ny of us have at one time or anothe

ny of us have at one time or another found the toll of living in the modern world hard to bear. Stress, depression and disillusionment are some of the diseases of modern times that leave us yearning for a solution, a cure, so to speak. More and more people are turning to meditation as they fail to find the answer through worldly paths.
Buddhist Meditation

Meditation is found in some form or other in all major religious traditions. Even those who are not religious use it to focus the mind, to hone it, so that it works better. In Buddhism, meditation is the integral to the eight-fold path to enlightenment. One trains one’s mind so that it can see the four-point Supreme Truth that forms the core of Buddha’s teachings: suffering, what causes it, the end of suffering, and the path to that end. Even if you are not interested in Buddhism, meditation is a valuable training that can be applied to daily life, for it helps with concentration and when done correctly can lead to a state of peace and calmness that’s beyond worldly joys.

There are two main banches in Buddhist meditation: samatha (calmness, concentration) and vipassana (insight), which stresses mindfulness. This doesn’t mean that the two are entirely separate, since you cannot be mindful unless you have at least some level of concentration.

The techniques of samatha meditation are many, some older than Buddhism, others developed after the time of the Buddha. Among the most commonly practiced here is anapanasati, or "mindfulness with breathing". This technique was advocated by the Venerable Buddhadasa Bhikku (1903-1993), founder of Suan Mokkh Forest Monastery in Surat Thani. Meditators at Suan Mokkh (Garden of Liberation), follow the 16 steps of anapanasati as laid down in Pali texts.

Mantra meditation, in which you repeat a few words over and over, is also widely practiced. Followers of this technique may chant "Buddh" as they inhale, and “dho” as they exhale. The words may vary, but the purpose of chanting is really to get the mind focused. Yet another widely taught technique is kasinas, where meditators concentrate on an object outside themselves, such as the flame of a candle, or a crystal ball.

Sati, or mindfulness, is key to vipassana meditation. You train yourself to be aware of the body’s action, the rise and fall of your chest as you inhale and exhale, the movement of your feet and legs as you walk, as well as your feelings, your thought, and finally, the state of mind you are in. Walking, sitting and lying meditation are but a few of vipassana techniques. When the mind is untrained, concentration can be shattered by the slightest stimuli -noise, smell, heat, hunger, pain, etc. The key is to become aware of what happens, but not dwell on it. Still, a novice can only ward off so much distraction, and that’s one reason why vipassana retreats are usually held in peaceful and isolated settings.

