At various times in the geologic pa

At various times in the geologic past, the Earth had dense forests in low-lying wetland areas. Due to natural processes such as flooding, these forests were buried underneath soil. As more and more soil deposited over them, they were compressed. The temperature also rose as they sank deeper and deeper. As the process continued the plant matter was protected from biodegradation and oxidation, usually by mud or acidic water. This trapped the carbon in immense peat bogs that were eventually covered and deeply buried by sediments. Under high pressure and high temperature, dead vegetation was slowly converted to coal. As coal contains mainly carbon, the conversion of dead vegetation into coal is called carbonization.[12]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เวลาต่าง ๆ ในอดีตธรณีวิทยา โลกมีป่าไม้หนาแน่นในบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำที่ราบ เนื่องจากกระบวนการทางธรรมชาติเช่นน้ำท่วม ป่าเหล่านี้ถูกฝังอยู่ใต้ดิน เป็นมาก ขึ้นดินฝากเหล่านั้น พวกเขาถูกบีบอัด อุณหภูมิโรสเป็นพวกเขาจมลึก และลึกซึ้ง เป็นกระบวนการต่อเนื่อง เรื่องโรงงานได้รับการป้องกันจาก biodegradation และออกซิเดชัน โดยปกติตามโคลนหรือน้ำกรด นี้ติดคาร์บอนใน bogs พรุใหญ่ที่สุดครอบคลุม และฝังลึก โดยตะกอน ภายใต้ความดันสูงและอุณหภูมิสูง พืชตายได้ช้าแปลงถ่านหิน เป็นถ่านหินประกอบด้วยคาร์บอนส่วนใหญ่ การแปลงพืชตายลงในถ่านหินจะเรียกว่า carbonization[12]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมาทางธรณีวิทยาโลกมีป่าไม้หนาแน่นในพื้นที่ชุ่มน้ำที่ต่ำโกหก เนื่องจากกระบวนการทางธรรมชาติเช่นน้ำท่วมป่าเหล่านี้ถูกฝังอยู่ใต้พื้นดิน ในฐานะที่เป็นดินมากขึ้นและนำไปฝากไว้เหนือพวกเขาพวกเขาถูกบีบอัด อุณหภูมิเพิ่มขึ้นตามที่พวกเขาจมลึกและลึก เป็นกระบวนการต่อเนื่องพืชได้รับการคุ้มครองจากการย่อยสลายและออกซิเดชันโดยปกติโคลนหรือน้ำที่เป็นกรด นี้ติดคาร์บอนในพรุอันยิ่งใหญ่ที่ถูกปกคลุมไปในที่สุดและฝังลึกโดยตะกอน ภายใต้ความดันสูงและอุณหภูมิสูงพืชที่ตายแล้วถูกดัดแปลงช้าถ่านหิน เป็นถ่านหินที่มีคาร์บอนส่วนใหญ่แปลงของพืชที่ตายแล้วเป็นถ่านหินที่เรียกว่าถ่าน. [12]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในช่วงเวลาต่างๆในอดีตทางธรณีวิทยา โลก มีพื้นที่ป่าที่หนาแน่นในพื้นที่ลุ่ม . เนื่องจากกระบวนการทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ป่าเหล่านี้ถูกฝังอยู่ใต้ดิน เป็นมากขึ้นและดินที่ฝากผ่านพวกเขาพวกเขาถูกบีบอัด อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นตามที่พวกเขาจมลึกและลึก . เป็นกระบวนการต่อเนื่องพืชเรื่องถูกป้องกันจากการย่อยสลาย และออกซิเดชันปกติ โดยโคลนหรือน้ำที่เป็นกรด นี้ติดคาร์บอนในที่เวิ้งว้าง พีทอึที่ในที่สุดครอบคลุม และฝังลึก โดยตะกอน ภายใต้ความดันสูงและอุณหภูมิสูง พืชที่ตายแล้วถูกแปลงช้าๆกับถ่านหิน เป็นถ่านหินที่มีส่วนใหญ่เป็นคาร์บอน แปลงพืชตายเป็นถ่านหินที่เรียกว่าคาร์บอน [ 12 ]