Experimental InvestigationExperimen

Experimental Investigation
Experimental method of research was used for the formulation of the study being conducted. The researcher has used it to provide exact measures for more appropriate results as to compressive strength test is concerned. The experiments made were of five different groups, as to the polymer fibers being proportioned to the cement’s percent by weight in kg
International Journal of Advanced Science and Technology

such as 2% to 98%, 4% to 96%, 6% to 94%, 8% to 92%, and 10% to 90%, respectively. This polymer fiber solution is being added to other aggregates to form concrete. Also, a control group with standard concrete mixes having no polymer fiber is made, to provide a reference for strength comparison.
The polymer fibers used in the experiment were of five different proportions: polymer fiber to cement’s percent by weight in kg ranging from 2% to 98%, 4% to 96%٫ 6% to 94%٫
8% to 92%٫ and 10% to 90%, respectively. This proportion is according to the specification
of cement at 6 kg per three (3) pieces of cylinders, taken polymer fiber as ones and cement as tens percentage. The polymer fiber (polyvinyl alcohol, polyvinyl acetate) in powder form was dissolved into the water and soaked for 24 hours. Some important notes on polyvinyl alcohol have been listed on the Appendix B, C and D for further reference.
Mix specifications (per 3 pieces of cylinders) were: sand (fine aggregates) 8,340 cm3; gravel (coarse aggregates) 16,680 cm3; water 2.84 liters, with a design slump of 3 inches. Computation for materials to be used as well as its corresponding cost constraints has been showed in the Appendix E, F & G.
4.1. Experimental Procedure
The concrete mix was poured into eighteen molds, 6 inches diameter by 12 inches high cylinders. The specimens were grouped according to the proportions of polymer fiber to cement (by weight in kg) such as 2% to 98%, 4% to 96%, 6% to 94%, 8% to 92%, and 10% to 90%, respectively. These mixes were the experimental groups and a standard mix with no polymer fiber was the controlled group.
The polymer fiber solution (polyvinyl acetate being dissolved in water) was mixed manually with a shovel to sand and gravel at constant mix proportion of class “A” at 1:2:4. In the mixing process, it had been noticeable that the greater the polymer fiber the more viscous is the mix, which made it non-workable to place. After placing (pouring) into the cylinders, the specimens were tamped layer by layer with the use of a rod. The cylindrical molds used for handling specimen were removed two (2) days after pouring. Curing process used for the specimens was sprinkling method only due to the water-reduction characteristic of the polymer fiber as being added to the cement. The specimens were tested on the hydraulic press on the seventh, fourteenth and twenty-eighth days of curing as per ASTM designation to get the compressive strength. It was noted that the results taken from the standard mix was the same as the 6% to 94% proportions of polymer fiber to cement, respectively. Moreover, the 2% to 98% proportions of polymer fiber to cement gave the highest strength result.
5. Results and Discussion
Under compressive strength test with the use of the hydraulic press, the specimens were cracked as the concrete has reached its ultimate strength and recorded as listed above. As shown in Tables 1, 2 and 3, the results of the experimental group showed moderate advantage over the standard group as early as on the 7th day at the proportion of 4% to 96% and 2% to 98%, polymer fiber to cement, respectively. Likewise, it was observed, that the strengths obtained from the proportion of 6% to 94% seem equal to that of the standard mix. Moreover, at the 14th and 28th days, the specimen showed greater strength over the standard group at the proportion 6% to 94%, 4% to 96% and 2% to 98%. This time, the strength obtained from the proportion 4% to 96% and 6% to 94% gives higher strength to that of the standard mix. Most importantly, the proportion of 2% to 98% gives the highest strength obtained from 7, 14 and 28 days of curing.
International Journal of Advanced Science and Technology

Also, it was observed and inferred that the greater strength results are due to the bonded aggregates, which can be seen from the cracked specimens showing fine textures of aggregates. Graphical presentation of results has been showed in the Appendix H.