Meditation teachings are widely available in Thailand. You can attend a class at one of the teaching monasteries for an afternoon or evening. Wat Mahadhatu near the Grand Palace, for example, has two meditation training centers open to locals and tourists. Or you may join a vipassana retreat, which usually takes a weekend or longer. A number of retreat centers, most of them located in the provinces, run intensive courses of up to four weeks on an ongoing basis. All vipassana retreats require you to follow the Five Buddhist Precepts. These include refraining from harming all living beings, from taking what is not given, from improper sexual behavior, from lying and incorrect speech, and from taking liquors and drugs that will cloud the mind. Some retreats may require that you take you take the Eight Precepts, which in addition to the first five include refraining from dinner, from all forms of entertainment and bodily decoration, and from sleeping on high mattresses.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ny เรามีเวลา หรืออื่นพบโทรของการใช้ชีวิตในโลกสมัยใหม่ยากที่จะทน ความเครียด ภาวะซึมเศร้า และความท้อแท้มีบางโรคทันสมัยครั้งที่ปล่อยให้เราโหยหาการแก้ไขปัญหา การรักษา เพื่อที่จะพูด คนมากขึ้นจะเปลี่ยนเป็นการทำสมาธิ ตามที่พวกเขาล้มเหลวในการค้นหาคำตอบผ่านเส้นทางทางโลกสมาธิพระพุทธศาสนาการทำสมาธิเป็นพบในแบบฟอร์ม หรืออื่น ๆ ในประเพณีสำคัญทางศาสนา แม้ผู้ที่ไม่มีศาสนาใช้โฟกัสจิตใจ ลับ เพื่อให้ทำงานดีขึ้น ในพระพุทธศาสนา การทำสมาธิเป็นการตั้งเส้นทาง eight-fold การตรัสรู้ หนึ่งรถไฟใจเพื่อให้มันสามารถมองเห็นความจริงสูงสุดสี่จุดที่หลักคำสอนของพระพุทธเจ้า: ทุกข์ สิ่งที่ทำให้มัน จุดสิ้นสุดของทุกข์ และเส้นทางนั้น แม้คุณจะไม่สนใจในพระพุทธศาสนา การทำสมาธิเป็นการฝึกอบรมที่มีคุณค่าที่สามารถนำไปใช้กับชีวิตประจำวัน มัน ช่วยให้ มีความเข้มข้น และเมื่อทำอย่างถูกต้องสามารถทำให้สถานะของสันติภาพและความสงบที่อยู่เหนือสุขทางโลกมีสองหลัก banches ในการทำสมาธิของพุทธศาสนา: สมถะ (สงบ ความเข้มข้น) และก่อ (ความเข้าใจ), ซึ่งความเครียดสติ นี้ไม่ได้หมายความ ว่า ทั้งสองจะแยกทั้งหมด ตั้งแต่ไม่ระวังยกเว้นว่าคุณมีระดับของความเข้มข้นอย่างน้อยเทคนิคการทำสมาธิสมถะมีมาก บางเก่ากว่าพุทธศาสนา อื่น ๆ พัฒนาขึ้นหลังจากเวลาที่พระ ในการฝึกมากที่สุด นี่คืออานาปานสติ หรือ "สติ ด้วยการหายใจ" เทคนิคนี้ถูกสนับสนุน โดยพระพุทธทาส Bhikku (1903-1993), ผู้ก่อตั้งวัดป่าของสวนโมกข์สุราษฎร์ธานี เล่าที่สวนโมกข์ (สวนของปลดปล่อย), ทำตามขั้นตอน 16 ของอานาปานสติเป็นวางลงในข้อความบาลีทั่วไปได้ฝึกฝนทำสมาธิมันตรา ที่ที่คุณทำซ้ำกี่คำมากกว่า ผู้ติดตามของเทคนิคนี้อาจสวดมนต์ "Buddh" ที่สูด และ "dho" พวกเขาหายใจออก