significanceIn some respects the su

significance
In some respects the subject of political leadership appears to be outdated. The divisions of society into leaders and followers is rooted in a pre-democratic culture of deference and respect in which leaders 'knew best' and the public needed to be led, mobilise or guided. Democratic pressures may not have removed the need for leaders, but they have certainly placed powerful constraints upon leadership, notably by making leaders publicly accountable and establishing institutional mechanisms through which they can be removed. in other respects, however,the politics of leadership has become increasingly significant. for instance, to some extent democracy it self has enhanced the importance of personality by forcing political leaders, in effect,to 'project themselves' in the hope of gaining electoral support. this tendency has undoubtedly been strengthened by modern means of mass communication which tend to emphasise personality rather than policies,and provide leaders with powerful weapons with which to manipulate their public images. furthermore, as society becomes more complex and fragmented, people may increasingly look to the personal vision of an individual leader to give coherence and meaning to the world in which they live.
the question of political leadership is nevertheless surrounded by deep ideological controversy. Its principal supporters have been on the political right,influenced by a general belief in natural inequality and a broadly pessimistic view of the masses. in its extreme form this was reflected in the fascist 'leader principle' , which holds that there is a single, supreme leader who alone is capable of leading the masses to their destiny, a theory derived from friedrich Nietzsche's (1844-1900) notion of the superman
amongst the supposed virtues of leadership are the following:
-it mobilises and inspires people who would otherwise be inert and directionless;
-it promotes unity and encourages members of a group to pull in the same direction;
-it strengthens organisations by establishing a hierarchy of responsibilities and roles.
liberals and socialists, on the other hand, have usually warned that leaders should not be trusted leadership as a basic threat to equality and justice. nevertheless,this has not prevented socialist regimes from employing leadership systems, and, in the case of Lenin's (1870-1924) theory of the vanguard party, they have sometimes stressed the need for political leadership.
the alleged dangers of leadership include the following:
-it concentrates power,and can thus lead to corruption and tyranny, hence the democratic demand that leadership should be checked by accountability;
-it engenders subservience and deference, thereby discouraging people from taking responsibility for their own lives;
-it narrows debate and argument, because of its emphasis upon ideas flowing down from the top, rather than up from the bottom

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความสำคัญบางประการ เรื่องของภาวะผู้นำทางการเมืองแล้วจะล้าสมัย ส่วนของสังคมเป็นผู้นำและลูกศิษย์เป็นสิ่ง ๆ นั้นได้ยอมตามและเคารพในผู้นำที่ 'รู้ดีที่สุด' และประชาชนต้องเสีย ย้ำวัฒนธรรมประชาธิปไตยก่อน หรือแนะนำ ดันประชาธิปไตยอาจไม่เอาต้องการผู้นำ แต่พวกเขาแน่นอนวางข้อจำกัดที่มีประสิทธิภาพเมื่อนำ ยวด โดยทำให้ผู้นำรับผิดชอบต่อสาธารณะ และสร้างสถาบันกลไกซึ่งจะสามารถออก ประการอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม การเมืองของผู้นำกลายเป็นสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ ตัวอย่าง เพื่อประชาธิปไตยบางขอบเขต นั้นตนเองได้เพิ่มความสำคัญของบุคลิกภาพ โดยบังคับให้ผู้นำทางการเมือง ผล ยื่น 'ตัวเอง ' ในหวังของการได้รับการสนับสนุนการเลือกตั้ง แนวโน้มนี้มีไม่ต้องสงสัยแล้วความแข็ง โดยวิธีที่ทันสมัยของสื่อสารมวลชนซึ่งมักจะ ย้ำบุคลิกภาพมากกว่านโยบาย และมีผู้นำอาวุธที่มีประสิทธิภาพพร้อมที่จะจัดการกับรูปภาพสาธารณะ นอกจากนี้ เป็นสังคมจะซับซ้อน และมีการกระจายตัว คนอาจมากขึ้นดูการวิสัยทัศน์ส่วนบุคคลของผู้นำแต่ละที่ให้ศักยภาพและความหมายกับโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่ คำถามที่เป็นผู้นำทางการเมืองอย่างไรก็ตามได้ถูกล้อมรอบ ด้วยอุดมการณ์ลึกถกเถียง เป็นผู้สนับสนุนหลักได้ในฝ่ายขวา อิทธิพล โดยความเชื่อทั่วไปในธรรมชาติความไม่เท่าเทียมกันและมุมมองในเชิงลบอย่างกว้างขวางดังนั้น ในรูปแบบที่มากนี้ถูกสะท้อนใน fascist 'หลักผู้นำ' ซึ่งถือว่า มีผู้นำเดี่ยว สูงสุดที่เดียวที่มีความสามารถในการนำมวลชนไปสู่จุดหมายปลายทางของพวกเขา ทฤษฎีที่มาจากฟรีดริช (1844-1900) ของ Nietzsche แนวคิดของซูเปอร์แมนที่ ท่ามกลางคุณค่าของความเป็นผู้นำควรมีต่อไปนี้:-ตอน และแรงบันดาลใจคนมิฉะนั้นจะ inert และสะเปะสะปะไร้ทิศ ทาง-ส่งเสริมความสามัคคี และส่งเสริมให้สมาชิกของกลุ่มสามารถดึงในทิศทางเดียวกัน-มันเสริมสร้างองค์กร โดยการสร้างลำดับชั้นของความรับผิดชอบและบทบาทการแห่งและ socialists คง มีมักจะเตือนว่า ผู้นำควรจะเป็นภัยคุกคามต่อพื้นฐานความเสมอภาคและความยุติธรรมเป็นเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม นี้ไม่ไม่ให้ระบอบสังคมนิยม จากใช้ระบบภาวะผู้นำ และ ใน กรณีของเลนิน (ค.ศ. 1870-1924) ทฤษฎีของพรรคแวนการ์ด พวกเขามีบางครั้งเน้นต้องการเป็นผู้นำทางการเมืองอันตรายของผู้ถูกกล่าวหารวมต่อไปนี้:-เรื่องพลังงาน และสามารถจึงนำไปสู่ความเสียหายและ tyranny ดังนั้นความต้องการประชาธิปไตยว่า ผู้นำควรตรวจสอบ โดยความรับผิดชอบ-engenders subservience และนั้นได้ยอมตาม ทำ discouraging คนจากการรับผิดชอบชีวิตของตนเอง-มันจำกัดการอภิปรายและอาร์กิวเมนต์ เนื่องจากการเน้นตามความคิดที่ไหลลงจากด้านบน แทนที่ขึ้นจากด้านล่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อย่างมีนัยสำคัญ