The results prove that polymer fiber satisfies strength requirements as it gives better results over the standard mix. As the standard mix only gives a range of values for 4,000 - 5,000 psi compressive strength, while the polymer fiber mix reached up to 6,000 psi. (Refer to Appendix I)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตรวจสอบทดลองวิธีทดลองวิจัยใช้สำหรับแบ่งการดำเนินการศึกษา นักวิจัยได้ใช้มันเพื่อให้มาตรการที่แน่นอนสำหรับเกี่ยวข้องผลลัพธ์ที่เหมาะสมเป็นการทดสอบความแข็งแรง compressive ทดลองทำได้ 5 กลุ่ม เป็นพอลิเมอร์เส้นใยถูกลานเปอร์เซ็นต์ของปูนซีเมนต์ โดยน้ำหนักกก.สมุดรายวันระหว่างประเทศขั้นสูงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเช่น 2% 98%, 4% 96%, 6% 94%, 8% ถึง 92% และ 10% ถึง 90% ตามลำดับ วิธีนี้เส้นใยพอลิเมอร์มีการเพิ่มให้กับผลรวมอื่นเนรมิตคอนกรีต ยัง กลุ่มควบคุม ด้วยมาตรฐานคอนกรีตผสมเส้นใยพอลิเมอร์ไม่ทำ ให้การอ้างอิงสำหรับการเปรียบเทียบความแข็งแรงมีเส้นใยพอลิเมอร์ที่ใช้ในการทดลองได้สัดส่วนที่แตกต่างกันห้า: พอลิเมอร์เส้นใยซีเมนต์ของเปอร์เซ็นต์ โดยน้ำหนักกก.ตั้งแต่ 2% ถึง 98%, % 4% 6 %٫ 96 ถึง 94 %٫8% 92 %٫และ 10% ถึง 90% ตามลำดับ สัดส่วนนี้เป็นไปตามการข้อมูลจำเพาะปูนซีเมนต์ที่ 6 กิโลกรัมต่อสาม (3) ชิ้นส่วนของภาชนะบรรจุ ถ่ายเส้นใยพอลิเมอร์เป็นคนและซีเมนต์เป็นสิบเปอร์เซ็นต์ เส้นใยพอลิเมอร์ (โพลีไวนิลแอลกอฮอล์ โพลีไวนิล acetate) ในรูปแบบผงส่วนยุบในน้ำ และเปี่ยมล้นไปด้วยตลอด 24 ชั่วโมง หมายเหตุบางสำคัญบนโพลีไวนิลแอลกอฮอล์ได้ถูกแสดงในภาคผนวก B, C และ D สำหรับข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติมมีข้อกำหนดผสม (ต่อภาชนะบรรจุ 3 ชิ้น): cm3 8,340 ทราย (วัตถุดิบเกรดดี) กรวด cm3 (หยาบเพิ่ม) 16,680 น้ำลิตร 2.84 กับการออกแบบตกต่ำของ 3 นิ้ว คำนวณวัสดุที่ใช้ตลอดจนข้อจำกัดของต้นทุนที่เกี่ยวข้องได้ถูกแสดงในภาคผนวก E, F และกรัม4.1 การขั้นตอนที่ทดลองผสมคอนกรีตเป็น poured ลงในแม่พิมพ์สิบแปด เส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว โดยถังสูง 12 นิ้ว ไว้เป็นตัวอย่างถูกจัดกลุ่มตามสัดส่วนของพอลิเมอร์เส้นใยซีเมนต์ (โดยน้ำหนักกิโลกรัม) เช่น 2% 98%, 4% 96%, 6% 94%, 8% ถึง 92% และ 10% ถึง 90% ตามลำดับ ออกแบบผสมผสานเหล่านี้มีกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุมเป็นมาตรฐานผสมกับเส้นใยพอลิเมอร์ไม่โซลูชั่นใยพอลิเมอร์ (acetate โพลีไวนิลที่กำลังละลายในน้ำ) ถูกผสมด้วยตนเองกับพลั่วทรายและกรวดที่สัดส่วนผสมคงที่ระดับ "A" ที่ 1:2:4 ในกระบวนการผสม มันได้ชัดยิ่งข้นมากกว่าพอลิเมอร์เส้นใยที่ผสม ที่ไม่ใช่รูปการวาง หลังจากวางลงในภาชนะบรรจุ (เท) ไว้เป็นตัวอย่างถูก tamped เลเยอร์โดยเลเยอร์ ด้วยการใช้เหล็ก แม่พิมพ์ทรงกระบอกใช้สำหรับตัวอย่างการจัดการถูกเอาสอง (2) วันหลังจากการเทออก แข็งตัวกระบวนการที่ใช้สำหรับไว้เป็นตัวอย่างถูกโรยวิธีเท่านั้นเนื่องจากน้ำลดลงลักษณะของเส้นใยพอลิเมอร์เป็นปูนซีเมนต์ที่เพิ่ม ไว้เป็นตัวอย่างถูกทดสอบบนกด hydraulic ในเจ็ด จวน และยี่สิบแปดวันแข็งตัวตามมาตรฐาน ASTM กำหนดเพื่อความแข็งแรง compressive มันถูกตั้งข้อสังเกตว่า ผลมาจากการผสมผสานมาตรฐาน 6% ถึง 94% สัดส่วนของพอลิเมอร์เส้นใยซีเมนต์ ตามลำดับ นอกจากนี้ 2% 98% สัดส่วนของพอลิเมอร์เส้นใยซีเมนต์ให้ผลความแข็งแรงสูงสุด5. ผลลัพธ์ และสนทนาภายใต้การทดสอบความแข็งแรง compressive ใช้กด hydraulic, specimens ถูกแตกเป็นคอนกรีตมีความแข็งแรงสูงสุดถึง และบันทึกตามรายการข้างต้น ดังแสดงในตาราง 1, 2 และ 3 ผลลัพธ์ของกลุ่มทดลองพบปานกลางเปรียบมาตรฐานกลุ่มก่อนในวัน 7 ที่สัดส่วน 4% ถึง 96% และ 2% 98% พอลิเมอร์เส้นใยซีเมนต์ ตามลำดับ ในทำนองเดียวกัน มันถูกสังเกต ว่า จุดแข็งที่ได้จากสัดส่วนของ 6% ถึง 94% ดูเหมือนเท่ากับของผสมมาตรฐาน นอกจากนี้ ในวันที่ 14 และ 28 สิ่งส่งตรวจที่พบความแข็งแรงมากขึ้นมากกว่ากลุ่มมาตรฐานที่สัดส่วน 6% 94%, 4% ถึง 96% และ 2% 98% เวลานี้ ความแข็งแรงได้สัดส่วน 4% 96% และ 6% 94% ให้ความแข็งแรงสูงที่ผสมผสานมาตรฐาน สำคัญที่สุด สัดส่วนของ 2% ถึง 98% ทำให้ความแข็งแรงสูงสุดได้จาก 7, 14 และ 28 วันของการบ่มสมุดรายวันระหว่างประเทศขั้นสูงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนอกจากนี้ มันถูกสังเกต และสรุปว่า ผลความแข็งแรงมากกว่าอยู่เนื่องจากผลผูก ซึ่งสามารถดูได้จาก specimens รอยร้าวที่แสดงพื้นผิวที่ดีของผล มีการแสดงภาพของผลลัพธ์ใน H. ภาคผนวกผลพิสูจน์ว่า พอลิเมอร์เส้นใยตรงตามความต้องการความแข็งแรงให้ผลลัพธ์ดีกว่าผสมผสานมาตรฐาน เป็นมาตรฐานผสมให้เฉพาะช่วงของค่าสำหรับ 4000-5000 psi compressive แรง ในขณะที่ผสมเส้นใยโพลีเมอร์ถึงถึง 6000 psi (ดูภาคผนวกฉัน)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทดลองสืบสวนวิธีการทดลองของการวิจัยที่ใช้สำหรับการกำหนดของการศึกษาที่ดำเนินการ ผู้วิจัยได้ใช้มันเพื่อให้มาตรการที่แน่นอนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมมากขึ้นเช่นในการทดสอบแรงอัดเป็นห่วง การทดลองที่ทำมาจากห้ากลุ่มที่แตกต่างกันเป็นไปเส้นใยพอลิเมอถูกสัดส่วนถึงร้อยละซีเมนต์โดยน้ำหนักในกิโลกรัมวารสารนานาชาติวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงเช่น2% ถึง 98%, 4% เป็น 96%, 6% ถึง 94% , 8% ถึง 92% และ 10% ถึง 90% ตามลำดับ วิธีการแก้ปัญหาเส้นใยพอลิเมอนี้จะถูกเพิ่มเข้าไปในมวลอื่น ๆ ในรูปแบบที่เป็นรูปธรรม นอกจากนี้กลุ่มควบคุมที่มีการผสมคอนกรีตมาตรฐานที่มีเส้นใยพอลิเมอไม่มีการทำเพื่อให้การอ้างอิงสำหรับการเปรียบเทียบความแข็งแรง. เส้นใยพอลิเมอใช้ในการทดลองเป็นห้าสัดส่วนที่แตกต่างกัน: เส้นใยพอลิเมอร้อยละปูนซีเมนต์โดยน้ำหนักกกตั้งแต่ 2% 98%, 4% เป็น 96%. 