​In ban fang District area ,there a

​In ban fang District area ,there are the populations about 80 percent earn their living by doing Agricultural work and approximately 20 percent earn their living by working as a labor at the factory nearby . Approximately 70 percent of the children have been raised by their own parents and the other 30 percent of them have been raise by their grandparents who are 50-60 years old.We found that the children who have been raised by their grandparents have less good oral healthcare than the children who have been raised by their own parents because most of the grandparents can not be able to encourage or motivate their children to brush their teeth and control food consumption which is the main cause of oral health problem such as dessert ,cakes and candy due to lack of knowledge. The parents’skill to clean an oral cavity is better than the grandparents’ skill due to the physical condition of the elderly .There is also found that in the group of children under the age of 2-3 years old normally brush their teeth by themselves. Sometimes The parents are not taking part in this activity , and the parents do not make their children re-brush their teeth .Moreover, the children often eat snacks ,candy and cakes that can be purchased in the community .This is the main cause that leads to the prevention crisis of oral health .The prevention of oral healthcare results are not achieved as it should. From our observation in the oral health care surveillance in the community volunteers and community leaders found that it is only about 50 percent that are earnestly processed and take a continuous procedure .The volunteers in each village about 2-3 people can bring the knowledge from the training to utilize in reality such as teaching how to brush and floss to the parents, giving advice about food consumption to prevent the tooth decay , tooth decay screening and dental caries advice with the leader of the community’s support .Besides,the leader of the community ,the volunteers and the parents participate in the activity together such activity is oral health contest in each village .Furthermore , Subdistrict administrative Organization have supported the budget and facilitated .
The limitations of the study is the area processing and the participants of the study including, there is a dynamic movement so it is necessary to revise the goal and the procedure of the activity at all times.Moreover, the study is intended to create the participation of the community so, the researcher must take part to encourage ,motivate and support the community continuously.
The advantage of the study is this format will make a community awareness to solve the problem which will cause a change of people’s behavior in the community ,Moreover a good circumstance is needed because just only giving the knowledge is not able to make a stable modification .

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในบ้านฝางเขต มีประชากรประมาณร้อยละ 80 รับ โดยการทำงานเกษตร และประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์รับ โดยการทำงานเป็นแรงงานที่โรงงานใกล้เคียงกัน ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของเด็กที่ได้รับยกพ่อแม่ตนเอง และอื่น 30 เปอร์เซ็นต์ของพวกเขาได้รับเพิ่ม โดยปู่ย่าตายายของพวกเขาที่มีอายุ 50-60 ปี เราพบว่า เด็ก ๆ ที่ได้รับการเลี้ยงดู โดยปู่ย่าตายายของพวกเขาสามารถดูแลสุขภาพปากที่ดีน้อยกว่าเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดู โดยพ่อแม่ของตนเองเนื่องจากส่วนใหญ่ของปู่ย่าตายายไม่สามารถจะส่งเสริม หรือกระตุ้นให้เด็กแปรงฟัน และควบคุมการบริโภคอาหารซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาสุขภาพช่องปากเช่นขนม เค้ก และขนมเนื่องจากขาดความรู้ Parents'skill