2. Paragraph 2a. A hypothesis that

2. Paragraph 2
a. A hypothesis that bees have a sophisticated means of communication needs scientific proof.
b. Harald Esch is a biology professor at the University of Notre Dame in Indiana, who discovered bees’ secret.
c. Harald Esch proposed that beers study the landmarks on the way to food sources and inform other bees by dancing
d. Bees can count the number of landmarks while traveling to food sources, and then direct other bees through their dance.

3. Paragraph3
a. Esch’s team got a worker bee to search for food that they had prepared.
b. The bee was forced to fly back to its hive through a 10-feet-long plastic tunnel.
c. The bee was deceived into thinking that it had traveled a long distance back to its hive.
d. To prove the hypothesis, Esch’s team tricked a bee into giving false information to others.

4. Paragraph4
a. The bee danced as if it had traveled a very long distance.
b. Some 200 bees got lost and could not find the way back to their hive.
c. The result was that 75% of the bees could not find the right food source.
d. Esch’s team calculated the distance from the duration of the bee dance.

5. Paragraph5
ก. Bees have a unique form of communication.
ข. This experiment can probably end the old argument.
ค. bees communicate distance from the sight; not the smell.
ง. bee dance can be called a language since it is means of communication

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2. ย่อหน้าที่ 2a. การสมมติฐานว่า ผึ้งมีวิธีการซับซ้อนของการสื่อสารความต้องการหลักฐานทางวิทยาศาสตร์b. Harald Esch เป็นศาสตราจารย์วิชาชีววิทยาที่ดามมหาวิทยาลัยนอในอินดีแอนา ผู้ค้นพบความลับของผึ้งc. Harald Esch เสนอเบียร์ศึกษาสถานให้แหล่งอาหาร และแจ้งผึ้งอื่น ๆ โดยการเต้นรำd. ผึ้งสามารถนับจำนวนสถานระหว่างการเดินทางไปยังแหล่งอาหาร กแล้ว ตรงผึ้งอื่น ๆ ผ่านการเต้น3. Paragraph3อ.ทีม Esch มีผึ้งงานเพื่อค้นหาอาหารที่พวกเขาได้เตรียมไว้บีบีถูกบังคับให้กลับสู่รังของมันผ่านอุโมงค์พลาสติกยาว 10 ฟุตค.ผึ้งถูกหลอกเป็นความคิดที่ว่า มันเดินทางไกลการกลับไปยังรังของมันd. การพิสูจน์ทฤษฏี ทีมงานของ Esch หลอกผึ้งเข้าให้ข้อมูลเท็จกับคนอื่น ๆ4. Paragraph4อ.ผึ้งเต้นว่าจะเดินทางเป็นระยะทางยาวมากb. บางผึ้ง 200 ได้สูญหาย และไม่สามารถหาทางกลับไปยังรังของพวกเขาc. ผลถูกว่า 75% ของผึ้งไม่สามารถหาแหล่งอาหารที่เหมาะสมd. ทีม Esch คำนวณระยะห่างจากระยะเวลาของการเต้นรำของผึ้ง5. Paragraph5ผึ้งพบว่ามีรูปแบบเฉพาะของการสื่อสารได้ขนี้ทดลองสามารถคงจบอาร์กิวเมนต์เก่าห่างจากสายตา การสื่อสารค. ผึ้ง ไม่กลิ่นง. ผึ้งเต้นสามารถเรียกภาษาเนื่องจากเป็นวิธีการสื่อสาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2. วรรค 2
สมมติฐานที่ว่าผึ้งมีวิธีการที่ซับซ้อนของการสื่อสารความต้องการทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์
ข แฮรัลด์ Esch เป็นศาสตราจารย์ด้านชีววิทยาที่มหาวิทยาลัยเดมในรัฐอินเดียนาที่ค้นพบความลับผึ้ง '
ค แฮรัลด์ Esch เสนอว่าเบียร์ศึกษาสถานที่สำคัญในทางที่จะเป็นแหล่งอาหารและแจ้งผึ้งอื่น ๆ โดยการเต้น
D ผึ้งสามารถนับจำนวนของสถานที่สำคัญในขณะที่การเดินทางไปยังแหล่งอาหารและจากนั้นโดยตรงผึ้งอื่น ๆ ที่ผ่านการเต้นรำของพวกเขา3 Paragraph3 ทีม Esch ก็มีผึ้งงานที่จะหาอาหารที่พวกเขาได้เตรียมข ผึ้งถูกบังคับให้บินกลับไปที่รังผ่าน 10 ฟุตยาวอุโมงค์พลาสติกค ผึ้งถูกหลอกให้คิดว่ามันได้เดินทางเป็นระยะทางยาวกลับไปที่รังของD เพื่อพิสูจน์สมมติฐานทีม Esch หลอกของผึ้งในการให้ข้อมูลที่ผิดพลาดไปยังผู้อื่น4 Paragraph4 ผึ้งเต้นราวกับว่ามันได้เดินทางเป็นระยะทางยาวมากข 200 ผึ้งได้หายไปและไม่สามารถหาทางกลับไปที่รังของพวกเขาค ผลก็คือ 75% ของผึ้งไม่สามารถหาแหล่งอาหารที่เหมาะสมD ทีม Esch คำนวณระยะทางจากระยะเวลาของการเต้นรำผึ้ง5 Paragraph5 ก ผึ้งมีรูปแบบไม่ซ้ำกันของการสื่อสารข การทดลองนี้อาจจะสามารถยุติข้อโต้แย้งเก่าค ผึ้งสื่อสารระยะทางจากสายตา; ไม่ได้กลิ่นง เต้นรำผึ้งสามารถเรียกว่าภาษาเพราะมันเป็นวิธีการสื่อสาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2 . วรรค 2
. สมมุติฐานว่าผึ้งมีความซับซ้อนการสื่อสารต้องมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ .
b . Harald เอชเป็นชีววิทยาศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยของ Notre Dame ในรัฐอินเดียนา ค้นพบความลับของผึ้ง ' .
c . Harald เอชเสนอว่าเบียร์ศึกษาแหล่งท่องเที่ยว บนเส้นทางสู่แหล่งอาหารและแจ้งผึ้งอื่น ๆโดยการเต้น
D .ผึ้งสามารถนับจำนวนจุดในขณะที่เดินทางไปยังแหล่งอาหาร แล้วตรงอื่น ๆผ่านการเต้นรำของผึ้ง

