Jesus people, stop freaking out abo

Jesus people, stop freaking out about this song

It's something new, and different

...
Quite honestly, I believe this song is about taking love for granted, and then losing that love. They had "too much" love and "too much" time, so they figured that "tomorrow was promised" when it wasn't. It's like the philosophy that one should live like they're dying--they don't know what will happen tomorrow, so they should live life to the fullest.

It seems like this song is about someone who had too much time, took it for granted, and now has regrets, possibly because his love is gone.

Like another user said, it may have something to do with the need for personal space, but I personally believe that more of the lyrics point to a surreal, "How did I end up here" feeling, as if you'd lost your love and your life is in shambles.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คน jesus หยุดซออกมาเกี่ยวกับเพลงนี้

มันเป็นสิ่งที่ใหม่และแตกต่างกัน

...
ค่อนข้างตรงไปตรงมาผมเชื่อว่าเพลงนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการได้รับความรักและการสูญเสียแล้วความรักที่ พวกเขามี "มากเกินไป" ความรักและ "มากเกินไปเวลา" ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่า "พรุ่งนี้เป็นสัญญา" เมื่อมันไม่ได้มันก็เหมือนปรัชญาที่ว่าควรใช้ชีวิตเหมือนพวกเขากำลังจะตาย - พวกเขาไม่ได้รู้ว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้เพื่อให้พวกเขาควรจะมีชีวิตอยู่อย่างเต็มที่

ดูเหมือนว่าเพลงนี้เกี่ยวกับคนที่มีเวลามากเกินไป. เอามันให้ได้รับและตอนนี้มีความเสียใจอาจจะเป็นเพราะความรักของเขาหายไป.

เช่นผู้ใช้คนอื่นกล่าวว่ามันอาจจะมีบางสิ่งบางอย่างจะทำอย่างไรกับความจำเป็นสำหรับพื้นที่ส่วนบุคคลแต่ผมเองเชื่อว่าการเพิ่มขึ้นของเนื้อเพลงชี้ไปที่เซอร์เรียล "วิธีการที่ผมจะจบลงที่นี่" ความรู้สึกเช่นถ้าคุณจะสูญเสียความรักของคุณและชีวิตของคุณอยู่ในความโกลาหล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คนที่พระเยซู หยุดซออกมาเกี่ยวกับเพลงนี้

บางสิ่งบางอย่าง และอื่น

...
สุจริตอย่างมาก ผมเชื่อว่า เพลงนี้กำลังมีความรักให้ และสูญเสียความรักนั้นแล้ว พวกเขามีความรัก "มากเกินไป" และ "เกิน" เวลา ดังนั้นพวกเขาคิดว่า "พรุ่งนี้มีสัญญา" เมื่อมันไม่ได้ ก็เหมือนกับปรัชญาหนึ่งควรสดเหมือนพวกเขากำลังตาย - พวกเขาไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพรุ่งนี้ ดังนั้นพวกเขาควรชีวิตอย่างเต็ม

มันเหมือนเพลงนี้จะเกี่ยวกับคนที่มีเวลามากเกินไป เอาสิทธิ์สำหรับ และขณะนี้ มี regrets อาจ เพราะความรักของเขาเป็นไป

ชอบอีกผู้ว่า มันอาจมีบางสิ่งบางอย่างกับต้องการพื้นที่ส่วนตัว, แต่ส่วนตัวเชื่อว่า ขึ้นเพลงชี้ไปเหนือจริง "วิธีทำฉันเอยนี่" รู้สึก ประหนึ่งว่าคุณได้สูญเสียคนรักของคุณ และชีวิตของคุณอยู่ในโรงฆ่าสัตว์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พระเยซูหยุดคน freaking ออกมาเกี่ยวกับเพลง นี้

มันเป็นบางสิ่งที่ใหม่และแตกต่างกันไปด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต


ค่อนข้างผมเชื่อว่าเพลงนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ความรักเป็นได้รับแล้วต้องสูญเสียความรักที่ พวกเขาได้"มากเกินไป"ความรักและ"มากเกินไป"เวลาดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่า"พรุ่งนี้สัญญาว่าจะเป็น"เมื่อไม่ได้มันจะเป็นเหมือนกับปรัชญาที่ว่าคนเราควรจะมีชีวิตอย่างที่กำลังจะตายก็ไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ดังนั้นพวกเขาจึงควรจะมีโอกาสใช้ชีวิตอย่างเต็มที่.

มันดูเหมือนจะเป็นเพลงนี้จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่จะมีเวลามากเกินไปก็เป็นได้รับและในตอนนี้ได้รู้สึกเสียใจว่าอาจเป็นไปได้ว่าเป็นความรักที่เขามีอยู่อีกแล้ว.

เหมือนกับผู้ใช้คนอื่นกล่าวว่าอาจจะมีบางสิ่งบางอย่างให้ได้ทำด้วยความจำเป็นสำหรับพื้นที่ส่วนตัวแต่ผมเป็นส่วนตัวเชื่อว่ามากกว่าของเนื้อเพลงที่จุดในการผสมผสานที่"ผมได้มาที่นี่"ความรู้สึกที่เหมือนหากคุณจะสูญเสียความรักของคุณและชีวิตของคุณอยู่ในโรงฆ่าสัตว์