Globally, road traffic collisions a

Globally, road traffic collisions are the leading cause of death
among people aged 15–29 years old (WHO, 2013). This is also a
problem in Spain, where it is estimated that the fatality rate is
4.5/100,000 people, but among young drivers this rate is twice as
high (IRTAD, 2013).
Driver behaviour is a contributory factor in the vast majority of
road injuries and fatalities in Spain. For example, in 2005 toxicological
tests found that 28.8% of those killed in traffic accidents
had more than 0.3 g/l of alcohol in their blood (Dirección General
de Tráfico, 2008). Speeding was identified as a contributory factor
in around 24% of all fatal crashes in Spain, while distraction was
noted as a contributing factor in one third of all crashes (IRTAD,
2013). Research has shown that many drivers carry out additional
activities while driving, such as: smoking, eating, drinking, speaking
with passengers, manipulating a radio or music device, or using
a mobile phone (Gras et al., 2008), thereby increasing their probability
of being involved in a crash. Using the mobile phone is one of
the distractions most often engaged in by drivers. Although using a
handheld mobile phone while driving is illegal in Spain, drivers
commonly report talking on a handheld mobile, as well as reading
and writing text messages (Gras et al., 2007a). Furthermore, protective
equipment such as seat belts or helmets are not always
used, particularly on urban roads, when the distance is short
and/or the route is well known (Fuentes et al., 2010; Gras et al.,
2007b).

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทั่วโลกชนการจราจรบนถนนเป็นสาเหตุสำคัญของการตาย
ในหมู่คนอายุ 15-29 ปี (WHO, 2013) นี้ยังเป็น
ปัญหาในสเปนที่มันเป็นที่คาดว่าอัตราการตายเป็น
4.5 / 100,000 คน แต่ในหมู่หนุ่มขับรถอัตรานี้จะเป็นครั้งที่สอง
สูง (IRTAD, 2013).
พฤติกรรมของคนขับเป็นปัจจัยที่สนับสนุนในส่วนใหญ่ของ
ถนน บาดเจ็บและเสียชีวิตในสเปน ยกตัวอย่างเช่นในปี 2005 ทางพิษวิทยา
การทดสอบพบว่า 28.8% ของผู้ที่เสียชีวิตในอุบัติเหตุจราจร
มีมากกว่า 0.3 กรัม / ลิตรของแอลกอฮอล์ในเลือดของพวกเขา (Direcciónทั่วไป
เดTráfico 2008) เร่งถูกระบุว่าเป็นปัจจัยที่สนับสนุน
ในประมาณ 24% ของการเกิดปัญหาร้ายแรงทั้งหมดในสเปนขณะที่สิ่งที่ทำให้ไขว้เขวได้รับการ
ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นปัจจัยร่วมในหนึ่งในสามของการเกิดปัญหาทั้งหมด (IRTAD,
2013) มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าไดรเวอร์หลายดำเนินการเพิ่มเติม
กิจกรรมในขณะขับรถเช่นการสูบบุหรี่ดื่มน้ำรับประทานอาหารพูด
กับผู้โดยสารจัดการอุปกรณ์วิทยุหรือเพลงหรือใช้
(. Gras, et al, 2008) โทรศัพท์มือถือจึงเพิ่มของพวกเขา ความน่าจะเป็น
ของการมีส่วนร่วมในการแข่งขัน ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นหนึ่งใน
การรบกวนส่วนใหญ่มักจะมีส่วนร่วมในการขับรถ แม้ว่าการใช้
โทรศัพท์มือถือแบบใช้มือถือขณะขับรถเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศสเปนไดรเวอร์
ทั่วไปรายงานการพูดคุยบนโทรศัพท์มือถือมือถือเช่นเดียวกับการอ่าน
และการเขียนข้อความ (Gras et al., 2007A) นอกจากนี้การป้องกัน
อุปกรณ์เช่นเข็มขัดนิรภัยหรือหมวกกันน็อกที่ไม่เคย
นำมาใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนถนนในเมืองเมื่อระยะสั้น
และ / หรือเส้นทางที่รู้จักกันดี (ฟู et al, 2010;.. Gras, et al,
2007B)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทั่วโลก , การชนกันของการจราจรบนถนนจะเป็นสาเหตุของความตายในหมู่คนอายุ 15 – 29 ปี ( 2013 ) นี้ยังปัญหาในสเปนที่คาดว่าอัตราการชีวิตคือ4.5/100000 คน แต่ระหว่างไดรเวอร์หนุ่มสาวอัตรานี้เป็นสองเท่าสูง ( irtad 2013 )พฤติกรรมของคนขับรถเป็นปัจจัยเสริมในส่วนใหญ่ของถนนบาดเจ็บและเสียชีวิตในสเปน ตัวอย่างเช่น ในปี 2005 ทางพิษวิทยาการทดสอบพบว่า 28.8 % ของผู้ที่ถูกฆ่าตายในอุบัติเหตุจราจรมีมากกว่า 0.3 กรัม / ลิตรของแอลกอฮอล์ในเลือด ( direcci เลอองทั่วไปเดอ TR . kgm FICO , 2008 ) ถูกระบุว่าเป็นปัจจัยเสริมเร่งในรอบ 24 % ของทั้งหมดเกิดปัญหาร้ายแรงใน สเปน ในขณะที่ฟุ้งซ่านคือไว้เป็นปัจจัยในหนึ่งในสามของทั้งหมด ( irtad ล่ม ,2013 ) การวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าไดรเวอร์มากดำเนินการเพิ่มเติมกิจกรรมขณะขับรถ เช่น สูบบุหรี่ กิน ดื่ม พูดกับผู้โดยสาร ใช้วิทยุหรือเพลง หรือ การใช้อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ ( ราส์ et al . , 2008 ) , จึงช่วยเพิ่มโอกาสของพวกเขาของการมีส่วนร่วมในความผิดพลาด . การใช้โทรศัพท์มือถือเป็นหนึ่งในรบกวนบ่อยที่สุดกับไดรเวอร์ แม้ว่าการใช้มือถือโทรศัพท์มือถือในขณะขับรถเป็นสิ่งผิดกฎหมายในสเปน ไดรเวอร์โดยทั่วไปรายงานคุยมือถือโทรศัพท์มือถือเช่นเดียวกับการอ่านและเขียนข้อความ ( ราส์ et al . , 2007a ) นอกจากนี้ ป้องกันอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เข็มขัดนิรภัย หรือหมวกกันน็อกไม่ได้เสมอใช้โดยเฉพาะบนถนนของเมือง เมื่อระยะทางสั้นและ / หรือเส้นทางที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ( Fuentes et al . , 2010 ; ราส์ et al . ,2007b )