6% ถึง 94%. 8% ถึง 92%. และ 10% ถึง 90% ตามลำดับ สัดส่วนนี้เป็นไปตามข้อกำหนดของซีเมนต์ที่ 6 กิโลกรัมต่อสาม (3) ชิ้นส่วนของถังนำเส้นใยพอลิเมอเป็นคนและปูนซีเมนต์นับเป็นร้อยละ เส้นใยพอลิเมอ (เครื่องดื่มแอลกอฮอล์โพลีไวนิลอะซิเตทโพลีไวนิล) ในรูปแบบผงที่กำลังละลายลงไปในน้ำและแช่ 24 ชั่วโมง บางบันทึกที่สำคัญเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โพลีไวนิลได้รับการจดทะเบียนในภาคผนวก B, C และ D สำหรับการอ้างอิงต่อไป. ข้อกำหนดผสม (3 ชิ้นต่อถัง) เป็นทราย (มวลรวมดี) 8,340 cm3; กรวด (มวลรวมหยาบ) 16,680 cm3; น้ำ 2.84 ลิตรกับตกต่ำการออกแบบของ 3 นิ้ว การคำนวณสำหรับวัสดุที่จะใช้เช่นเดียวกับข้อ จำกัด ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องได้รับการแสดงให้เห็นว่าในภาคผนวก E, F & กรัม4.1 ขั้นตอนการทดลองผสมคอนกรีตถูกเทลงในแม่พิมพ์สิบแปด 6 นิ้วเส้นผ่าศูนย์กลาง 12 นิ้วถังสูง ตัวอย่างที่ถูกจัดกลุ่มตามสัดส่วนของเส้นใยพอลิเมอที่จะซีเมนต์ (โดยน้ำหนักในกิโลกรัม) เช่น 2% ถึง 98%, 4% เป็น 96%, 6% ถึง 94%, 8% ถึง 92% และ 10% ถึง 90 % ตามลำดับ ผสมเหล่านี้เป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มการผสมผสานมาตรฐานที่มีเส้นใยพอลิเมอไม่มีกลุ่มควบคุม. การแก้ปัญหาเส้นใยพอลิเมอ (อะซิเตทโพลีไวนิลถูกละลายในน้ำ) ผสมด้วยตนเองด้วยพลั่วทรายและกรวดที่สัดส่วนผสมคงที่ของระดับ "A" 1: 2: 4 ในขั้นตอนการผสมที่มันเคยเป็นที่เห็นได้ชัดมากขึ้นเส้นใยพอลิเมอที่มีความหนืดมากขึ้นคือการผสมซึ่งทำให้มันที่ไม่สามารถทำงานได้ไปยังสถานที่ หลังจากที่วาง (เท) เข้าสู่กระบอกสูบตัวอย่างที่ถูก tamped ชั้นโดยชั้นที่มีการใช้คันที่ แม่พิมพ์รูปทรงกระบอกที่ใช้สำหรับตัวอย่างการจัดการที่ถูกถอดออกสอง (2) วันหลังจากการเท กระบวนการบ่มที่ใช้สำหรับชิ้นงานที่ถูกวิธีโรยเพียง แต่เนื่องจากลักษณะน้ำที่ลดลงของเส้นใยพอลิเมอที่ถูกเพิ่มเข้ามาในซีเมนต์ ตัวอย่างที่ได้รับการทดสอบบนกดไฮโดรลิกในเจ็ดวันที่สิบสี่และ 28 ของการรักษาตามมาตรฐาน ASTM กำหนดที่จะได้รับแรงอัด มันเป็นข้อสังเกตว่าผลที่ได้มาจากการผสมผสานมาตรฐานเช่นเดียวกับ 6% 94% สัดส่วนของเส้นใยพอลิเมอปูนซีเมนต์ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมี 2% ถึง 98% สัดส่วนของเส้นใยพอลิเมอปูนซีเมนต์ให้ผลความแข็งแรงสูงสุด. 5 ผลการทดลองและการอภิปรายภายใต้การทดสอบแรงอัดที่มีการใช้การกดไฮดรอลิตัวอย่างที่ถูกแตกคอนกรีตได้ถึงความแข็งแรงที่ดีที่สุดและบันทึกเป็นที่กล่าวข้างต้น ดังแสดงใน 1 ตารางที่ 2 และ 3 ผลของกลุ่มทดลองแสดงให้เห็นประโยชน์ในระดับปานกลางในช่วงกลุ่มมาตรฐานเป็นช่วงต้นในวันที่ 7 สัดส่วนของ 4% เป็น 96% และ 2% ถึง 98% เส้นใยพอลิเมอปูนซีเมนต์ ตามลำดับ ในทำนองเดียวกันก็เป็นที่สังเกตว่าจุดแข็งที่ได้จากสัดส่วนของ 6% 94% ดูเหมือนเท่ากับว่าการผสมมาตรฐาน นอกจากนี้ในวันที่ 14 และ 28 