Brazil is the largest sugarcane pro

Brazil is the largest sugarcane producer in the world, responsible for approximately 38% of global production. In the season 2014/2015, the production level reached 634.8 millions metrictons. It is estimated that 28% (on a dry weight basis) of the harvested sugarcane corresponds to lignocellulosic byproducts,bagasse and straw (tops, dry and green leaves), which represent two-thirds of the energetic potential of sugarcane.Currently, sugarcane bagasse, produced during sugarcane milling, is widely used as a fuel in a cogeneration process for energy production, and as a feedstock in bioprocesses research for production of lignocellulosic ethanol and chemicals

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บราซิลเป็นผู้ผลิตอ้อยที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประมาณ 38% ของการผลิตทั่วโลก ในฤดูกาล 2014/2015 ระดับปริมาณการผลิตถึง 634.8 ล้าน metrictons มีประมาณว่า 28% (ตามน้ำหนักแห้ง) ของเก็บเกี่ยวอ้อยที่สอดคล้องกับผลพลอยได้ lignocellulosic อ้อย และฟาง (ใบท็อปส์ แห้ง และสีเขียว), ซึ่งแสดงถึงสองในสามของศักยภาพพลังของอ้อย ในปัจจุบัน อ้อย อ้อยกัด ในระหว่างผลิตกันอย่างแพร่หลายและใช้ เป็นเชื้อเพลิงในกระบวนการเจเนอเรชั่นสำหรับการผลิตพลังงาน และ เป็นวัตถุดิบในงานวิจัย bioprocesses สำหรับผลิตเอทานอ lignocellulosic และสารเคมี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บราซิลเป็นผู้ผลิตอ้อยใหญ่ที่สุดในโลกมีความรับผิดชอบประมาณ 38% ของการผลิตทั่วโลก ในฤดูกาล 2014/2015, ระดับการผลิตถึง 634.8 ล้านเมตริกตัน มันคือประมาณว่า 28% (บนพื้นฐานน้ำหนักแห้ง) ของอ้อยเก็บเกี่ยวสอดคล้องกับลิกโนเซลลูโลสผลพลอยได้จากกากอ้อยและฟางข้าว (ท็อปส์ซูใบแห้งและสีเขียว) ซึ่งเป็นตัวแทนของสองในสามของศักยภาพที่มีพลังของ sugarcane.Currently, ชานอ้อย ผลิตในช่วงโม่อ้อยถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิตไฟฟ้าสำหรับการผลิตพลังงานและเป็นวัตถุดิบในการวิจัยกระบวนการทางชีวภาพในการผลิตเอทานอลลิกโนเซลลูโลสและสารเคมี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บราซิลเป็นผู้ผลิตอ้อยที่ใหญ่ที่สุดในโลก รับผิดชอบประมาณ 38% ของการผลิตทั่วโลก ในฤดูกาล 2014 / 2015 , ระดับการผลิตถึง 634.8 ล้านเมตริกตัน . มันคือประมาณว่า 28 % ( บนพื้นฐานของน้ำหนักแห้ง ) การเก็บเกี่ยวอ้อย สอดคล้องกับ lignocellulosic ผลพลอยได้จากชานอ้อยและฟาง ( ตัวแห้งและใบสีเขียว ) ซึ่งแสดงถึงสองในสามของศักยภาพพลังของอ้อย ปัจจุบัน กากอ้อย อ้อยที่ผลิตในช่วงหลัง คือ ใช้เป็นเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิตสำหรับการผลิตพลังงาน และเป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทานอล lignocellulosic วิจัย bioprocesses และสารเคมี