In 1768, she went to war with Turke

In 1768, she went to war with Turkey, so as to concentrate on the importance of national grandeur. The war inspired patriotism in Catherine's subjects but, in 1773, a former officer of the Don Cossacks inspired the greatest uprising in Russia prior to 1917.

The movement spread rapidly and, in June 1774, Cossack troops prepared to march on Moscow. At this point, Russia won the war with Turkey and Catherine crushed the rebellion.

Catherine now realised that she needed to exercise more control over the people and that serf liberation would be intolerable to the owners, on whom she depended, and who would throw the country into chaos once they lost their income. Catherine thus focused on strengthening a system that she had labelled as inhuman.

She also enjoyed a reputation for being a patron of the arts, education and culture, writing a guide for the education of young noble women in 1764, as well as establishing the Smolny Institute the same year.

Catherine also wrote fictions, comedies and memoirs while cultivating the talents of French intellectuals including Diderot, D'Alembart and Voltaire, with whom she corresponded for over 15 years.

She became the most-renowned and longest-serving female monarchs of Russia, with her reign seen by many as the Golden Age of Russia.

Catherine died in 1796 from a stroke which caused her to fall into a coma, from which she never recovered. She was buried in a gold coffin at the Peter and Paul Cathedral in St Petersburg.

She was succeeded by her eldest son Paul, who was thought to be the son of Peter as he resembled the late emperor. Catherine had three other children with different lovers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

In 1768, she went to war with Turkey, so as to concentrate on the importance of national grandeur. The war inspired patriotism in Catherine's subjects but, in 1773, a former officer of the Don Cossacks inspired the greatest uprising in Russia prior to 1917.The movement spread rapidly and, in June 1774, Cossack troops prepared to march on Moscow. At this point, Russia won the war with Turkey and Catherine crushed the rebellion.Catherine now realised that she needed to exercise more control over the people and that serf liberation would be intolerable to the owners, on whom she depended, and who would throw the country into chaos once they lost their income. Catherine thus focused on strengthening a system that she had labelled as inhuman.She also enjoyed a reputation for being a patron of the arts, education and culture, writing a guide for the education of young noble women in 1764, as well as establishing the Smolny Institute the same year.Catherine also wrote fictions, comedies and memoirs while cultivating the talents of French intellectuals including Diderot, D'Alembart and Voltaire, with whom she corresponded for over 15 years.She became the most-renowned and longest-serving female monarchs of Russia, with her reign seen by many as the Golden Age of Russia.Catherine died in 1796 from a stroke which caused her to fall into a coma, from which she never recovered. She was buried in a gold coffin at the Peter and Paul Cathedral in St Petersburg.เธอได้ประสบความสำเร็จ โดย Paul ผู้มีความคิดที่เป็นลูกชายของเขาคล้ายกับจักรพรรดิสาย บุตรชายคนโตของเธอ แคทเธอรีเด็กอื่น ๆ สามกับคู่รักที่แตกต่างกันได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ใน 1768 เธอไปทำสงครามกับตุรกีเพื่อที่จะให้ความสนใจเกี่ยวกับความสำคัญของความยิ่งใหญ่ของชาติ สงครามความรักชาติเป็นแรงบันดาลใจในวิชาของแคทเธอรี แต่ใน 1773 ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ของคอสแซคดอนแรงบันดาลใจการจลาจลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรัสเซียก่อนที่จะ 1917 การเคลื่อนไหวแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและในเดือนมิถุนายน 1774 ทหารคอซแซคเตรียมที่จะเดินขบวนในกรุงมอสโก ณ จุดนี้รัสเซียได้รับรางวัลทำสงครามกับตุรกีและแคทเธอรีบดปฏิวัติ. แคทเธอรีตอนนี้รู้ว่าเธอจำเป็นในการออกกำลังกายการควบคุมที่มากกว่าคนและที่ปลดปล่อยทาสจะเป็นเรื่องที่มากเกินไปให้กับเจ้าของที่เกี่ยวกับคนที่เธอขึ้นและผู้ที่จะโยน ประเทศในความสับสนวุ่นวายเมื่อพวกเขาสูญเสียรายได้ แคเธอรีนจึงมุ่งเน้นไปที่การเสริมสร้างระบบว่าเธอได้ระบุว่าเป็นมนุษย์. นอกจากนี้เธอยังมีความสุขชื่อเสียงในการเป็นผู้มีพระคุณของศิลปะการศึกษาและวัฒนธรรมการเขียนคู่มือเพื่อการศึกษาของผู้หญิงขุนนางหนุ่มใน 1764 ได้เช่นเดียวกับการสร้าง Smolny สถาบันปีเดียวกัน. แคทเธอรียังเขียน fictions คอเมดี้และบันทึกความทรงจำในขณะที่การปลูกฝังความสามารถของปัญญาชนชาวฝรั่งเศสรวมทั้ง Diderot ศิลป Alembart และวอลแตร์ซึ่งเธอตรงมานานกว่า 15 ปี. เธอกลายเป็นที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและนานที่สุดพระมหากษัตริย์หญิง ของรัสเซียกับรัชสมัยของเธอเห็นโดยมากเป็นยุคทองของรัสเซีย. แคทเธอรีเสียชีวิตในปี 1796 จากโรคหลอดเลือดสมองซึ่งทำให้เธอต้องตกอยู่ในอาการโคม่าจากการที่เธอไม่เคยหาย เธอถูกฝังอยู่ในโลงทองที่วิหารปีเตอร์และพอลปีเตอร์สเบิร์กใน St. เธอเป็นลูกชายคนโตของเธอพอลที่กำลังคิดว่าจะเป็นบุตรของปีเตอร์ในขณะที่เขาคล้ายกับจักรพรรดิปลาย แคเธอรีนมีลูกสามคนอื่น ๆ ที่มีคนรักที่แตกต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใน ค.ศ. 1768 เธอต้องทำสงครามกับตุรกีเพื่อจะเน้นความสำคัญของความยิ่งใหญ่ของชาติ สงครามแรงบันดาลใจรักชาติในแคทเธอรีนวิชาแต่ใน 2316 , อดีตเจ้าหน้าที่ของ Don Cossacks แรงบันดาลใจจากการปฏิวัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรัสเซียก่อน 1917 .

