Many teachers know the value of fin

Many teachers know the value of finding those surprising science experiments and demonstrations that hook kids’ attention. One popular one is to have kids predict whether soda cans will sink or float, which turns out to be a nice hook for ideas of density. Kids generally figure that if one thing of a kind sinks or floats, so will all the others. So when the regular soda sinks, most will predict that all the other ones will sink too. Much to their surprise, the diet soda generally floats. Why? Regular sodas are loaded with sugar, and that increases the density of the soda. Diet sodas have aspartame, and a lot less of it per volume (take a look at the side of the can). Steve Spangler’s site has a nice description of this activity.

I want to say more about the soda can activity (and why it is, in a way, a bit of a lie!) but first a few asides:

– This is, of course, also a great lesson in why sugared sodas are so bad for you. That’s a lot of sugar. Another astounding experiment I saw in this regards was to have kids weigh a piece of sugared gum, like Bazooka. Then chew it, while the teacher talks about density and weight and stuff. Then weigh the gum again. It is surprisingly lighter. Where’d all the weight go? Look and see how many grams of sugar are in the gum. That’s now in your belly.

– Kids have a lot of trouble with density. They often think that “light” things float and “heavy” things sink. Take a piece of soap and show that it sinks. Break it in half and ask them to predict whether it will sink or float. Many will predict that it will float, and will be visibly astounded when it still sinks.

– Another great density experiment is to take a piece of aluminum foil. When it’s flat, it sinks. When it’s crumpled up, it holds air, and floats. More info here.

– Lastly, I’m forever enamored with the work of Dan Schwartz, who has kids invent the solution (for example, the formula for density) before telling it to them. He calls these invention activities “Preparation for Future Learning” and there’s a lot of evidence to show that they’re effective. For example, for density, he shows kids a bunch of cars with clowns in them and asks them to come up with a “crowded clown index.” The index has to differentiate between, for example, the small cars with many clowns and the small cars with few clowns, as well as a large car with few clowns and a small car with few clowns. Even if they don’t come up with the standard formula for density, students are ready to hear the expert solution, and also understand why density is a useful construct. This goes along with the idea of giving a need for a vocabulary word before introducing the word itself.

OK, so now for why the soda can trick is (sort of) a lie. It doesn’t always work. It’s important to test the cans before you do this as a classroom activity (unless you want to turn it into an investigation of ‘why didn’t we see what we expected?’). There is some variability in how sodas are canned, both within and across brands. Is the advertised volume actually in the can? (The only way to know is to open the can, though you can also weigh the can, as long as the same mass of aluminum is used). Sometimes there might be extra air in the can, turning what should be a “sinker” into a “floater.” Also, sometimes a bubble can get trapped under the can (so tip it sideways). The temperature of the water also changes its density, so conceivably the temperature of the water could change the outcome of the experiment, though I’d be surprised if this was a large effect.

So, it’s a bit of a “lie” because you never know, perhaps you chose a floater and a sinker that float and sink because of different amounts of trapped air in the can, rather than because of density. One could imagine turning it into an inquiry experiment, where students try to confirm the teacher’s hypothesis that the floating and sinking is due to density differences — a simple weight and volume determination of the soda in the can could do the trick, and would be a great experiment for students to suggest. After all, don’t believe it just because teacher said so!

