3. Hypothesis Development Prior res

3. Hypothesis Development
Prior research reports mixed evidence on audit
fee and auditor’s independence. This study attempts
to answer question whether audit fee affect auditor’s
opinion. The high audit fee may impair auditor’s
independence since auditors would like to keep good
relation with their clients and are likely to issue
unqualified financial reports. Auditors who have
economic dependence with clients may allow
management to manage their earnings as reported
by Frankel et al. (2002). When auditors receive low
audit fee, they have less economic bond with clients
because audit cost may be higher than audit fee.
Thus, they are not afraid of losing such audit clients
and likely to express modified opinion to financial
statements when they found uncertainty or
problematic issues in clients’ companies. However,
the high audit fee may represent audit quality
because auditors have to perform their works with
professional skepticism and high standards in order
to protect their reputation and avoid litigation risk
(Geiger and Rama, 2003). In other words, the more
uncertain issues in client’s firm, the more audit work
to be performed, leading to higher audit fees.
Besides, Herrmann et al. (2008) report that auditors’
conservatism in Thailand have increased after the
financial crisis due to the adoption of International
Financial Reporting Standards (IFRSs) and
improvements in corporate governance system.
Thus, the current study expects that high audit fees
represent high audit quality because auditors have to
charge for premium fee when they perform more
audit procedures in order to resolve issues in clients’
companies. Such audit clients are likely to have
going concern and/or unresolved issues and auditors
are likely to express modified auditor’s opinion to
avoid litigation and reputation risk. Therefore, the
first hypothesis is formulated as follows.
H1: Audit clients with modified financial reports pay
higher audit fee than those with unqualified
financial reports.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3. สมมติฐานพัฒนา รายงานการวิจัยก่อนที่หลักฐานในการตรวจสอบผสม ค่าธรรมเนียมและความเป็นอิสระของผู้สอบบัญชี ความพยายามในการศึกษานี้ ตอบ คำถามว่าการตรวจสอบสอบผลค่าธรรมเนียม ความคิดเห็น ค่าสอบบัญชีสูงอาจทำตอบแทนผู้สอบ ความเป็นอิสระเนื่องจากผู้สอบบัญชีต้องการให้ดี ความสัมพันธ์กับลูกค้าของพวกเขาและมีแนวโน้มที่จะออก รายงานทางการเงินใด ผู้สอบบัญชีที่มี เศรษฐกิจพึ่งพากับลูกค้าอาจทำให้ บริหารจัดการกำไรของพวกเขาตามรายงาน โดย Frankel et al. (2002) เมื่อผู้สอบบัญชีได้รับต่ำ ตรวจสอบค่าธรรมเนียม มีพันธะน้อยเศรษฐกิจกับลูกค้า เนื่องจากตรวจสอบต้นทุนอาจจะสูงกว่าค่าสอบบัญชี ดังนั้น พวกเขาจะไม่กลัวการสูญเสียเช่นลูกค้าตรวจสอบ และแนวโน้มที่จะแสดงความเห็นปรับเปลี่ยนการเงิน งบเมื่อพวกเขาพบความไม่แน่นอน หรือ ประเด็นปัญหาในบริษัทของลูกค้า อย่างไรก็ตาม ค่าสอบบัญชีสูงอาจหมายถึงการตรวจสอบคุณภาพ เนื่องจากผู้สอบบัญชีมีการทำงานของพวกเขาด้วย สงสัยมืออาชีพและมาตรฐานที่สูงตามลำดับ เพื่อปกป้องชื่อเสียงของพวกเขา และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการดำเนินคดี (Geiger และพระราม 2003) ในคำอื่น ๆ เพิ่มเติม ไม่แน่นอนในไคลเอ็นต์ของบริษัท ยิ่งตรวจสอบงาน ทำ นำไปสูงตรวจสอบค่าธรรมเนียม นอกจาก เฮอร์มานน์ et al. (2008) รายงานที่ผู้สอบบัญชีของ อนุรักษนิยมในประเทศไทยได้เพิ่มขึ้นหลังจาก