When compared with women who were u

When compared with women who were using no contraception, users of oral contraceptive pills
were at increased risk for acquisition of chlamydia (hazard ratio, 1.8; 95% confidence interval, 1.1-2.9) and
vaginal candidiasis (hazard ratio, 1.5; 95% confidence interval, 1.2-1.9) and at decreased risk for bacterial
vaginosis (hazard ratio, 0.8; 95% confidence interval, 0.7-1.0).Women using depot medroxyprogesterone acetate
had significantly increased risk of chlamydia infection (hazard ratio, 1.6; 95% confidence interval, 1.1-
2.4) and significantly decreased risk of bacterial vaginosis (hazard ratio, 0.7; 95% confidence interval, 0.5-
0.8), trichomoniasis (hazard ratio, 0.6; 95% confidence interval, 0.4-1.0), and pelvic inflammatory disease
(hazard ratio, 0.4; 95% confidence interval, 0.2-0.7). Consistent condom use was associated with significantly
decreased risk of gonorrhea, chlamydia, genital ulcer disease, bacterial vaginosis, and pelvic inflammatory
disease.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่เคยใช้ไม่คุมกำเนิด ผู้ใช้ยาคุมกำเนิดที่เพิ่มความเสี่ยงสำหรับกิจการ chlamydia (อัตราอันตราย 1.8; 95% ช่วงความเชื่อมั่น 1.1 2.9) และช่องคลอด candidiasis (อัตราอันตราย 1.5; 95% ช่วงความเชื่อมั่น 1.2-1.9) และที่ลดความเสี่ยงสำหรับแบคทีเรียเดือน (อัตราอันตราย 0.8; 95% ช่วงความเชื่อมั่น 0.7-1.0) ผู้หญิงใช้คลังท medroxyprogesterone acetateอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มขึ้นความเสี่ยงของการติดเชื้อ chlamydia (อัตราอันตราย 1.6; 95% ช่วงความเชื่อมั่น 1.1-2.4) และลดลงความเสี่ยงของเชื้อแบคทีเรีย vaginosis (อัตราอันตราย 0.7; 95% ช่วงความเชื่อมั่น 0.5 -0.8) trichomoniasis (อัตราอันตราย 0.6 ช่วงความเชื่อมั่น 95%, 0.4-1.0), และโรคกระดูกเชิงกรานอักเสบ(อัตราส่วนอันตราย 0.4 ช่วงความเชื่อมั่น 95%, 0.2-0.7) ใช้ถุงยางอนามัยสม่ำเสมอถูกเชื่อมโยงกับอย่างมีนัยสำคัญลดความเสี่ยงของหนองในแท้ โรคแผลที่อวัยวะเพศ chlamydia เชื้อแบคทีเรีย vaginosis และอุ้งเชิงกรานอักเสบโรค

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ถูกใช้ไม่มีการคุมกำเนิดผู้ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิด
มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับการซื้อกิจการของ Chlamydia (อัตราส่วนอันตราย 1.8; 95% ช่วงความเชื่อมั่น, 1.1-2.9) และ
candidiasis ช่องคลอด (อัตราส่วนอันตราย 1.5; 95% confidence ช่วง 1.2-1.9) และลดลงความเสี่ยงในการติดเชื้อแบคทีเรีย
vaginosis (อัตราส่วนอันตราย 0.8; 95% confidence interval, 0.7-1.0) .Women ใช้อะซิเตท Depot medroxyprogesterone
ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญความเสี่ยงของการติดเชื้อหนองในเทียม (อัตราส่วนอันตราย 1.6; 95% confidence ช่วง 1.1-
2.4) ลดลงอย่างมากและมีความเสี่ยงของภาวะแบคทีเรีย (อัตราส่วนอันตราย 0.7; 95% confidence interval, 0.5
0.8) Trichomoniasis (อัตราส่วนอันตราย 0.6; 95% confidence interval, 0.4-1.0) และโรคกระดูกเชิงกรานอักเสบ
(อัตราส่วนอันตราย 0.4; 95% confidence interval, 0.2-0.7) ใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอมีความสัมพันธ์กับอย่างมีนัยสำคัญ
ลดความเสี่ยงของโรคหนองในหนองในเทียมโรคแผลที่อวัยวะเพศภาวะแบคทีเรียและกระดูกเชิงกรานอักเสบ
โรค

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ใช้ผู้ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดการคุมกำเนิดมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นสำหรับการเข้าซื้อกิจการของ Chlamydia ( อัตราส่วนอันตราย 1.8 ; ช่วงความเชื่อมั่น 95% 1.1-2.9 , และปราม ( อันตรายต่อ 1.5 ; 95% ช่วงความเชื่อมั่นที่ลดลง , ความเสี่ยง 1.2-1.9 ) และแบคทีเรียvaginosis ( อันตรายต่อ 0.8 ; ช่วงความเชื่อมั่น 95% ผู้หญิงใช้ 0.7-1.0 , คลัง medroxyprogesterone acetate )อย่างมีนัยสำคัญเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อ Chlamydia ( อันตราย ) , 1.6 ; ช่วงความเชื่อมั่น 95% 1.1 -2.4 ) และลดลงความเสี่ยงของภาวะแบคทีเรียอันตราย ( อัตราส่วน 0.7 ; ช่วงความเชื่อมั่น 95% , 0.5 -ทริโคโมนาส ( , 0.8 ) และอัตราส่วน 0.6 ; ช่วงความเชื่อมั่น 95% 0.4-1.0 , ) และอุ้งเชิงกรานอักเสบ( อันตรายอัตราส่วน 0.4 ; ช่วงความเชื่อมั่น 95% 0.2-0.7 , ) การใช้ถุงยางอนามัยที่สอดคล้องสัมพันธ์กับอย่างมากลดความเสี่ยงของหนองในแท้ หนองในเทียม , อวัยวะเพศเป็นแผลโรค bacterial vaginosis และกระดูกเชิงกรานอักเสบโรค