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ครูหลายคนรู้ค่าของการค้นหาการทดลองวิทยาศาสตร์แปลกใจและสาธิตที่ตะขอความสนใจเด็กเหล่านั้น หนึ่งที่นิยมคือให้เด็กทายว่า โซดากระป๋องจะจมหรือลอย ซึ่งจะออกมาดีตะขอสำหรับไอเดียของความหนาแน่น เด็กโดยทั่วไปคิดว่า ถ้าสิ่งหนึ่งชนิดอ่างล้างมือ หรือลอย ดังนั้นเครื่องอื่น ๆ ดังนั้น เมื่อโซดาปกติล้างมือ ส่วนใหญ่จะทำนายว่า คนอื่น ๆ จะจมเกินไป มากที่แปลกใจของพวกเขา โซดาอาหารโดยทั่วไปจะลอย ทำไม โซดาปกติจะเต็มไป ด้วยน้ำตาล และที่เพิ่มความหนาแน่นของโซดา อาหารโซดามีแอสปาร์แตม และจำนวนมากน้อยของมันต่อปริมาตร (ใช้เวลาดูด้านข้างได้) Steve Spangler ไซต์มีคำอธิบายที่ดีของกิจกรรมนี้อยากจะบอกเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมสามารถโซดา (และทำไมมันเป็น ในทาง บิตของการโกหก) แต่ครั้งแรกกี่เนื้อหา:-นี้ แน่นอน ยังเป็นบทเรียนดีทำไมโซดาตาน้ำจะไม่ดีสำหรับคุณ ที่มีจำนวนมากของน้ำตาล น่าทดลองอื่นที่ผมเห็นในนี้ก็จะ มีเด็กที่มีน้ำหนัก ชิ้นส่วนของฝรั่งตาน้ำ เช่นยิงรถถัง แล้ว เคี้ยวมัน ในขณะที่พูดถึงครูเกี่ยวกับความหนาแน่น และน้ำหนัก และสิ่ง แล้ว ชั่งน้ำหนักเหงือกอีก มีน้ำหนักเบาน่าแปลก น้ำหนักทั้งหมดจะไปที่ไหน ดู และเห็นกี่กรัมน้ำตาลอยู่ในเหงือก ที่ขณะนั้นในท้องของคุณ-เด็กมีปัญหามีความหนาแน่น พวกเขามักจะคิดว่า สิ่งที่ "เบา" ลอย และจม "หนัก" ใช้ชิ้นส่วนของสบู่ และแสดงว่า ล้างมือ แบ่งครึ่ง แล้วขอให้ทำนายว่า มันจะจม หรือลอย หลายจะทำนายว่า จะลอย และจะ astounded อย่างเห็นได้ชัดเมื่อมันยังอ่างล้างมือ– ทดลองความหนาแน่นดีอื่นคือการ ใช้ชิ้นส่วนของอลูมิเนียมฟอยล์ เมื่อมันราบเรียบ มันล้างมือ เมื่อมันเป็นขึ้น มันเก็บอากาศ และลอย ข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่– สุดท้าย ฉันตลอดไป enamored กับงานของชวาร์ตซ์ด่าน ที่มีเด็กที่คิดค้นการแก้ปัญหา (เช่น สูตรสำหรับความหนาแน่น) ก่อนที่จะบอกกับพวกเขา เขาเรียกกิจกรรมเหล่านี้ประดิษฐ์ "การเตรียมการสำหรับอนาคตการเรียนรู้" และมีหลักฐานที่แสดงว่า เป็นมีประสิทธิภาพมาก เช่น สำหรับความหนาแน่น เขาแสดงเด็กพวงของรถกับตัวตลกในพวกเขา และขอให้ขึ้นมาเป็น "ดัชนีตุ๊ยแออัด" ดัชนีมีการแยกความแตกต่างระหว่าง เช่น รถยนต์ขนาดเล็ก ด้วยตัวตลกต่าง ๆ และรถยนต์ขนาดเล็ก มีไม่กี่ตัวตลก เป็นรถขนาดใหญ่ที่ มีไม่กี่ตัวตลก และรถขนาดเล็กที่ มีตัวตลกไม่กี่ แม้ว่าพวกเขาไม่ได้เกิดขึ้นกับสูตรมาตรฐานสำหรับความหนาแน่น นักเรียนจะพร้อมที่จะฟังการแก้ปัญหาผู้เชี่ยวชาญ และยัง เข้าใจทำไมเป็นโครงสร้างมีประโยชน์ นี้ไปพร้อมกับความคิดให้จำคำศัพท์ก่อนคำแนะนำตกลง ดังนั้นตอนนี้ทำไมโซดาสามารถหลอกลวงเป็น (ของ) การโกหก มันไม่ทำงานเสมอ มันเป็นสิ่งสำคัญเพื่อทดสอบกระป๋องก่อนที่เป็นกิจกรรมห้องเรียน (ยกเว้นว่าคุณต้องการเปลี่ยนเป็นการสอบสวนของ 'ทำไมไม่เราเห็นสิ่งที่เราคาดว่า ') มีความแปรปรวนบางในวิธีโซดามีกระป๋อง ทั้งภายใน และ ข้ามแบรนด์ คือเสียงโฆษณาจริงในสามารถ (วิธีเดียวที่จะรู้คือการ เปิดสามารถ แต่คุณยังสามารถชั่งน้ำหนักได้ ตราบเท่าที่มวลเดียวของอลูมิเนียมที่ใช้) บางครั้งอาจมีอากาศพิเศษใน สามารถเปิดสิ่งที่ควรจะเป็น "ทำให้จม" เข้าที่ "floater" ยัง บางครั้งฟองสามารถรับติดอยู่ภายใต้ได้ (ดังนั้นเคล็ดลับมันด้านข้าง) อุณหภูมิของน้ำจะเปลี่ยนความหนาแน่น กลัวดังนั้นอุณหภูมิของน้ำอาจเปลี่ยนแปลงผลของการทดลอง แม้ว่าฉันจะต้องแปลกใจถ้าเรื่องนี้เป็นผลมีขนาดใหญ่ดังนั้น มันเป็นบิตของการ "โกหก" เพราะคุณไม่เคยรู้ คุณอาจจะเลือกเป็น floater และทำให้จมว่าติดลอยและจมเนื่องจากจำนวนแตกต่างของ อากาศ ในสามารถ แทนเนื่อง จากความหนาแน่น หนึ่งสามารถจินตนาการได้เปลี่ยนเป็นการทดสอบคำถาม ที่นักเรียนพยายามยืนยันสมมติฐานของครูว่าการลอยและจมเป็นเนื่องจากความแตกต่างของความหนาแน่น — ง่ายกำหนดน้ำหนักและปริมาตรของโซดาในสามารถสามารถทำเคล็ดลับ และจะเป็นการทดลองที่ดีสำหรับนักเรียนที่จะแนะนำได้ อย่าเชื่อเพียง เพราะว่า ครูได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ครูหลายคนรู้คุณค่าของการหาผู้ทดลองวิทยาศาสตร์ที่น่าแปลกใจและการสาธิตความสนใจว่าเบ็ดเด็กฯ หนึ่งหนึ่งที่นิยมคือการมีเด็ก ๆ ทายว่าโซดากระป๋องจะจมหรือลอยซึ่งจะออกมาเป็นตะขอที่ดีสำหรับความคิดของความหนาแน่น เด็กทั่วไปคิดว่าถ้าสิ่งหนึ่งในชนิดจมหรือลอยเพื่อจะให้คนอื่น ๆ ทั้งหมด ดังนั้นเมื่ออ่างล้างมือโซดาปกติส่วนใหญ่จะคาดการณ์ว่าทุกคนที่คนอื่น ๆ จะจมเกินไป แปลกใจมากที่พวกเขาโซดาอาหารโดยทั่วไปลอย ทำไม? โซดาปกติจะเต็มไปด้วยน้ำตาลและเพิ่มความหนาแน่นของโซดา โซดาอาหารมีสารให้ความหวานและมากน้อยของมันต่อปริมาตร (ดูที่ด้านข้างของกระป๋องที่) . เว็บไซต์สตีฟ Spangler มีคำอธิบายที่ดีของกิจกรรมนี้

ผมอยากจะบอกเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมโซดากระป๋อง (และเหตุผลที่มันเป็นในทางบิตของการโกหก!) แต่ก่อนไม่กี่มานี A:

- นี่คือของหลักสูตร ยังเป็นบทเรียนที่ดีในโซดา sugared ว่าทำไมจึงไม่ดีสำหรับคุณ นั่นเป็นจำนวนมากของน้ำตาล อีกการทดลองที่น่าประหลาดใจที่ผมเห็นในเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ก็จะมีเด็กมีน้ำหนักชิ้นส่วนของเหงือก sugared เช่นรถถัง แล้วเคี้ยวมันในขณะที่ครูพูดคุยเกี่ยวกับความหนาแน่นและน้ำหนักและสิ่ง จากนั้นมีน้ำหนักเหงือกอีกครั้ง มันเป็นที่น่าแปลกใจที่มีน้ำหนักเบา หมอนน้ำหนักทั้งหมดไป? มองและดูวิธีการหลายกรัมน้ำตาลอยู่ในเหงือก นั่นคือตอนนี้อยู่ในท้องของคุณ.

- เด็กมีปัญหามากกับความหนาแน่น พวกเขามักจะคิดว่า "ไฟ" สิ่งที่ลอยและ "หนัก" สิ่งที่จม ใช้ชิ้นส่วนของสบู่และแสดงให้เห็นว่ามันจม ทำลายมันในช่วงครึ่งปีและขอให้พวกเขาที่จะคาดการณ์ว่ามันจะจมหรือลอย หลายคนจะคาดการณ์ว่ามันจะลอยและจะเห็นได้ชัดประหลาดใจเมื่อมันยังคงจม.