คำอาจแตกต่างกัน แต่วัตถุประสงค์ของการสวดมนต์จริง ๆ จะได้จิตใจที่มุ่งเน้น ยังอีกมากสอนเทคนิคเป็น kasinas ที่เล่าเพ่งวัตถุภายนอกตัวเอง เช่นเปลวไฟของเทียน ลูกแก้วSati หรือสติ เป็นคีย์การก่อสมาธิ ฝึกตัวเองให้ระวังการกระทำของร่างกาย การขึ้นและตกของหน้าอกของคุณขณะที่คุณหายใจเข้า และหายใจออก การเคลื่อนไหวของเท้าและขาในขณะที่คุณ เดิน ความรู้สึก ความคิดของคุณ และในที่สุด สถานะของคุณอยู่ใน การเดิน การนั่ง และนอนทำสมาธิอยู่แต่ของเทคนิคการก่อ เมื่อจิตได้รับการอบรม สามารถแตกความเข้มข้น โดยสิ่งเร้าน้อย-เสียง กลิ่น ความร้อน ความหิว ความเจ็บปวด ฯลฯ สำคัญคือการ ตระหนักสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่อาศัยอยู่บน ยังคง สามเณรสามารถมุ่งปัดรบกวนมาก และนั่นคือเหตุผลหนึ่งที่ทำไมผ่อนก่อจัดขึ้นในการตั้งค่าที่เงียบสงบ และแยกสอนการทำสมาธิเป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย คุณสามารถเข้าร่วมชั้นเรียนที่วัดสอนอย่างใดอย่างหนึ่งสำหรับช่วงบ่ายหรือเย็น Mahadhatu วัดใกล้พระบรมมหาราชวัง เช่น มีศูนย์ฝึกอบรมสมาธิสองที่เปิดให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยว หรือคุณอาจเข้าร่วมการก่อรีทรีท ซึ่งมักจะใช้เวลา หนึ่งสัปดาห์ หรือนานกว่า จำนวนศูนย์พักผ่อน ส่วนใหญ่จะอยู่ในต่างจังหวัด ทำคอร์สเร่งรัดถึงสี่สัปดาห์อย่างต่อเนื่อง พักผ่อนก่อทั้งหมดจำเป็นต้องศีลห้า เหล่านี้รวมถึงการงดเว้น จากการทำร้ายชีวิต ทำอะไรไม่ได้ จากพฤติกรรมทางเพศไม่เหมาะสม จากการนอนและคำพูดที่ไม่ถูกต้องทั้งหมด และสุราและยาเสพติดที่จะเมฆใจ พักผ่อนบางอาจต้องการให้คุณทำคุณนำศีลแปด ห้าครั้งแรกซึ่งรวมถึงการงดเว้น จากอาหาร ของตกแต่งร่างกายและความบันเทิงในทุกรูปแบบ และ จากการนอนบนที่นอนสูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นิวยอร์กของเรามีในเวลาเดียวหรืออื่นพบโทรของการใช้ชีวิตในโลกสมัยใหม่ยากที่จะทน ความเครียดซึมเศร้าและท้อแท้คือบางส่วนของโรคของยุคปัจจุบันที่ปล่อยให้เราโหยหาวิธีการแก้ปัญหาการรักษาเพื่อที่จะพูด ผู้คนมากขึ้นจะเปลี่ยนไปทำสมาธิที่พวกเขาล้มเหลวในการหาคำตอบผ่านเส้นทางทางโลก.
พุทธศาสนาการทำสมาธิการทำสมาธิจะพบในรูปแบบบางส่วนหรืออื่น ๆ ในทุกประเพณีทางศาสนาที่สำคัญ แม้กระทั่งผู้ที่ไม่ได้ใช้งานทางศาสนาก็จะมุ่งเน้นความคิดที่จะเหลาเพื่อที่จะทำงานได้ดีขึ้น ในพุทธศาสนาการทำสมาธิเป็นส่วนที่สำคัญของเส้นทางแปดเท่าที่จะตรัสรู้ หนึ่งรถไฟใจเพื่อที่จะสามารถดูสี่จุดศาลฎีกาความจริงที่เป็นหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า: ทุกข์สิ่งที่ทำให้มันสิ้นสุดของความทุกข์และเส้นทางไปสิ้นสุดที่ แม้ว่าคุณจะไม่ได้สนใจในพุทธศาสนาการทำสมาธิคือการฝึกอบรมที่มีคุณค่าที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพราะมันจะช่วยให้มีความเข้มข้นและเมื่อทำอย่างถูกต้องสามารถนำไปสู่สถานะของความสงบสุขและความสงบที่เกินกว่าความสุขทางโลก. มีสอง banches หลัก