วิกฤตการณ์ทางการเงินเนื่องจากการยอมรับของนานาชาติ มาตรฐานการรายงานทางการเงิน (IFRSs) และ ปรับปรุงระบบกำกับดูแล ดังนั้น การศึกษาปัจจุบันต้องตรวจสอบที่สูงค่า แสดงถึงคุณภาพสูงตรวจสอบเนื่องจากมีผู้สอบบัญชี ค่าธรรมเนียมสำหรับค่าธรรมเนียมพิเศษเมื่อพวกเขาทำมากขึ้น ขั้นตอนการตรวจสอบเพื่อแก้ไขปัญหาของลูกค้าใน บริษัท ลูกค้าตรวจสอบดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะมี กังวลไป หรือยังไม่ได้แก้ไขปัญหา และผู้สอบบัญชี มีแนวโน้มในการแสดงความคิดเห็นของผู้ตรวจสอบแก้ไขให้ หลีกเลี่ยงความเสี่ยงดำเนินคดีและมีชื่อเสียง ดังนั้น การ สมมติฐานแรกเป็นสูตรดังนี้ H1: ลูกค้าตรวจสอบรายงานทางการเงินปรับค่าจ้าง ตรวจสอบค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าผู้ที่มีเงื่อนไข รายงานทางการเงิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3.
การพัฒนาสมมติฐานการวิจัยก่อนที่รายงานผสมหลักฐานการตรวจสอบค่าใช้จ่ายและความเป็นอิสระของผู้สอบบัญชี
การศึกษานี้พยายามที่จะตอบคำถามว่าจะส่งผลกระทบต่อค่าสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีความเห็น ค่าสอบบัญชีสูงอาจทำให้เสียของผู้สอบบัญชีอิสระเนื่องจากผู้สอบบัญชีต้องการให้ดีความสัมพันธ์กับลูกค้าของพวกเขาและมีแนวโน้มที่จะออกรายงานทางการเงินอย่างไม่มีเงื่อนไข ผู้สอบบัญชีที่มีการพึ่งพาทางเศรษฐกิจกับลูกค้าอาจช่วยให้การบริหารจัดการในการจัดการกำไรของพวกเขาตามที่รายงานโดยแฟรงเคิลและอัล (2002) เมื่อผู้สอบบัญชีได้รับต่ำค่าสอบบัญชีที่พวกเขามีความผูกพันทางเศรษฐกิจน้อยกับลูกค้าเพราะค่าใช้จ่ายการตรวจสอบอาจจะสูงกว่าค่าสอบบัญชี. ดังนั้นพวกเขาจะไม่กลัวการสูญเสียลูกค้าตรวจสอบดังกล่าวและมีแนวโน้มที่จะแสดงความเห็นการปรับเปลี่ยนเพื่อการเงินงบเมื่อพวกเขาพบความไม่แน่นอนหรือปัญหาปัญหาใน บริษัท ของลูกค้า อย่างไรก็ตามค่าการตรวจสอบในระดับสูงอาจจะเป็นตัวแทนที่มีคุณภาพการตรวจสอบเพราะผู้สอบบัญชีต้องดำเนินการงานของพวกเขาที่มีความสงสัยเป็นมืออาชีพและมีมาตรฐานสูงในการสั่งซื้อเพื่อปกป้องชื่อเสียงและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงการดำเนินคดีของพวกเขา(วัดพระราม, 2003) ในคำอื่น ๆ ที่มากกว่าปัญหาความไม่แน่นอนในบริษัท ของลูกค้า, การทำงานการตรวจสอบมากขึ้นที่จะดำเนินการที่นำไปสู่การตรวจสอบค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น. นอกจากมานน์, et al (2008) รายงานว่าผู้สอบบัญชีอนุรักษ์ในประเทศไทยได้เพิ่มขึ้นหลังจากที่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินอันเนื่องมาจากการยอมรับของนานาชาติมาตรฐานการรายงานทางการเงิน(IFRSs) และการปรับปรุงในระบบการกำกับดูแลกิจการ. ดังนั้นการศึกษาในปัจจุบันคาดว่าค่าสอบบัญชีสูงเป็นตัวแทนที่มีคุณภาพการตรวจสอบสูงเนื่องจากผู้สอบบัญชีต้องเสียค่าใช้จ่ายค่าพรีเมี่ยมเมื่อพวกเขาดำเนินการมากขึ้นวิธีการตรวจสอบเพื่อแก้ไขปัญหาในลูกค้าบริษัท ลูกค้าตรวจสอบดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะมีจะกังวลและ / หรือได้รับการแก้ไขปัญหาและผู้สอบบัญชีมีแนวโน้มที่จะแสดงความเห็นของผู้สอบบัญชีมีการปรับเปลี่ยนเพื่อหลีกเลี่ยงการดำเนินคดีและความเสี่ยงที่มีชื่อเสียง ดังนั้นสมมติฐานแรกเป็นสูตรดังต่อไปนี้. H1: ลูกค้าตรวจสอบรายงานทางการเงินที่มีการปรับเปลี่ยนการจ่ายเงินค่าสอบบัญชีที่สูงกว่าผู้ที่มีความเหมาะสมการรายงานทางการเงิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3 . รายงานวิจัยการพัฒนาสมมติฐานก่อนผสมหลักฐานค่าสอบ
และความเป็นอิสระของผู้สอบบัญชี พยายามที่จะตอบคำถามว่า ค่าสอบ

ความเห็นผู้สอบบัญชีต่อการศึกษา ค่าธรรมเนียมการตรวจสอบสูง อาจทำให้เสียความเป็นอิสระของผู้สอบบัญชี
เนื่องจากผู้สอบบัญชีต้องการให้ความสัมพันธ์กับลูกค้าของพวกเขาและดี

อาจจะออกรายงานทางการเงินที่ . ผู้สอบบัญชีที่