- อีกการทดสอบความหนาแน่นที่ดีคือการใช้ชิ้นส่วนของอลูมิเนียมฟอยล์ เมื่อมันแบนมันจม เมื่อมันยู่ยี่ขึ้นก็ถือปรับอากาศและลอย ข้อมูลเพิ่มเติมที่นี่.

- สุดท้ายฉันตลอดไปติดใจกับการทำงานของแดนชวาร์ตซ์ซึ่งเป็นผู้ที่มีเด็กคิดค้นวิธีการแก้ปัญหา (เช่นสูตรสำหรับความหนาแน่น) ก่อนที่จะบอกให้พวกเขา เขาเรียกกิจกรรมสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ "การเตรียมการสำหรับการเรียนรู้ในอนาคต" และมีจำนวนมากที่มีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าพวกเขากำลังที่มีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่นสำหรับความหนาแน่นของเขาแสดงให้เห็นเด็กพวงของรถยนต์ที่มีตัวตลกในพวกเขาและขอให้พวกเขาที่จะเกิดขึ้นกับ "ดัชนีตลกแออัด." ดัชนีมีความแตกต่างระหว่างตัวอย่างเช่นรถยนต์ขนาดเล็กที่มีตัวตลกจำนวนมากและมีขนาดเล็ก รถยนต์ที่มีตัวตลกไม่กี่เช่นเดียวกับรถขนาดใหญ่ที่มีไม่กี่ตัวตลกและรถขนาดเล็กที่มีไม่กี่ตัวตลก แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เกิดขึ้นกับสูตรมาตรฐานสำหรับความหนาแน่นของนักเรียนมีความพร้อมที่จะได้ยินการแก้ปัญหาผู้เชี่ยวชาญและยังเข้าใจว่าทำไมความหนาแน่นสร้างประโยชน์ นี้ไปพร้อมกับความคิดของการให้ความจำเป็นในการคำคำศัพท์ก่อนที่จะแนะนำคำที่ตัวเอง. the

ตกลงดังนั้นตอนนี้ทำไมโซดาสามารถเคล็ดลับคือ (ประเภท) โกหก มันไม่ทำงานเสมอ มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะทดสอบกระป๋องก่อนที่คุณจะทำเช่นนี้เป็นกิจกรรมในชั้นเรียน (ถ้าคุณต้องการที่จะทำให้มันกลายเป็นการสอบสวนของ 'ทำไมเราไม่เห็นสิ่งที่เราคาดหวัง?') มีความแปรปรวนในบางวิธีโซดากระป๋องเป็นทั้งภายในและระหว่างแบรนด์ เป็นปริมาณที่โฆษณาจริงในกระป๋อง? (วิธีเดียวที่จะรู้คือการเปิดกระป๋อง แต่คุณยังสามารถชั่งน้ำหนักกระป๋องตราบใดที่มวลเดียวกันของอลูมิเนียมที่ใช้) บางครั้งอาจจะมีอากาศพิเศษในสามารถเปลี่ยนสิ่งที่ควรจะเป็น "จม" กลายเป็น "หลักลอย." นอกจากนี้บางครั้งฟองจะได้รับการติดอยู่ใต้กระป๋อง (เพื่อให้ปลายด้านข้าง) อุณหภูมิของน้ำยังมีการเปลี่ยนแปลงความหนาแน่นของตนเพื่อให้น่ากลัวอุณหภูมิของน้ำที่สามารถเปลี่ยนแปลงผลของการทดลองแม้ว่าฉันจะประหลาดใจว่านี่คือผลกระทบที่มีขนาดใหญ่.

ดังนั้นมันเป็นบิตของ "โกหก" เพราะคุณ ไม่เคยรู้ว่าบางทีคุณอาจเลือกที่จะลอยและทำให้จมที่ลอยและจมลงเพราะความแตกต่างของปริมาณอากาศที่ติดอยู่ในกระป๋องมากกว่าเพราะความหนาแน่นของ หนึ่งสามารถจินตนาการเปลี่ยนมันเป็นทดลองสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่นักเรียนพยายามที่จะยืนยันสมมติฐานของครูที่ลอยและจมเป็นเพราะความแตกต่างของความหนาแน่น - น้ำหนักและปริมาณความมุ่งมั่นที่เรียบง่ายของโซดาในกระป๋องสามารถทำเคล็ดลับและจะเป็น การทดสอบที่ดีสำหรับนักเรียนที่จะแนะนำ หลังจากที่ทุกคนไม่เชื่อว่ามันเพียงเพราะครูกล่าวว่าดังนั้น!