The "Assemblies of Estates" and the

The "Assemblies of Estates" and the "Estates-General" of the Middle Ages (and the modern period) were based on this principle. Some historians stress the differences between the medieval "Assemblies of Estates" and the representa tive assemblies that became the locus of power in the wake of the three great revolutions. The differences are indeed substantial. However, they should not obscure the elements of continuity. The fact is that the English Parliament after the revolutions of 1641 and 1688 was also the descendant of the Parliament of the "ancient constitution" - and was seen as such.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

"แอสเซมบลีของนิคม" และ "Estates-General" ของยุคกลาง (ยุค) ได้ตามหลักการนี้ นักประวัติศาสตร์บางความเครียดความแตกต่างระหว่างในยุคกลาง "แอสเซมบลีของนิคม" แอสเซมบลี tive representa ที่กลายเป็นโลกัสโพลของพลังในการปลุกของการปฏิวัติดีสาม ความแตกต่างได้พบแน่นอน อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ควรบดบังองค์ประกอบของความต่อเนื่อง ความจริงคือ หลังจากปฏิวัติ 1641 และ 1688 รัฐสภาอังกฤษยังเป็นหลานของรัฐสภา "โบราณรัฐธรรมนูญ" - และเห็นเช่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

"ส่วนประกอบของที่ดิน" และ "สเตตทั่วไป" ของยุคกลาง (และยุคปัจจุบัน) อยู่บนพื้นฐานของหลักการนี​​้ นักประวัติศาสตร์บางคนเน้นความแตกต่างระหว่าง "ส่วนประกอบของที่ดิน" ยุคกลางและประกอบ Representa เชิงที่กลายเป็นสถานทีของพลังในการปลุกของทั้งสามการปฏิวัติที่ดี ความแตกต่างที่แท้จริงมาก แต่พวกเขาไม่ควรปิดบังองค์ประกอบของความต่อเนื่อง ความจริงก็คือว่ารัฐสภาอังกฤษหลังจากการปฏิวัติของ 1641 และ 1688 ก็เป็นลูกหลานของรัฐสภาของ "รัฐธรรมนูญโบราณ" - และถูกมองว่าเป็นเช่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

" ส่วนประกอบของบ้าน " และ " ที่ดินทั่วไป " ของยุคกลางและยุคใหม่ ) ขึ้นอยู่กับหลักการนี้ นักประวัติศาสตร์บางคนเน้นความแตกต่างระหว่างคริสตจักรในยุคกลาง " นิคม " และ representa สั่งประกอบที่เป็นทางเดินของพลังในการปลุกของ สามดีการปฏิวัติ ความแตกต่างที่แน่นอนมาก อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ควรปิดบัง องค์ประกอบของความต่อเนื่อง ความจริงก็คือ อังกฤษ รัฐสภาหลังการปฏิวัติ และยังเสกก็ได้ทายาทของรัฐสภาของ " รัฐธรรมนูญ " โบราณ - และที่เห็นเช่น