ในบางประการในเรื่องของความเป็นผู้นำทางการเมืองที่ดูเหมือนจะล้าสมัย หน่วยงานของสังคมเป็นผู้นำและผู้ติดตามที่มีรากมาจากยุคก่อนยุคประชาธิปไตยของความเคารพและให้ความเคารพในการที่ผู้นำรู้ที่ดีที่สุด 'และประชาชนที่จำเป็นต้องนำระดมหรือแนะนำ แรงกดดันประชาธิปัตย์อาจจะไม่ได้ออกความจำเป็นสำหรับผู้นำ แต่พวกเขาได้วางไว้อย่างแน่นอนข้อ จำกัด ที่มีประสิทธิภาพในการเป็นผู้นำที่โดดเด่นด้วยการทำให้ผู้นำรับผิดชอบต่อสาธารณะและการสร้างกลไกสถาบันผ่านที่พวกเขาสามารถลบออกได้ ในประการอื่น ๆ แต่การเป็นผู้นำทางการเมืองได้กลายเป็นมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระดับหนึ่งด้วยตนเองได้เพิ่มความสำคัญของบุคลิกภาพด้วยการบังคับให้ผู้นำทางการเมืองในลักษณะที่ 'โครงการตัวเองในความหวังที่จะได้รับการสนับสนุนการเลือกตั้ง แนวโน้มนี้ได้รับไม่ต้องสงสัยความแข็งแกร่งขึ้นด้วยวิธีการที่ทันสมัยของการสื่อสารมวลซึ่งมักจะเน้นบุคลิกภาพมากกว่านโยบายและให้ผู้นำที่มีอาวุธที่มีประสิทธิภาพที่จะจัดการกับภาพสาธารณะของพวกเขา นอกจากนี้จะกลายเป็นสังคมที่มีความซับซ้อนมากขึ้นและแยกส่วนคนอาจจะมากขึ้นมองไปที่วิสัยทัศน์ส่วนตัวของผู้นำแต่ละคนเพื่อให้การเชื่อมโยงกันและความหมายกับโลกที่พวกเขาอาศัย
คำถามของผู้นำทางการเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยความขัดแย้งยังคงอุดมการณ์ลึก ผู้สนับสนุนหลักของ บริษัท ได้รับในสิทธิทางการเมืองได้รับอิทธิพลจากความเชื่อในความไม่เท่าเทียมกันตามธรรมชาติและมุมมองที่กว้างในแง่ร้ายของมวลชน ในรูปแบบที่รุนแรงของมันได้สะท้อนให้เห็นในฟาสซิสต์ 'หลักการผู้นำ' ซึ่งถือได้ว่ามีซิงเกิ้ลผู้นำสูงสุดคนเดียวที่มีความสามารถชั้นนำของฝูงโชคชะตาของพวกเขาทฤษฎีที่ได้จากฟรีดริชนิท (1844-1900) ความคิดของ ซูเปอร์แมน
ในหมู่คุณธรรมของการเป็นผู้นำควรมีดังต่อไป
แต่ก็ mobilizes และแรงบันดาลใจของคนที่จะเป็นอย่างอื่นเฉื่อยและทิศทาง;
-It ส่งเสริมความสามัคคีและส่งเสริมให้สมาชิกของกลุ่มที่จะดึงไปในทิศทางเดียวกัน;
แต่ก็เพิ่มความแข็งแกร่งขององค์กรโดยการสร้าง ลำดับชั้นของความรับผิดชอบและบทบาท
เสรีนิยมและสังคมนิยมในทางกลับกันได้มักจะเตือนว่าผู้นำไม่ควรที่จะเป็นผู้นำที่น่าเชื่อถือว่าเป็นภัยคุกคามขั้นพื้นฐานเพื่อความเสมอภาคและความยุติธรรม แต่นี้ยังไม่ได้ป้องกันไม่ให้ระบอบสังคมนิยมจากการใช้ระบบความเป็นผู้นำและในกรณีของเลนิน (1870-1924) ทฤษฎีของพรรคแนวหน้าที่พวกเขาได้เน้นบางครั้งก็จำเป็นที่จะต้องเป็นผู้นำทางการเมือง
ที่ถูกกล่าวหาอันตรายของการเป็นผู้นำรวมถึงต่อไปนี้:
