Results and DiscussionFigure 2 show

Results and Discussion
Figure 2 shows the XRD spectra for the coatings produced in this investigation. The 140MXC coating had one signal which may have been FCC, or simple HCP iron, or Fe alloyed with Cr, Nb, or W. This was likely due to the formation of an amorphous structure, which may have had its origin in the size of the filler powders in 140MXC tubular wire. Previous research (Castella-nos Dimate LM, 2011) using transmission electron microscopy (not shown) identified the formation of randomly orientated nanograins in an amorphous matrix. The same pattern was seen in the 140MXC + 560AS and 140MXC + 530AS bilayers, possibly being associated with 140MXC layer thickness, which was great-er than 50μm, and this may have impeded X-ray beam penetra-tion through the lower coating.
The BCC structure of alpha iron with mixed orientation planes (110), (200), (220), (310) and (310) was found in the 530AS and 140MXC + 530 AS coatings. It was also observed that the 140MXC +530 AS sample had less signal intensity, close to 45°, which may have been attributed to the formation of an amor-phous structure. The XRD pattern found in the 530AS coating

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลลัพธ์และสนทนา
2 รูปแสดงแรมสเป็คตรา XRD สำหรับเคลือบผลิตในนี้ เคลือบ 140MXC มีสัญญาณหนึ่งที่อาจได้รับของ FCC หรือเหล็ก HCP ง่าย หรือ Fe alloyed กับ Cr, Nb, W. นี่คืออาจเนื่องจากการก่อตัวของการไปโครงสร้าง ซึ่งอาจจะมีกำเนิดในขนาดของผงฟิลเลอร์ในลวดท่อ 140MXC งานวิจัยก่อนหน้านี้ (หมายเลขเด่น Dimate LM, 2011) โดยใช้การส่งผ่านอิเล็กตรอน microscopy (ไม่แสดง) ระบุการก่อตัวของ nanograins เปลี่ยนแปลงแบบสุ่มในเมทริกซ์การไป รูปแบบเดียวกันที่เห็นใน 140MXC 560AS 140MXC 530AS bilayers อาจจะเกี่ยวข้องกับ 140MXC ชั้นความหนา ที่เที่ยว-เอ้อ กว่า 50μm และนี้อาจ impeded เอ็กซ์เรย์ลำแสง penetra-สเตรชันผ่านด้านล่างเคลือบด้วย
BCC โครงสร้างของเหล็กอัลฟาที่ผสมแนวบิน (110), (200), (220), (310) (310) และพบใน 530AS และ 140MXC 530 เป็นไม้แปรรูป มันยังถูกตรวจสอบว่า AS 140MXC 530 ตัวอย่างมีความเข้มน้อยกว่าสัญญาณ ใกล้กับ 45 ° ซึ่งอาจมีการบันทึกการก่อตัวของโครงสร้างอมอร์ phous รูปแบบการ XRD พบในเคลือบ 530AS

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลการวิจัยและการอภิปราย
รูปที่ 2 แสดงสเปกตรัม XRD สำหรับการเคลือบที่ผลิตในการสืบสวนคดีนี้ เคลือบ 140MXC มีสัญญาณอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งอาจจะเป็น FCC, หรือเหล็ก HCP ง่ายหรือเฟ alloyed กับ Cr, Nb หรือดับบลิวนี้น่าจะเกิดจากการก่อตัวของโครงสร้างอสัณฐานซึ่งอาจมีต้นกำเนิดในขนาดของ ผงบรรจุในหลอดลวด 140MXC งานวิจัยก่อนหน้า (Castella-NOS Dimate LM, 2011) โดยใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนส่ง (ไม่แสดง) ระบุการก่อตัวของ nanograins ปรับแบบสุ่มในเมทริกซ์อสัณฐาน รูปแบบเดียวกันที่เห็นใน 140MXC + 560AS และ 140MXC + 530AS bilayers อาจจะถูกที่เกี่ยวข้องกับ 140MXC ความหนาของชั้นซึ่งเป็นที่ดีกว่าเอ้อ50μmและนี่อาจจะขัดขวาง X-ray คาน penetra-tion ผ่านการเคลือบผิวลดลง
BCC โครงสร้างของอัลฟาเหล็กด้วยเครื่องบินแนวผสม (110), (200) (220) (310) และ (310) ถูกพบใน 530AS และ 140MXC + 530 AS เคลือบ มันเป็นที่สังเกตได้ว่า 140MXC AS 530 ตัวอย่างมีความเข้มของสัญญาณน้อยใกล้ถึง 45 °ซึ่งอาจได้รับการบันทึกการก่อตัวของโครงสร้างไมเนอร์-phous รูปแบบ XRD พบในการเคลือบ 530AS

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลและการอภิปราย
รูปที่ 2 แสดงวิเคราะห์สเปกตรัมสำหรับเคลือบผลิตในการสืบสวนนี้ การ 140mxc เคลือบมีสัญญาณหนึ่งซึ่งอาจได้รับ FCC หรือง่ายกำจัดเหล็ก หรือเหล็กผสมกับโครเมียม , NB , หรือ W . นี้น่าจะมาจากการก่อตัวของโครงสร้างอสัณฐาน ซึ่งอาจมีที่มาในขนาดบรรจุผงลวดท่อ 140mxc .งานวิจัยก่อนหน้านี้ ( Casiopea NOS dimate LM 2011 ) โดยใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนเกียร์ ( ไม่แสดง ) ระบุการสุ่มตาม nanograins ในเมทริกซ์สัณฐาน . ลายเดียวกับที่เห็นใน 140mxc และ 560as 140mxc 530as สองชั้น อาจจะเกี่ยวข้องกับความหนาของชั้น 140mxc ซึ่งถูกดี เอ้อ กว่า 50 μ Mและนี้อาจจะขัดขวางรังสีคาน penetra tion ผ่านการเคลือบผิวล่าง
BCC โครงสร้างของเหล็กกับการผสมอัลฟาระนาบ ( 110 ) ( 200 ) ( 220 ) , ( 310 ) และ ( 310 ) พบใน 530as 140mxc 530 เป็นและเคลือบ นอกจากนี้พบว่า 140mxc 530 ตัวอย่างมีความเข้มของสัญญาณน้อย ใกล้ 45 องศา ซึ่งอาจจะเกิดจากการสะสมของมอร์ phous โครงสร้างที่ตรวจพบใน 530as เคลือบลาย