ทำเป็นปากดีกว่ามากกว่าของปู่ย่าตายายเนื่องจากสภาพร่างกายของผู้สูงอายุ มียังพบว่า ในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 2-3 ปี เก่าปกติแปรงฟัน ด้วยตนเอง บางครั้งพ่อแม่จะไม่ได้เข้าร่วมในกิจกรรมนี้ และผู้ปกครองให้เด็กแปรงฟันอีกครั้ง นอกจากนี้ เด็กมักกินขนม ขนม และเค้กที่สามารถซื้อได้ในชุมชน นี่คือสาเหตุหลักที่นำไปสู่วิกฤตการป้องกันสุขภาพช่องปาก การป้องกันผลลัพธ์ด้านการดูแลสุขภาพช่องปากไม่ได้ ตามที่ควร จากการสังเกตของเราในการเฝ้าระวังดูแลสุขภาพช่องปากในชุมชนอาสาสมัครและผู้นำชุมชนพบว่า เป็นเพียงร้อยละ 50 ที่จะดำเนินการจริงจัง และดำเนินกระบวนการต่อเนื่อง อาสาสมัครในแต่ละหมู่บ้านเกี่ยวกับ 2-3 คนสามารถนำความรู้จากการฝึกอบรมเพื่อใช้ในความเป็นจริงเช่นการสอนวิธีการแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันกับพ่อแม่ ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบริโภคอาหารเพื่อป้องกันฟันผุ ฟันผุตรวจและฟันผุแนะนำกับผู้นำของชุมชนสนับสนุน ผู้นำชุมชน อาสาสมัคร และผู้ปกครองมีส่วนร่วมในกิจกรรมการโดดกิจกรรมดังกล่าวเป็นการประกวดสุขภาพช่องปากในแต่ละหมู่บ้าน นอกจากนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลมีงบประมาณสนับสนุน และอำนวยความสะดวก ข้อจำกัดของการศึกษาคือ การประมวลผลพื้นที่และผู้เข้าร่วมการศึกษารวม มีการเคลื่อนไหวแบบไดนามิกดังนั้นจึงจำเป็นต้องทบทวนเป้าหมาย และกระบวนการของกิจกรรมทุกครั้ง นอกจากนี้ การศึกษามีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนนั้น นักวิจัยต้องมีส่วนร่วมส่งเสริม กระตุ้น และสนับสนุนชุมชนอย่างต่อเนื่องประโยชน์ของการศึกษาคือ รูปแบบนี้จะทำให้การรับรู้ชุมชนในการแก้ปัญหาซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของคนในชุมชน Moreover สถานการณ์ดีเป็นสิ่งจำเป็นเพราะเพียง ให้ความรู้ไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงที่มีเสถียรภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บ้านในพื้นที่อำเภอฝางมีประชากรประมาณร้อยละ 80 มีรายได้เลี้ยงชีพด้วยการทำผลงานทางการเกษตรและประมาณร้อยละ 20 ได้รับชีวิตของพวกเขาโดยการทำงานเป็นแรงงานที่โรงงานในบริเวณใกล้เคียง ประมาณร้อยละ 70 ของเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยพ่อแม่ของตัวเองและอื่น ๆ ร้อยละ 30 ของพวกเขาได้รับการยกระดับจากปู่ย่าตายายของพวกเขาที่มี 50-60 ปี old.We พบว่าเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูจากปู่ย่าตายายของพวกเขามีน้อยดีในช่องปาก การดูแลสุขภาพกว่าเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยพ่อแม่ของตัวเองเพราะส่วนใหญ่ของปู่ย่าตายายที่ไม่สามารถจะสามารถที่จะสนับสนุนหรือกระตุ้นให้เด็กของพวกเขาในการแปรงฟันของพวกเขาและการควบคุมการบริโภคอาหารซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาสุขภาพในช่องปากเช่นขนมเค้กและ ลูกอมเนื่องจากการขาดความรู้ parents'skill ในการทำความสะอาดช่องปากดีกว่าทักษะปู่ย่าตายาย 'เนื่องจากสภาพร่างกายของผู้สูงอายุ .There ยังพบว่าในกลุ่มเด็กอายุ 2-3 ปีภายใต้การแปรงฟันตามปกติของพวกเขาด้วยตัวเอง . บางครั้งพ่อแม่ไม่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้และผู้ปกครองไม่ให้เด็กของพวกเขาอีกครั้งแปรงฟัน .Moreover เด็กมักจะกินขนม, ขนมและเค้กที่สามารถซื้อได้ในชุมชนนี้เป็นสาเหตุหลักที่ นำไปสู่วิกฤตการป้องกันสุขภาพช่องปากป้องกันผลการดูแลสุขภาพในช่องปากได้โดยเริ่มต้นจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จากการสังเกตของเราในการเฝ้าระวังการดูแลสุขภาพช่องปากในอาสาสมัครชุมชนและผู้นำชุมชนพบว่ามันเป็นเพียงประมาณร้อยละ 50 ที่มีการประมวลผลอย่างจริงจังและใช้ขั้นตอนอย่างต่อเนื่องได้โดยง่ายอาสาสมัครในแต่ละหมู่บ้านประมาณ 2-3 คนสามารถนำความรู้จากที่ การฝึกอบรมที่จะใช้ในความเป็นจริงเช่นการเรียนการสอนวิธีการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันให้กับผู้ปกครองให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบริโภคอาหารเพื่อป้องกันไม่ให้ฟันผุคัดกรองฟันผุและคำแนะนำในการเกิดโรคฟันผุกับผู้นำของ .Besides สนับสนุนชุมชนผู้นำของชุมชน อาสาสมัครและผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมร่วมกันเช่นกิจกรรมประกวดสุขภาพช่องปากในแต่ละหมู่บ้าน .Furthermore, องค์การบริหารส่วนตำบลได้รับการสนับสนุนงบประมาณและการอำนวยความสะดวก.