ตัวอย่างพบว่ามีความแข็งแรงมากขึ้นกว่ากลุ่มมาตรฐานที่สัดส่วน 6% ถึง 94%, 4% เป็น 96% และ 2% 98% เวลานี้ความแรงที่ได้รับจากสัดส่วน 4% เป็น 96% และ 6% ถึง 94% สร้างความแข็งแรงให้สูงขึ้นเพื่อที่ผสมมาตรฐาน สิ่งสำคัญที่สุดคือสัดส่วนของ 2% ถึง 98% ให้ความแข็งแรงสูงสุดที่ได้รับจาก 7, 14 และ 28 วันของการบ่ม. วารสารนานาชาติวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงนอกจากนี้ก็เป็นข้อสังเกตและสรุปว่าผลความแข็งแรงมากขึ้นเนื่องมาจากถูกผูกมัดมวลรวมซึ่งสามารถเห็นได้จากตัวอย่างที่แตกแสดงพื้นผิวที่ดีของมวลรวม นำเสนอกราฟิกของผลที่ได้รับการแสดงให้เห็นว่าในภาคผนวกเอชผลการพิสูจน์ให้เห็นว่าเส้นใยพอลิเมอตอบสนองความต้องการความแข็งแรงที่จะให้ผลที่ดีกว่าการผสมมาตรฐาน ในฐานะที่เป็นส่วนประสมมาตรฐานเพียง แต่ช่วยให้ช่วงของค่าสำหรับ 4,000 - 5,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้วแรงอัดในขณะที่ผสมเส้นใยพอลิเมอสูงถึง 6,000 ปอนด์ต่อตารางนิ้วไป (โปรดดูภาคผนวก I)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทดลองสืบสวน
ทดลองวิธีวิจัยที่ใช้คือสูตรของการศึกษาจะดำเนินการ ผู้วิจัยได้ใช้มันเพื่อให้มาตรการที่เหมาะสมสำหรับผลการทดสอบกำลังรับแรงอัดเป็นกังวล การทดลองทำในห้ากลุ่มที่แตกต่างกัน เช่น พอลิเมอร์เส้นใยเป็นสัดส่วนกับเปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักของซีเมนต์ในกก
วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

เช่น 2% ถึง 98% ขั้นสูง 4 ( 96 , 6% ถึง 94 % 8 % 92 % และ 10 % 90 % ตามลำดับ นี้โซลูชั่นโพลีเมอร์ไฟเบอร์ถูกเพิ่มเข้าไปผสมอื่น ๆ ในรูปแบบคอนกรีต นอกจากนี้ กลุ่มควบคุมไม่มีพอลิเมอร์เส้นใยผสมคอนกรีตมาตรฐานขึ้น เพื่อให้ข้อมูลสำหรับการเปรียบเทียบความแรง
พอลิเมอร์เส้นใยที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ ห้า สัดส่วนที่แตกต่างกัน : พอลิเมอร์เส้นใยประสานเป็นเปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนักในกิโลกรัมตั้งแต่ 2 % 98 % , 4 % 96% ٫ 6% ถึง 94 เปอร์เซ็นต์٫
8 % 92 % ٫และ 10 % 90 % ตามลำดับ สัดส่วนนี้ตามสเปค
ปูนซีเมนต์ที่ 6 กิโลกรัมต่อสาม ( 3 ) ชิ้นส่วนของถัง , เส้นใยพอลิเมอร์เป็นคนถ่ายและซีเมนต์เป็นสิบเปอร์เซ็นต์พอลิเมอร์เส้นใย ( โพลิไวนิลแอลกอฮอล์พอลิไวนิลอะซิเตต ) ในรูปแบบผงละลายในน้ำ และแช่นาน 24 ชั่วโมง หมายเหตุสำคัญเกี่ยวกับโพลีไวนิลแอลกอฮอล์ที่มีอยู่ในภาคผนวก B , C และ D สำหรับการอ้างอิง .
ข้อมูลผสม ( ต่อชิ้น 3 ถัง ) : ทราย ( ปรับมวลรวม ) 8340 cm3 ; ลูกรัง ( มวลรวมหยาบ ) 16680 cm3 ; น้ำ 2.84 ลิตรด้วยการออกแบบที่ตกต่ำ 3 นิ้ว การคำนวณสำหรับวัสดุที่จะใช้เป็นเงื่อนไขให้สอดคล้องต้นทุนได้ในภาคผนวก E , F .
& 4.1 . ทดลอง
ผสมคอนกรีตถูกเทลงในแม่พิมพ์สิบแปด เส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว สูง 12 นิ้ว ภาชนะบรรจุ