Change is never easy. It is facilit

Change is never easy. It is facilitated by a clear vision from top to bottom.

Several of the powerful Generation X nurses were enrolled in graduate programs to become nurse practitioners. Despite encouragement from me, not a single one planned on specializing in women’s health or neonatal care. The local college offered a course in family practice and doing anything else was deemed “too hard.” They all planned to leave the FBC when they finished school. As those positions open up, they will be filled by a new generation of labor nurses who are being trained by the few remaining Baby Boomers. Several of those new nurses have long-term goals that include midwifery education, certification as childbirth educators, and having their own birth experiences. Generational conflict may be inevitable, but I see light at the end of the tunnel for childbearing families.

REFLECTING ON MARILYN'S EXPERIENCE

Marilyn’s insights provide some new ways of looking at the challenges of changing the culture of birth. Although it is always dangerous to generalize, the generational characteristics of nurses can help us understand just how complex implementing change can be. Marilyn’s experience suggests that generational differences did influence, to some extent, the culture of the unit, including the embracing of the 12-hour shift.

Generation Y nurses are better educated than the nurses who came before them and this will influence, I believe, nurses’ commitment to providing evidence-based care and advocating in powerful ways for their patients. Baccalaureate nursing programs emphasize research and evidence-based practice. It is not surprising, therefore, that the younger, better-educated nurses on Marilyn’s unit appreciated the Baby Boomers (whose practices we now know are indeed evidence-based). Like those older nurses, the younger nurses trusted birth. The novice nurses will require the support of like-minded nurses including the solid, relentless support of nursing leadership on the maternity unit and high-level nursing administrators.

Bingham and Main (2010) identify that knowledge, attitude, and practice are important barriers to implementing change in maternity units. Leaders and clinicians, not just nurses but physicians, must be knowledgeable about best practices, but that alone does not change beliefs and attitudes or practice. The more entrenched and comfortable for the clinicians the usual ways of doing things are, the more difficult it is to change. Marilyn’s experience suggests that all three areas were problems.