ข้อ จำกัด ของการศึกษาคือการประมวลผลในพื้นที่และผู้เข้าร่วมการศึกษารวมทั้ง, มีการเคลื่อนไหวแบบไดนามิกดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการทบทวนเป้าหมายและขั้นตอนของกิจกรรมที่ทุก times.Moreover การศึกษาที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชนเพื่อให้ผู้วิจัยจะต้องมีส่วนร่วมในการส่งเสริมกระตุ้นและสนับสนุน ชุมชนอย่างต่อเนื่อง.
ประโยชน์ของการศึกษาคือรูปแบบนี้จะทำให้การรับรู้ของชุมชนในการแก้ปัญหาซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้คนในชุมชนนอกจากนี้ยังมีกรณีที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นเพราะเพียงการให้ความรู้ที่ไม่สามารถที่จะทำให้ การเปลี่ยนแปลงที่มีเสถียรภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

​ในพื้นที่ตำบลบ้านฝาง มีประชากรประมาณร้อยละ 80 ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ประมาณร้อยละ 20 และหาเลี้ยงชีพด้วยการทำงานเป็นแรงงานในโรงงานใกล้เคียง ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ของเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยพ่อแม่ของพวกเขาเอง และอีกร้อยละ 30 ของพวกเขาได้รับการยกโดยปู่ย่าตายายของพวกเขาที่ 50-60 ปี เราพบว่า เด็กที่ถูกเลี้ยงดูจากปู่ย่าตายายของพวกเขา มี ดี น้อย ดูแลสุขภาพช่องปาก มากกว่าเด็กที่ถูกเลี้ยงดูโดยพ่อแม่ของพวกเขาเอง เพราะส่วนใหญ่ของ ปู่ ย่า ตา ยาย จะไม่สามารถกระตุ้นหรือจูงลูกหลานไปแปรงฟัน และการควบคุมการบริโภคอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น ขนมหวาน เค้ก และขนม เนื่องจากขาดความรู้ ที่เป็น parents"skill ทำความสะอาดช่องปากได้ดีกว่าปู่ย่าตายายทักษะเนื่องจากสภาพทางกายภาพของผู้สูงอายุ นอกจากนี้ยังพบว่า ในกลุ่มเด็กอายุ 2-3 ปี ปกติจะแปรงฟันด้วยตนเอง บางครั้งผู้ปกครองจะไม่ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ และพ่อแม่ไม่ทำให้เด็กเป็น แปรง ฟัน นอกจากนี้ เด็กมักจะกินของว่าง ขนมและเค้ก ที่สามารถซื้อในชุมชน นี่คือสาเหตุหลักที่นำไปสู่การป้องกันวิกฤตสุขภาพช่องปาก การป้องกันของผลลัพธ์สุขภาพช่องปากไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จากการสังเกตของเราในการดูแลสุขภาพช่องปากในชุมชน อาสาสมัคร และผู้นำชุมชน พบว่า มีเพียงประมาณร้อยละ 50 ที่เป็นเรื่องเป็นราว ประมวลผล และใช้กระบวนการอย่างต่อเนื่อง โดยในแต่ละหมู่บ้าน ประมาณ 2-3 คน สามารถนำความรู้จากการฝึกอบรมไปใช้ในชีวิตจริง เช่น การสอนให้แปรงและไหมขัดฟันให้พ่อแม่ , ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการบริโภคอาหารเพื่อป้องกันฟันผุ ฟันผุและคำแนะนำการตรวจฟันผุกับหัวหน้าของการสนับสนุนของชุมชน นอกจากนี้ ผู้นำชุมชน อาสาสมัคร และผู้ปกครองมีส่วนร่วมในกิจกรรมร่วมกัน กิจกรรมดังกล่าว คือ การประกวดสุขภาพช่องปากในแต่ละหมู่บ้าน นอกจากนี้ องค์การบริหารส่วนตำบล ได้รับการสนับสนุนงบประมาณและความสะดวก .ข้อ จำกัด ของพื้นที่ศึกษาคือ การประมวลผล และ ผู้ศึกษา รวมทั้ง มีการเคลื่อนไหวแบบไดนามิก มันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทบทวนเป้าหมายและขั้นตอนของกิจกรรมอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ การศึกษามีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน ดังนั้น ผู้วิจัยจะต้องมีส่วนร่วม เพื่อกระตุ้นให้ จูง และสนับสนุนชุมชนอย่างต่อเนื่องประโยชน์ของการศึกษา รูปแบบนี้จะสร้างความตระหนักในชุมชนเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้คนในชุมชน นอกจากนี้สถานการณ์ที่ดีเป็นสิ่งจำเป็น เพราะแค่เพียงการให้ความรู้ที่ไม่สามารถทำการดัดแปลงที่มั่นคง