Soils that contain large amounts of

Soils that contain large amounts of char are those that have experienced relatively frequent
natural fires over a period of millennia (Lehmann et al., 2008). Converting a fraction of
standing plant biomass to black carbon in soil constitutes net removal of CO2 from the
atmosphere (Forbes et al., 2006). A relatively minor under-estimation in our estimates for the
percentage converted could explain up to one-fifth of the so-called missing carbon sink, that
is the imbalance between carbon eliminated from forest and fossil fuels, against observed
atmospheric CO2 (Kuhlbusch, 1998).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดินเนื้อปูนที่ประกอบด้วยจำนวนมากของอักขระที่ไม่เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ค่อนข้างบ่อย
ไฟธรรมชาติช่วงวรรษ (Lehmann et al., 2008) แปลงเศษส่วนของ
ยืนชีวมวลพืชให้สีดำคาร์บอนในดินถือสุทธิเอา CO2 จากการ
บรรยากาศ (Forbes และ al., 2006) การประเมินน้อยค่อนข้างน้อยในการประเมินของเราสำหรับการ
แปลงเป็นเปอร์เซ็นต์สามารถอธิบายถึงหนึ่งห้าของเรียกว่าขาดคาร์บอนซิงค์ ที่
คือความไม่สมดุลระหว่างคาร์บอนออกจากป่าและเชื้อเพลิงฟอสซิล กับสังเกต
บรรยากาศ CO2 (Kuhlbusch, 1998)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดินที่มีจำนวนมากของถ่านเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ค่อนข้างบ่อย
ไฟธรรมชาติในช่วงพันปี (มาห์และอัล. 2008) แปลงส่วนของ
ชีวมวลพืชยืนคาร์บอนสีดำในดินถือเป็นการกำจัดสุทธิ CO2 จาก
บรรยากาศ (ฟอร์บและคณะ. 2006) เล็ก ๆ น้อย ๆ ภายใต้การประเมินในประมาณการของเราสำหรับ
ร้อยละแปลงสามารถอธิบายถึงหนึ่งในห้าของที่เรียกว่าอ่างคาร์บอนที่ขาดหายไปที่
ความไม่สมดุลระหว่างคาร์บอนตัดออกจากป่าและเชื้อเพลิงฟอสซิลกับสังเกต
CO2 บรรยากาศ (Kuhlbusch 1998 )

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดินที่ประกอบด้วยจำนวนมากของชาร์ที่มีประสบการณ์ค่อนข้างบ่อย
ธรรมชาติไฟในช่วงพันปี ( เลห์มันน์ et al . , 2008 ) การแปลงเศษส่วน
ยืนชีวมวลพืช คาร์บอนสีดำในดินถือเป็นการกำจัดสุทธิ CO2 จาก
บรรยากาศ ( Forbes et al . , 2006 ) มีค่อนข้างน้อย ภายใต้ประมาณการในประมาณการของเราสำหรับ
ค่าแปลงสามารถอธิบายถึงหนึ่งในห้าของที่เรียกว่าคาร์บอนจมหายไปที่
คือความไม่สมดุลระหว่างคาร์บอนตัดจากป่า และเชื้อเพลิงฟอสซิล กับสังเกต
คาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ ( kuhlbusch , 1998 )