ในทางพุทธศาสนาการทำสมาธิ: samatha (ความสงบความเข้มข้น) และวิปัสสนา (ความเข้าใจ) ซึ่งเน้นการเจริญสติ นี้ไม่ได้หมายความว่าทั้งสองจะแยกจากกันอย่างสิ้นเชิงเนื่องจากคุณไม่สามารถมีสติรู้จนกว่าคุณจะมีอย่างน้อยระดับของความเข้มข้นของบางอย่าง. เทคนิคของการทำสมาธิ samatha เป็นจำนวนมากบางเก่ากว่าพุทธศาสนาอื่น ๆ การพัฒนาหลังจากเวลาของพระพุทธเจ้า ในหมู่ผู้ที่มีประสบการณ์มากที่สุดนี่คืออานาปานสติหรือ "การเจริญสติกับการหายใจ" เทคนิคนี้ได้รับการสนับสนุนโดยเป็นที่เคารพนับถือพุทธ Bhikku (1903-1993) ผู้ก่อตั้งวัดสวนป่า Mokkh ในสุราษฎร์ธานี การทำสมาธิที่สวน Mokkh (สวนแห่งการปลดปล่อย), ทำตาม 16 ขั้นตอนของอานาปานสติที่วางไว้ในตำราภาษาบาลี. ทำสมาธิ Mantra ในที่ที่คุณทำซ้ำคำไม่กี่คำซ้ำแล้วซ้ำยังเป็นที่ปฏิบัติกันอย่างกว้างขวาง ผู้ติดตามของเทคนิคนี้อาจสวดมนต์ "Buddh" ที่พวกเขาสูดดมและ "dho" ที่พวกเขาหายใจออก คำอาจแตกต่างกัน แต่จุดประสงค์ของการสวดมนต์เป็นจริงที่จะได้รับความคิดที่มุ่งเน้น อีกหนึ่งเทคนิคที่สอนกันอย่างแพร่หลายคือ kasinas ที่ทำสมาธิสมาธิบนวัตถุนอกตัวเองเช่นเปลวเทียนหรือลูกบอลคริสตัล. Sati หรือสติเป็นกุญแจสำคัญในการทำสมาธิวิปัสสนา คุณฝึกตัวเองที่จะตระหนักถึงการกระทำของร่างกายที่เพิ่มขึ้นและลดลงของหน้าอกของคุณในขณะที่คุณหายใจเข้าและหายใจออกการเคลื่อนไหวของเท้าและขาขณะที่คุณเดินของคุณเช่นเดียวกับความรู้สึกของคุณความคิดของคุณและในที่สุดสถานะของ ใจคุณอยู่ใน. เดินนั่งและนอนทำสมาธิมี แต่ไม่กี่ของเทคนิคการวิปัสสนา เมื่อใจเป็นได้รับการฝึกฝนสมาธิสามารถทำลายโดยน้อยเร้า -noise กลิ่น, ความร้อน, หิว, ความเจ็บปวด ฯลฯ ที่สำคัญคือการตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้อาศัยอยู่ในนั้น ยังคงเป็นสามเณรเท่านั้นที่สามารถปัดความว้าวุ่นใจมากและนั่นคือเหตุผลหนึ่งที่มักจะถอยวิปัสสนาที่จะมีขึ้นในการตั้งค่าที่เงียบสงบและแยก. สอนการทำสมาธิมีอยู่อย่างแพร่หลายในประเทศไทย คุณสามารถเข้าเรียนที่หนึ่งของพระราชวงศ์การเรียนการสอนสำหรับช่วงบ่ายหรือเย็น วัด Mahadhatu ใกล้กับพระบรมมหาราชวังเช่นมีสองศูนย์ฝึกอบรมการทำสมาธิเปิดให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยว หรือคุณอาจเข้าร่วมเป็นสถานที่พักผ่อนวิปัสสนาซึ่งมักจะใช้เวลาวันหยุดสุดสัปดาห์หรือนานกว่านั้น จำนวนของศูนย์ถอยที่สุดของพวกเขาตั้งอยู่ในต่างจังหวัดให้เรียกใช้หลักสูตรเข้มข้นถึงสี่สัปดาห์อย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดถอยวิปัสสนาคุณต้องปฏิบัติตามพุทธศาสนาศีลห้า เหล่านี้รวมถึงการอดจากการทำร้ายสิ่งมีชีวิตทั้งหมดจากการสิ่งที่ไม่ได้รับจากพฤติกรรมทางเพศที่ไม่เหมาะสมจากการนอนและการพูดไม่ถูกต้องและจากการดื่มแอลกอฮอล์และยาเสพติดที่จะเมฆจิตใจ ถอยบางคนอาจต้องให้คุณใช้เวลาที่คุณใช้เวลาแปดศีลซึ่งนอกเหนือไปจากห้าครั้งแรกรวมถึงการงดอาหารเย็นจากทุกรูปแบบของความบันเทิงและการตกแต่งร่างกายและจากการนอนบนที่นอนสูง