What was also missing was strong leadership from the top. Without that support, it is extremely difficult to persuade staff nurses to think differently about birth and to do the hard work of changing practice. There needs to be an expectation that practice, supported by policies and protocols, will reflect best evidence. This takes time and commitment not just from the nurses at the bedside but from nursing managers and senior leadership. Without the expectation from the top, the nurse at the bedside may be reluctant to change and reluctant to “rock the boat,” and with good reason.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เปลี่ยนไม่ง่าย มันจะอำนวยความสะดวกโดยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนจากบนลงล่าง. หลายคนที่มีประสิทธิภาพรุ่นเอ็กซ์พยาบาลได้รับการลงทะเบียนเรียนในหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษาที่จะกลายเป็นผู้ปฏิบัติงานพยาบาล แม้จะมีการให้กำลังใจจากฉันไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวในการวางแผนที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลสุขภาพของผู้หญิงหรือการดูแลทารกแรกเกิด วิทยาลัยท้องถิ่นที่นำเสนอหลักสูตรในการปฏิบัติครอบครัวและทำสิ่งอื่นก็ถือว่า "ยากเกินไป." พวกเขาวางแผนที่จะออกจาก FBC เมื่อพวกเขาเรียนจบ ขณะที่ตำแหน่งนั้นเปิดขึ้นพวกเขาจะเต็มไปด้วยคนรุ่นใหม่ของพยาบาลแรงงานที่กำลังรับการฝึกจากไม่กี่ boomers ทารกที่เหลือ หลายของผู้ที่พยาบาลใหม่มีเป้าหมายระยะยาวที่รวมถึงการศึกษาการผดุงครรภ์การรับรองเป็นนักการศึกษาการคลอดบุตรและมีประสบการณ์การเกิดของตัวเอง ความขัดแย้ง generational อาจจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ผมเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์สำหรับการคลอดบุตรครอบครัว. สะท้อนให้เห็นถึงประสบการณ์ของมาริลีนข้อมูลเชิงลึกของมาริลีนให้วิธีการใหม่ ๆ ในการมองความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของการเกิด แม้ว่ามันจะเป็นอันตรายเสมอที่จะพูดคุยลักษณะ generational ของพยาบาลสามารถช่วยให้เราเข้าใจเพียงวิธีการที่ซับซ้อนการดำเนินการเปลี่ยนแปลงสามารถ ประสบการณ์ของมาริลีนแสดงให้เห็นว่าแตกต่าง generational ได้อิทธิพลที่มีขอบเขตวัฒนธรรมของหน่วยรวมทั้งกอดของกะ 12 ชั่วโมง. พยาบาล Generation Y มีการศึกษาดีกว่าพยาบาลที่มาก่อนพวกเขาและนี้จะมีอิทธิพลต่อผมเชื่อว่า ความมุ่งมั่นที่พยาบาลจะให้การดูแลตามหลักฐานและเรียกร้องในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ป่วยของพวกเขา บัณฑิตโปรแกรมการพยาบาลที่เน้นการวิจัยและการปฏิบัติตามหลักฐาน มันไม่ได้เป็นที่น่าแปลกใจดังนั้นที่น้องพยาบาลที่ดีกว่าการศึกษาในหน่วยของมาริลีนชื่นชม boomers ทารก (ที่มีการปฏิบัติที่เรารู้ว่าตอนนี้เป็นจริงตามหลักฐาน) เช่นเดียวกับที่หอผู้ป่วยสูงอายุที่มีอายุน้อยกว่าพยาบาลที่เชื่อถือได้เกิด พยาบาลสามเณรจะต้องมีการสนับสนุนของพยาบาลที่มีใจเดียวกันรวมทั้งที่เป็นของแข็งการสนับสนุนอย่างไม่หยุดยั้งของการเป็นผู้นำในหน่วยพยาบาลคลอดบุตรและระดับสูงผู้บริหารการพยาบาล. บิงแฮมและหลัก (2010) ระบุว่าความรู้ทัศนคติและการปฏิบัติที่เป็นอุปสรรคสำคัญที่จะ การดำเนินการเปลี่ยนแปลงในหน่วยคลอดบุตร ผู้นำและแพทย์ไม่เพียง แต่แพทย์พยาบาลจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติที่ดีที่สุด แต่เพียงอย่างเดียวไม่ได้เปลี่ยนความเชื่อและทัศนคติหรือการปฏิบัติ ยึดที่มั่นมากขึ้นและสะดวกสบายสำหรับแพทย์วิธีปกติในการทำสิ่งที่ยากขึ้นก็คือการเปลี่ยน ประสบการณ์ของมาริลีนแสดงให้เห็นว่าทั้งสามพื้นที่ปัญหา. อะไรคือสิ่งที่ยังขาดหายไปเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งจากด้านบน โดยการสนับสนุนนั้นมันเป็นเรื่องยากมากที่จะชักชวนให้พยาบาลประจำการที่จะคิดแตกต่างกันเกี่ยวกับการเกิดและการทำเช่นการทำงานอย่างหนักของการปฏิบัติที่เปลี่ยนแปลง จำเป็นต้องมีความคาดหวังว่าการปฏิบัติโดยการสนับสนุนจากนโยบายและโปรโตคอลจะสะท้อนให้เห็นถึงหลักฐานที่ดีที่สุด นี้ต้องใช้เวลาและความมุ่งมั่นไม่เพียง แต่จากพยาบาลที่ข้างเตียง แต่จากผู้จัดการพยาบาลและผู้นำระดับสูง โดยไม่ต้องคาดหวังจากด้านบนพยาบาลที่ข้างเตียงอาจจะไม่เต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงและไม่เต็มใจที่จะ "หินเรือ" และมีเหตุผลที่ดี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เปลี่ยนยาก มันสนับสนุนโดยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนจากด้านบนลงล่าง