แต่ก็มุ่งเน้นการใช้พลังงานและทำให้สามารถนำไปสู่การทุจริตและการปกครองแบบเผด็จการจึงต้องการประชาธิปไตยที่ผู้นำควรได้รับการตรวจสอบโดยความรับผิดชอบ;
แต่ก็แปลกใจและส่งเสริมความเคารพคนจึงท้อใจจากการรับผิดชอบชีวิตของตัวเองของพวกเขา
แต่ก็แคบลงการอภิปรายและโต้แย้ง เพราะความสำคัญกับความคิดที่ไหลลงมาจากด้านบนมากกว่าขึ้นมาจากด้านล่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความสำคัญ
ในบางประการ เรื่องของภาวะผู้นำทางการเมืองดูเหมือนจะล้าสมัย ส่วนของสังคมให้เป็นผู้นำและผู้ตามคือ rooted ในวัฒนธรรมของการเคารพนับถือและเคารพก่อนประชาธิปไตยที่ผู้นำรู้ดีที่สุด และประชาชนต้องนำ เคลื่อนพลหรือไกด์ แรงกดดันประชาธิปไตยอาจไม่ได้เอาออก ต้องการผู้นำแต่พวกเขามีแน่นอนวางไว้บนข้อจำกัดที่มีภาวะผู้นำ โดยเฉพาะ โดยให้ผู้นำรับผิดชอบสาธารณะและการสร้างกลไกสถาบันผ่านที่พวกเขาสามารถลบออกได้ ในประการอื่น ๆ แต่การเมืองของผู้นำได้กลายเป็นสำคัญยิ่งขึ้น สำหรับอินสแตนซ์ที่มีขอบเขตประชาธิปไตย ตนเองได้เพิ่มความสำคัญของบุคลิกภาพ โดยบังคับให้ผู้นำการเมืองในผล , " โครงการตัวเองในความหวังของการดึงดูดการสนับสนุนการเลือกตั้ง แนวโน้มนี้ไม่ต้องสงสัยถูกเสริมกำลังโดยวิธีการที่ทันสมัยของสื่อสารมวลชน ซึ่งมักจะเน้นบุคลิกภาพ มากกว่านโยบายและมีผู้นำที่มีอาวุธที่มีประสิทธิภาพที่จะจัดการภาพสาธารณะของตน นอกจากนี้ ตามที่สังคมจะกลายเป็นความซับซ้อนมากขึ้นและกระจัดกระจาย ผู้คนมากขึ้นอาจจะมองไปที่วิสัยทัศน์ส่วนบุคคลของผู้นำแต่ละคน ให้สัมพันธ์กัน และความหมายของโลกที่พวกเขาอาศัยอยู่
คำถามความเป็นผู้นำทางการเมืองเป็นยังคงรายล้อมไปด้วยอุดมการณ์ลึกการโต้เถียงอย่างรุนแรงเป็นผู้สนับสนุนหลักมีสิทธิทางการเมือง อิทธิพลโดยทั่วไปความเชื่อในความธรรมชาติและมุมมองซึ่งมองโลกในแง่ร้ายมากขึ้นของมวล ในรูปแบบนี้มากเห็นในหลักการ ' ' ผู้นำเผด็จการ ซึ่งถือว่า มี เดียว สุดยอดผู้นำคนเดียว ก็สามารถนำมวลชนไปชะตากรรมของพวกเขาเป็นทฤษฎีที่ได้จากของ ฟรีดริช ( 1844-1900 ) ความคิดของซูเปอร์แมน
หมู่ควรคุณธรรมของผู้นำ มีดังนี้ :
- mobilises และแรงบันดาลใจคนมิฉะนั้นจะเฉื่อย และ directionless ;
- ส่งเสริมความสามัคคี และส่งเสริมให้สมาชิกของกลุ่มที่จะดึงในทิศทางเดียวกัน ;
- มันเสริมสร้างองค์กรโดย การสร้างลำดับชั้นของความรับผิดชอบและบทบาท .
เสรีนิยมสังคมนิยมและบนมืออื่น ๆที่มักจะเตือนว่าไม่ควรไว้ใจผู้นำภาวะผู้นำเป็นการคุกคามพื้นฐานเพื่อความเสมอภาคและความยุติธรรม แต่นี้ไม่ได้ป้องกันระบบจากการใช้ภาวะผู้นำ ระบบสังคมนิยม และในกรณีของเลนิน ( 1870-1924 ) ทฤษฎีของพรรคแนวหน้า พวกเขามีบางครั้งเครียดต้องการภาวะผู้นำทางการเมือง
ที่ถูกกล่าวหาว่าอันตรายของภาวะผู้นำรวมถึงต่อไปนี้ :
- มันเข้มข้น พลัง และดังนั้นจึงสามารถนำไปสู่การทุจริตและทรราช ดังนั้นประชาธิปไตยเรียกร้องให้ผู้นำควรจะตรวจสอบโดยความรับผิดชอบ ;
- engenders และยอมรับความแตกต่างจึงท้อใจคนจารับผิดชอบชีวิตของตนเอง ;
- มันแคบอภิปรายและโต้แย้งเพราะมันเน้นความคิดที่ไหลลงมาจากด้านบน แทนที่จะขึ้นจากด้านล่าง