medical evidence base. In Australia

medical evidence base. In Australia, the majority
of the hepatology nursing workforce care
for patients with hepatitis C, a role that is well
described (Ehsani, Vu, & Karvelas, 2006; Grogan
& Timmins, 2010; Larrey et al., 2011; Leone,
2002). The AHA recognises that for a sustainable
role, hepatology nursing needs to evolve to
encompass the care of patients with hepatitis B,
advanced liver disease (ALD) and hepatocellular
carcinoma (HCC). These emerging areas of nursing
practice are yet to be clearly articulated in the
literature.
Healthcare in Australia is provided by both
private and government funded institutions. The
current Australian government funded healthcare
system, known as Medicare, coexists with
a private health system. Medicare is funded by
Australian taxpayers and general revenue. Access
to prescription medications is significantly subsidised
by the Pharmaceutical Benefits Scheme. A
point of difference from international practice is
that Australian hepatology nurses do not prescribe
specialist pharmaceutical treatment, such as antiviral
therapy for hepatitis B and C, which remains
the domain of medical practitioners. However,
the emergence of Hepatology Nurse Practitioners

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลักฐานทางการแพทย์พื้นฐาน ในออสเตรเลีย ส่วนใหญ่ของเวชกรรมการพยาบาลดูแลบุคลากรสำหรับผู้ป่วยที่มีตับอักเสบ C บทบาทที่ดีอธิบาย (Ehsani วู & Karvelas, 2006 Grogan& Timmins, 2010 Al. Larrey ร้อยเอ็ด 2011 เซียร์ราลีโอน2002) . ลเอตระหนักถึงที่สำหรับความยั่งยืนบทบาท เวชกรรมการพยาบาลจำเป็นต้องพัฒนาไปรอบการดูแลผู้ป่วยที่มีตับอักเสบบีโรคตับ (ALD) และ hepatocellular ขั้นสูงcarcinoma (คาร์โล) พื้นที่เหล่านี้เกิดขึ้นใหม่ของพยาบาลปฏิบัติยังพูดชัดแจ้งอย่างชัดเจนในการวรรณคดีในออสเตรเลียให้ทั้งเอกชนและรัฐบาลสนับสนุนสถาบัน ที่ปัจจุบันรัฐบาลออสเตรเลียสนับสนุนการดูแลสุขภาพระบบ เรียกว่าเมดิแคร์ coexists กับระบบสุขภาพส่วนตัว เมดิแคร์ได้รับการสนับสนุนออสเตรเลียผู้เสียภาษีและรายได้ทั่วไป การเข้าถึงให้ยายาเป็นอย่างมาก subsidisedโดยแผนงานผลประโยชน์ยา Aจุดแตกต่างจากนานาชาติว่า พยาบาลเวชกรรมออสเตรเลียไม่กำหนดผู้เชี่ยวชาญยารักษา เช่นยาต้านไวรัสรักษาตับอักเสบ B และ C ซึ่งยังคงโดเมนของผู้ที่ทางการแพทย์ อย่างไรก็ตามการเกิดขึ้นของผู้พยาบาลเวชกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลักฐานทางการแพทย์ ในประเทศออสเตรเลียส่วนใหญ่
ของการดูแลรักษาพยาบาลตับแรงงาน
สำหรับผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบ C บทบาทที่ดี
อธิบาย (Ehsani, Vu และ Karvelas 2006; Grogan
& มิน, 2010. Larrey et al, 2011; ร์ราลีโอน,
2002) . AHA ตระหนักดีว่าสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืน
บทบาทพยาบาลตับความต้องการที่จะพัฒนาขึ้นเพื่อ
ครอบคลุมการดูแลผู้ป่วยที่มีโรคตับอักเสบบี,
โรคตับขั้นสูง (ALD) และตับ
มะเร็ง (HCC) พื้นที่ที่เกิดขึ้นใหม่เหล่านี้ของการพยาบาล
การปฏิบัติจะยังไม่ได้ชัดเจนใน
วรรณกรรม.
ดูแลสุขภาพในประเทศออสเตรเลียที่ให้บริการโดยทั้ง
เอกชนและรัฐบาลได้รับการสนับสนุนสถาบัน
รัฐบาลออสเตรเลียในปัจจุบันได้รับการสนับสนุนการดูแลสุขภาพ
ระบบหรือที่เรียกว่าเมดิแคร์อยู่ร่วมกับ
ระบบสุขภาพภาคเอกชน เมดิแคร์ได้รับทุนจาก
ผู้เสียภาษีออสเตรเลียและรายได้ทั่วไป การเข้าถึง
การรักษาด้วยยาเป็นเงินอุดหนุนอย่างมีนัยสำคัญ
โดยประโยชน์เภสัชกรรมโครงการ
จุดที่แตกต่างจากการปฏิบัติระหว่างประเทศเป็น
ว่าพยาบาลตับออสเตรเลียไม่ได้กําหนด
การรักษายาผู้เชี่ยวชาญเช่นไวรัส
ตับอักเสบการรักษาด้วย B และ C ซึ่งยังคง
โดเมนของผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ แต่
การเกิดขึ้นของตับพยาบาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฐานหลักฐานทางการแพทย์ ในออสเตรเลีย ส่วนใหญ่
ของกิลกาลัดพยาบาลพนักงานดูแล
ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซี , บทบาทเป็นอย่างดี
อธิบาย ( ehsani วู & , karvelas , 2006 ;
&โกรแกน ทิมมินส์ , 2010 ; larrey et al . , 2011 ; เซียร์ราลีโอน
, 2002 ) มี AHA จำนั้นเป็นบทบาทที่ยั่งยืน
กิลกาลัดพยาบาลต้องคาย
ครอบคลุมการดูแลผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบ B ,
ขั้นสูงโรคตับ ( ald ) และมะเร็งตับมะเร็ง
( HCC ) ที่เกิดขึ้นใหม่นี้พื้นที่ของการปฏิบัติการพยาบาล
ยังชัดเจนก้องใน

ดูแลสุขภาพในออสเตรเลียวรรณกรรม โดยทั้งภาครัฐและเอกชนสนับสนุน
สถาบัน รัฐบาลออสเตรเลียสนับสนุนระบบการดูแลสุขภาพในปัจจุบัน

เรียกว่า Medicare , คู่กันกับ
ระบบสุขภาพส่วนตัว โครงการประกันสุขภาพของรัฐบาลสนับสนุนโดย
ผู้เสียภาษีที่ออสเตรเลียและบริษัททั่วไป การเข้าถึง
ให้ใบสั่งยาเป็นอย่างมีนัยสำคัญเงินอุดหนุน
โดยประโยชน์ยาแบบ จุดที่แตกต่างจากการฝึกแบบ

ที่นานาชาติออสเตรเลียกิลกาลัดพยาบาลไม่บัญญัติ
ผู้เชี่ยวชาญทางเภสัชกรรมบำบัดเช่นการรักษาด้วยยาต้านไวรัส
สำหรับไวรัสตับอักเสบ B และ C ซึ่งยังคง
โดเมนของผู้ปฏิบัติงานทางการแพทย์ อย่างไรก็ตาม
การเกิดขึ้นของกิลกาลัดพยาบาลผู้ปฏิบัติงาน