษณะเหมือนเข็ม เคล็ดลับคือ คมมาก ว่ามันเป็นเพียงไม่กี่อะตอม กว้าง ดังนั้นมันเป็นย้ายข้ามบางสิ่งบางอย่างเล็ก ๆ เหมือนเป็นโมเลกุลเดี่ยว มันรู้สึกได้ถึงรูปร่าง
กล้องจุลทรรศน์ที่มีประสิทธิภาพมากเหล่านี้เรียกว่ากล้องจุลทรรศน์แรงอะตอม เนื่องจากพวกเขาสามารถเห็นสิ่งต่างๆ ด้วยความรู้สึกแรงดึงดูดระหว่างอะตอมดังนั้นด้วยกล้องจุลทรรศน์แรงอะตอม คุณสามารถดูสิ่งที่เล็กเท่าเส้นดีเอ็นเอ หรือแม้แต่แต่ละอะตอม
กล้องจุลทรรศน์เหล่านี้ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการแปลงข้อมูลจากการแตะบนพื้นผิวเพื่อสร้างมุมมองสามมิติของวัตถุ ดังนั้นด้วยกล้องจุลทรรศน์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของโลกนักวิทยาศาสตร์ได้สามารถ " เห็น " ดีเอ็นเอ และรายงานว่ามันเป็นเกลียวคู่เหมือน Watson และลำคลอง พบมากกว่า 50 ปี หรือ เพิ่มเติมล่าสุด เซธ ที่รักได้เห็นวัสดุของเขา .