3 ทีม paragraph3
. เอชมีผึ้งงาน เพื่อค้นหาอาหารที่พวกเขาได้เตรียมไว้ .
b . ผึ้งถูกบังคับให้บินกลับรังของมัน ผ่าน 10 ฟุตยาวพลาสติกอุโมงค์ .
c . ผึ้งถูกหลอกให้คิดว่า มันได้เดินทางเป็นระยะทางไกลกลับรังของมัน
Dเพื่อพิสูจน์สมมติฐาน ทีมเอชหลอกผึ้งในการให้ข้อมูลเท็จให้ผู้อื่น

4 . paragraph4
. ผึ้งเต้น ราวกับว่ามันได้เดินทางระยะทางยาวมาก
B 200 ผึ้งได้สูญหายไป และไม่สามารถหาทางกลับรังของพวกเขา .
c พบว่า 75% ของผึ้งสามารถหาแหล่งอาหารถูก ทีม ดี เอช เซอ ของ
คำนวณระยะห่างจากระยะเวลา ของผึ้งเต้น

5 . paragraph5
. . ผึ้งมีรูปแบบเฉพาะของการสื่อสาร
ข . การทดลองนี้อาจจะยุติข้อโต้แย้งเก่า
ค . ผึ้งสื่อสารทางไกล จากสายตา ไม่ได้กลิ่น
ง . ผึ้งเต้นรำสามารถเรียกภาษาเนื่องจากเป็นวิธีการสื่อสาร