หลายที่มีประสิทธิภาพรุ่น x พยาบาลที่ลงทะเบียนเรียนในโปรแกรมการศึกษาที่จะกลายเป็นผู้ปฏิบัติงานพยาบาล แม้จะมีกำลังใจจากฉัน ไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวที่วางแผนความเชี่ยวชาญในสุขภาพของผู้หญิง หรือดูแลเด็กแรกเกิด . วิทยาลัยท้องถิ่นเสนอหลักสูตรในการปฏิบัติครอบครัวและทำอย่างอื่นก็ถือว่า " ยากเกินไป" พวกเขาวางแผนที่จะออกจาก FBC เมื่อพวกเขาเรียนจบ เป็นตำแหน่งเปิด พวกเขาจะถูกเติมเต็มโดยรุ่นใหม่ของแรงงานพยาบาลที่ได้รับการฝึกโดยที่เหลือน้อย boomers ทารก หลายของผู้ใหม่พยาบาลมีเป้าหมายระยะยาวซึ่งรวมถึงศึกษาการผดุงครรภ์ , การรับรองเป็นนักการศึกษาการคลอดบุตร และประสบการณ์การเกิดของพวกเขาเองความขัดแย้งทั่วไปอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่ผมเห็นแสงที่ปลายอุโมงค์สำหรับการคลอดบุตรครอบครัว

แสดงมาริลีนเป็นประสบการณ์

มาริลีนเป็นข้อมูลเชิงลึกให้บางวิธีใหม่มองความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของการเกิด ถึงแม้ว่ามันจะอันตรายที่จะลงความเห็นเสมอ ,ลักษณะทั่วไปของพยาบาลสามารถช่วยให้เราเข้าใจเพียงวิธีการที่ซับซ้อน การเปลี่ยนแปลงสามารถ มาริลีน ประสบการณ์แสดงให้เห็นว่าความแตกต่าง generational แล้วได้รับอิทธิพลบ้าง วัฒนธรรมของหน่วย รวมทั้งเกี่ยวของกะ 12 ชั่วโมง

Y สร้างพยาบาลดีกว่าความรู้มากกว่าพยาบาลที่มาก่อนพวกเขาและนี้จะมีอิทธิพลต่อ ฉันเชื่อพยาบาลตามหลักฐานเชิงประจักษ์และความมุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนในวิธีที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ป่วยของพวกเขา หลักสูตรพยาบาลบัณฑิต เน้นการวิจัย และการปฏิบัติตามหลักฐานเชิงประจักษ์ . มันไม่น่าแปลกใจ ดังนั้น น้องพยาบาลในหน่วยการศึกษาที่ดีขึ้นของมาริลีน ชื่นชม boomers ทารกที่มีการปฏิบัติตอนนี้เรารู้แน่นอนหลักฐานเชิงประจักษ์ ) เหมือนพวกพี่พยาบาลน้องพยาบาลคนเกิด เณร พยาบาลจะต้องสนับสนุนของพยาบาลที่มีใจเดียวกันรวมทั้งของแข็งสนับสนุนกระด้างของภาวะผู้นำทางการพยาบาลในหน่วยคลอดและผู้บริหารการพยาบาลระดับสูง

บิงแฮมและหลัก ( 2010 ) ระบุว่า ความรู้ ทัศนคติ และการปฏิบัติ มีอุปสรรคที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลงในหน่วยคลอดบุตร ผู้นำและแพทย์ ,ไม่เพียง แต่แพทย์พยาบาลจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับวิธีปฏิบัติที่ดีที่สุด แต่เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถเปลี่ยนความเชื่อ ทัศนคติ และการปฏิบัติ เพิ่มเติมที่ยึดที่มั่นและสะดวกสบายสำหรับแพทย์รูปแบบปกติทำอยู่ ยากจะเปลี่ยนแปลง มาริลีน ประสบการณ์แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ทั้งสามมีปัญหา

สิ่งที่ยังขาดคือความรับผิดชอบจากด้านบนโดยไม่สนับสนุน , มันเป็นเรื่องยากมากที่จะโน้มน้าวเจ้าหน้าที่พยาบาลคิดแตกต่างกันเกี่ยวกับการเกิดและการทำงานอย่างหนักของการฝึก ต้องมีความคาดหวังว่า การปฏิบัติที่ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายและโปรโตคอล จะสะท้อนถึงหลักฐานที่ดีที่สุด . มันต้องใช้เวลาและความมุ่งมั่นไม่เพียง แต่จากพยาบาลที่ข้างเตียง แต่จากผู้บริหารการพยาบาล และผู้นำอาวุโสไม่มีความคาดหวังจากด้านบน พยาบาลที่หัวเตียงอาจจะไม่เต็มใจที่จะเปลี่ยนแปลงและลังเลที่จะหินเรือ " และด้วยเหตุผลที่ดี