การเคลื่อนไหวแพร่กระจายอย่างรวดเร็วและในเดือนมิถุนายน 1774 , กองทหารคอสแซคเตรียมเดินขบวนในกรุงมอสโก ณจุดนี้รัสเซียจะทำสงครามกับตุรกีและแคทเธอรีขยี้กบฏ

แคทตอนนี้ตระหนักว่าเธอต้องการที่จะออกกำลังกายมากขึ้น การควบคุมคนและการปลดปล่อยที่ เซิร์ฟจะเหลือทนกับเจ้าของ ที่เธอมี และใครจะโยนประเทศวุ่นวายเมื่อพวกเขาสูญเสียรายได้ของพวกเขา แคทเธอรีนจึงมุ่งเน้นการเสริมสร้างระบบที่เธอมองว่าเป็นมนุษย์

เธอชอบยังมีชื่อเสียงสำหรับการเป็นผู้อุปถัมภ์ศิลปะ การศึกษา และวัฒนธรรม การเขียนคู่มือสำหรับการศึกษาของเด็กหญิงสูงศักดิ์ใน 1459 , เช่นเดียวกับการสร้าง smolny สถาบันในปีเดียวกัน

แคทเธอรีนยังเขียนนวนิยายชีวประวัติ ในขณะที่หนังตลก , และปลูกฝังความสามารถของปัญญาชน ฝรั่งเศส รวมทั้ง ดีเดอโร d'alembart วอลแตร์ , และ ,with whom she corresponded for over 15 years.

She became the most-renowned and longest-serving female monarchs of Russia, with her reign seen by many as the Golden Age of Russia.

Catherine died in 1796 from a stroke which caused her to fall into a coma, from which she never recovered. เธอถูกฝังในโลงทองที่ปีเตอร์และพอลมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก .