Today it is common to separate ethi

Today it is common to separate ethics into three sub-branches: 1. Descriptive ethics, 2. metaethics and 3. Normative ethics
1. Descriptive ethics aims at empirically and precisely mapping existing morality or moralities within communities and is there-fore linked to the social sciences. Another-aim is to explain the development of existing moralities from a historical perspective. No normative prescriptions are intended
2. Metaethics is a relatively new discipline in the ethical arena and its definition is the most blurred 0f all. The Greek meta means after or beyond and indicates that the object of metaethical studies is morality and ethics itself. The aim is to better understand the logical, semantic and ethical argumentation as such, their origin and meaning. Other fields of inquiry are e.g. whether morality exists independently of humans, and the underlying mental basis of human judgements and conduct.
3. Normative ethics means the methodological reflection upon morality tackling its critique and its rationale. Norms and standards for acting and conduct are being set up or tore down, and argued for or against. When “ethics”is talked about in a common sense then we talking about this general normative ethics. When enquiry is directed towards the principles of moral judgment or the criteria for the ethical analysis of morality, then we talk about fundamental ethics.
Finally in the realm of normative ethics, there is applied ethics. Here normative theories are applied to specific, controversial moral issues like animal rights, abortion. euthanasia etc.–generating socalled hyphen-ethics, e.g. bio-ethics, medical
ethics, business-ethics, nano-ethics etc. Inversely, these special issues constantly challenge theory and demand improvements, changes and specifications.
Alongside hyphen-ethics it is also possible to distinguish between ethics that focuses on societal and institutional dimensions (socialethics) or on individuum(individualethics).
While we consider applied ethics to be a sub-branch of normative ethics, other moral philosophers treat it as a discipline on the same level as normative ethics, arguing that it





ETHIS
meta descriptive normative
ethic applied fundamental
social
individual
hyphen
uses normative elements but is independent otherwise.
In normative elements but there are different theories as to how criteria of moral conduct should be defined. The three main theories can be sketched as follows:
1. Deontological, i.e. duty theories locate the basis of morality on specific, foundational principles of duty and obligation. These principles are binding regardless of the consequences that acting on their basis might bring.
2. Consequentialist theories on the other hand determine the value of an action on the grounds of a cost-benefit analysis of its consequences. If the positive consequences outweigh the negative ones then the action is morally proper.
3. Virtue theories focus on a given set of rules like “do not steal” etc. But instead of defining them merely as obligatory duties, the emphasis lies on the individual to develop good habits of character based on these rules (and avoid vices). Thus virtue theory emphasizes moral education.
Q : What are “codes of ethics/conduct” or what is “ethical research”? Shouldn‘t that be called moral? A : By calling research or a code “ethical”, the authors want to point out that the moral rules they set up are based on rational deliberation and can be subject to critique.
Q : Looking at the definitions of ethics and morality-what is moral philosophy? A : It is mostly used as a synonym for ethics. Some, like the French philosopher Jean-Pierre Dupuy use it differently. For him ‘ethics’ stands for the effort to force everything into universal harmonized principles while ‘moral philosophy’ endures colliding or incompatible values or concepts in the discourse.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วันนี้จะไปแบ่งจริยธรรมสาขาย่อย: 1. อธิบายจริยธรรม 2. metaethics และ 3 จริยธรรม normative1. อธิบายจริยธรรมมุ่งที่ empirically และแม่นยำแม็ปอยู่ศีลธรรมหรือ moralities ภายในชุมชน และลำเลียงสามีเชื่อมโยงกับสังคมศาสตร์ อีกจุดมุ่งหมายคือการ อธิบายการพัฒนา moralities ที่มีอยู่จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ สถานีตำรวจ normative ไม่มีวัตถุประสงค์2. metaethics วินัยค่อนข้างใหม่ในเวทีจริยธรรม และข้อกำหนดของ 0f ไม่คมชัดมากที่สุดทั้งหมด Meta กรีกหมายถึงหลังจาก หรือเกิน และบ่งชี้ว่า วัตถุประสงค์ของการศึกษา metaethical เป็นศีลธรรมและจริยธรรมเอง จุดมุ่งหมายจะเข้าใจตรรกะ ความหมาย และจริยธรรม argumentation เช่น กำเนิด และความหมายของพวกเขา เขตข้อมูลอื่น ๆ สอบถามได้เช่นว่าศีลธรรมอยู่เป็นอิสระจากมนุษย์ และพื้นฐานจิตใจแบบ judgements มนุษย์และจรรยาบรรณ3. normative จริยธรรมหมายถึง การสะท้อน methodological เมื่อแก้ปัญหาวิจารณ์ของหลักการและเหตุผลของศีลธรรม บรรทัดฐานและมาตรฐานสำหรับการทำหน้าที่และการปฏิบัติการตั้งค่า หรือฉีกลง และโต้เถียง พวก เมื่อ "จริยธรรม" จะพูดเกี่ยวกับความรู้สึกทั่วไปแล้วเราพูดถึงจริยธรรม normative นี้ทั่วไป เมื่อสอบถามได้โดยตรงต่อหลักการตัดสินทางศีลธรรมหรือเงื่อนไขสำหรับการวิเคราะห์จริยธรรมศีลธรรม แล้วเราพูดถึงจริยธรรมพื้นฐาน ในที่สุด ในขอบเขตของจริยธรรม normative ได้ใช้จรรยาบรรณ ที่นี่มีใช้ทฤษฎี normative เฉพาะ แย้งทางศีลธรรมปัญหาเช่นสิทธิสัตว์ ทำแท้ง การุณยฆาตเป็นต้นสร้าง socalled ยัติภังค์จริยธรรม จริยธรรมชีวภาพ ทางการแพทย์เช่น จรรยาบรรณ จริยธรรม นาโนจรรยาเป็นต้น Inversely ปัญหาพิเศษเหล่านี้ตลอดเวลาท้าทายทฤษฎีและความต้องการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และข้อกำหนด ควบคู่ไปกับจริยธรรมยัติภังค์ ได้ยังสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างจริยธรรมที่เน้นมิตินิยม และสถาบัน (socialethics) หรือ individuum(individualethics) ในขณะที่เราพิจารณาจริยธรรมใช้เป็น สาขาย่อยของจริยธรรม normative ปรัชญาคุณธรรมอื่น ๆ รักษามันเป็นวินัยในระดับเดียวกับจริยธรรม normative โต้เถียงETHISคำอธิบาย meta normative จริยธรรมใช้พื้นฐาน สังคม แต่ละ ยัติภังค์ใช้องค์ประกอบ normative แต่เป็นอิสระอย่างอื่น ในองค์ประกอบของ normative แต่มีทฤษฎีต่าง ๆ เป็นอย่างไรควรกำหนดเงื่อนไขคุณธรรมจรรยาบรรณ สามารถจะร่างแผนทฤษฎีหลักสาม: ดังนี้1. deontological เช่นทฤษฎีหน้าที่ค้นหาพื้นฐานของศีลธรรมเฉพาะ foundational หลักการภาษีและข้อผูกมัด หลักการเหล่านี้จะผูกโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่อาจนำมาทำหน้าที่บนพื้นฐานของพวกเขา2. consequentialist ทฤษฎีคงกำหนดค่าของการกระทำไร้การวิเคราะห์ต้นทุนผลประโยชน์ของผลที่เกิดขึ้น ถ้าผลบวกไปหมดที่ลบ การดำเนินการมีคุณธรรมเหมาะสม3. คุณธรรมทฤษฎีเน้นการกำหนดชุดของกฎเช่น "ขโมย" เป็นต้น แต่แทนที่จะกำหนดให้เป็นหน้าที่บังคับเพียง เน้นอยู่ในบุคคลเพื่อพัฒนานิสัยดีของอักขระตามกฎเหล่านี้ (และหลีกเลี่ยง vices) ดังนั้น ทฤษฎีคุณธรรมเน้นศึกษาคุณธรรม Q: อะไรคือ "รหัสจริยธรรม/จรรยาบรรณ" หรือ "จริยธรรมการวิจัย" คืออะไร ไม่ควรที่จะเรียกว่าคุณธรรม คำตอบ: เรียกวิจัยหรือรหัส "จริยธรรม" ผู้เขียนต้องการชี้ให้เห็นว่า กฎทางศีลธรรมที่จะตั้งค่าตามเชือดสุขุม และสามารถอาจวิจารณ์ ถาม: มองที่คำนิยามของจริยธรรม และศีลธรรมอะไรคือปรัชญาศีลธรรม คำตอบ: ส่วนใหญ่ใช้เป็นคำเหมือนคุณธรรม บางอย่าง เช่นนักปราชญ์ฝรั่งเศส Jean Pierre Dupuy ใช้จะแตกต่างกัน สำหรับเขา 'จริยธรรม' ยืนสำหรับความพยายามในการบังคับให้ทุกอย่างเป็นหลักสากลรอบในขณะที่ 'ปรัชญาศีลธรรม' endures ชน หรือเข้ากันไม่ได้หรือแนวความคิดในวาท

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วันนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะจริยธรรมแยกเป็นสามสาขาย่อย 1. จริยธรรมพรรณนา 2. metaethics และ 3. จริยธรรมกฎเกณฑ์
1 จริยธรรมพรรณนาจุดมุ่งหมายที่จะทำแผนที่สังเกตุและแม่นยำมีคุณธรรมจริยธรรมที่มีอยู่หรือภายในชุมชนและจะมี-ก่อนที่เชื่อมโยงกับสังคมศาสตร์ อีก-จุดมุ่งหมายคือการอธิบายการพัฒนาจริยธรรมที่มีอยู่จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ ไม่มีใบสั่งยากฎเกณฑ์มีความตั้งใจที่
2 Metaethics เป็นวินัยที่ค่อนข้างใหม่ในเวทีจริยธรรมและความหมายของมันคือเบลอมากที่สุด 0f ทั้งหมด เมตากรีกหมายถึงหลังหรือเกินและแสดงให้เห็นว่าวัตถุของการศึกษา metaethical เป็นคุณธรรมและจริยธรรมของตัวเอง จุดมุ่งหมายคือการทำความเข้าใจตรรกะอภิปรายความหมายและจริยธรรมเป็นเช่นนี้มาและความหมายของพวกเขา สาขาอื่น ๆ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้รับเช่นไม่ว่าจะเป็นคุณธรรมที่มีอยู่เป็นอิสระจากมนุษย์และพื้นฐานทางจิตพื้นฐานของการตัดสินของมนุษย์และการปฏิบัติ.
3 จริยธรรมหมายถึงกฎเกณฑ์วิธีการสะท้อนให้เห็นถึงการแก้ปัญหาเมื่อมีคุณธรรมวิจารณ์และเหตุผลของมัน บรรทัดฐานและมาตรฐานสำหรับการแสดงและการดำเนินการที่มีการติดตั้งหรือฉีกลงและเป็นที่ถกเถียงกันหรือต่อต้าน เมื่อ "จริยธรรม" คือการพูดคุยเกี่ยวกับในสามัญสำนึกแล้วเราพูดคุยเกี่ยวกับจริยธรรมกฎเกณฑ์ทั่วไปนี้ เมื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโดยตรงต่อหลักการของการตัดสินทางศีลธรรมหรือเกณฑ์สำหรับการวิเคราะห์ทางจริยธรรมของศีลธรรมแล้วเราพูดคุยเกี่ยวกับจริยธรรมพื้นฐาน.
สุดท้ายในดินแดนของจริยธรรมกฎเกณฑ์ที่มีจริยธรรมประยุกต์ นี่คือทฤษฎีกฎเกณฑ์จะนำไปใช้เฉพาะประเด็นทางจริยธรรมที่ถกเถียงกันเช่นสิทธิสัตว์ทำแท้ง นาเซีย ฯลฯ สร้าง socalled ยัติภังค์-จริยธรรมเช่นจริยธรรมชีวภาพทางการแพทย์
จริยธรรมธุรกิจจริยธรรมนาโนจริยธรรม ฯลฯ ผกผันปัญหาพิเศษเหล่านี้อย่างต่อเนื่องท้าทายทฤษฎีและการปรับปรุงความต้องการการเปลี่ยนแปลงและข้อกำหนด.
ข้างยัติภังค์-จริยธรรมก็ยังเป็น เป็นไปได้ที่จะแยกแยะระหว่างจริยธรรมที่มุ่งเน้นไปที่มิติทางสังคมและสถาบัน (socialethics) หรือบน Individuum (individualethics).
ในขณะที่เราพิจารณาจริยธรรมการประยุกต์ใช้จะเป็นสาขาย่อยของจริยธรรมกฎเกณฑ์ปรัชญาทางศีลธรรมอื่น ๆ รักษามันเป็นวินัยในระดับเดียวกับ จริยธรรมกฎเกณฑ์เถียงว่ามันตะวันออกภาพกฎเกณฑ์เมตาพรรณนาจรรยาบรรณในการใช้พื้นฐานทางสังคมของแต่ละบุคคลยัติภังค์ใช้องค์ประกอบกฎเกณฑ์ แต่มีความเป็นอิสระอย่างอื่น. ในองค์ประกอบกฎเกณฑ์ แต่มีทฤษฎีที่แตกต่างกันเป็นวิธีการเกณฑ์ความประพฤติศีลธรรมควรจะกำหนด สามทฤษฎีหลักสามารถร่างดังต่อไปนี้: 1 Deontological คือทฤษฎีหน้าที่หาพื้นฐานของคุณธรรมในเฉพาะหลักการพื้นฐานของการปฏิบัติหน้าที่และภาระผูกพัน หลักการเหล่านี้มีผลผูกพันโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่ทำหน้าที่บนพื้นฐานของพวกเขาอาจนำ. 2 ทฤษฎี consequentialist ในทางกลับกันการกำหนดมูลค่าของการดำเนินการบนพื้นฐานของการวิเคราะห์ต้นทุนและผลประโยชน์ของผลที่ตามมา หากผลกระทบเชิงบวกเกินดุลคนที่เป็นลบแล้วการกระทำที่เป็นที่เหมาะสมทางศีลธรรม. 3 ทฤษฎีคุณธรรมมุ่งเน้นการให้ชุดของกฎเช่น "ไม่ได้ขโมย" ฯลฯ แต่แทนที่จะกำหนดให้พวกเขาเป็นเพียงหน้าที่บังคับเน้นอยู่กับแต่ละบุคคลที่จะพัฒนานิสัยที่ดีของตัวละครที่อยู่บนพื้นฐานของกฎเหล่านี้ (และหลีกเลี่ยงความชั่วร้าย) ดังนั้นทฤษฎีคุณธรรมเน้นการศึกษาทางศีลธรรม. Q: อะไรคือ "รหัสของจริยธรรม / การปฏิบัติ" หรือสิ่งที่เป็น "งานวิจัยทางจริยธรรม"? ไม่ควรที่จะเรียกว่าศีลธรรม? : โดยเรียกวิจัยหรือรหัส "จริยธรรม" ที่ผู้เขียนต้องการที่จะชี้ให้เห็นว่ากฎทางศีลธรรมพวกเขาตั้งอยู่บนพื้นฐานของการพิจารณาเหตุผลและอาจมีการวิจารณ์. Q: มองไปที่คำจำกัดความของจริยธรรมและคุณธรรมสิ่งที่เป็น ปรัชญา? A: ส่วนใหญ่จะใช้เป็นคำพ้องสำหรับจริยธรรม บางชนิดเช่นนักปรัชญาชาวฝรั่งเศส Jean-Pierre Dupuy ใช้มันแตกต่างกัน สำหรับเขายืน 'จริยธรรม' สำหรับความพยายามที่จะบังคับให้ทุกอย่างเป็นหลักการที่สอดคล้องสากลขณะที่ 'ปรัชญา' คงชนหรือค่าเข้ากันไม่ได้หรือแนวคิดในการกล่าวสุนทรพจน์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วันนี้มันทั่วไป แยกเป็น 3 สาขา จริยธรรมย่อย 1 . บรรยายจริยธรรม 2 . metaethics และ 3 จริยศาสตร์เชิงบรรทัดฐาน
1 จริยศาสตร์เชิงพรรณนา มุ่งใช้ศีลธรรมหรือจริยธรรมและแม่นยำแผนที่ที่มีอยู่ภายในชุมชน และมีการเชื่อมโยงกับวิทยาศาสตร์และสังคม จุดมุ่งหมายก็คือการอธิบายการพัฒนาจริยธรรมที่มีอยู่จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ไม่มีใบสั่งยามาตรฐานมีวัตถุประสงค์
2 metaethics เป็นวินัยที่ค่อนข้างใหม่ในเวทีจริยธรรมและนิยามของมันคือที่สุดของภาพเบลอหมด กรีก Meta หมายถึงหลังจากหรือเกิน และบ่งชี้ว่า เป้าหมายของการศึกษา คือ metaethical คุณธรรมและจริยธรรมนั่นเอง จุดมุ่งหมายคือการเข้าใจตรรกะและเหตุผลทางจริยธรรม เช่น ของที่มาและความหมายเขตข้อมูลอื่น ๆเช่น สอบถามเป็นว่าศีลธรรมที่มีอยู่ได้อย่างอิสระของมนุษย์ และ พื้นฐาน พื้นฐานของการตัดสินใจของมนุษย์จิตใจและความประพฤติ
3 จริยศาสตร์เชิงบรรทัดฐาน หมายถึง วิธีการแก้ปัญหาของมันสะท้อนบนศีลธรรมและวิพากษ์ของเหตุผล บรรทัดฐานและมาตรฐานสำหรับการแสดงและจัดการการตั้งค่า หรือฉีก และถกเถียงหรือต่อต้านเมื่อ " จรรยาบรรณ " จะพูดคุยเกี่ยวกับในสามัญสำนึกแล้วเราพูดเรื่องจริยธรรม บรรทัดฐานทั่วไป เมื่อสอบถามโดยตรงต่อหลักการของการตัดสินทางศีลธรรมหรือเกณฑ์ในการวิเคราะห์จริยธรรม ศีลธรรม เราก็พูดเรื่องจริยธรรมพื้นฐาน
ในที่สุดใน realm ของจริยศาสตร์เชิงบรรทัดฐาน มีใช้จริยธรรม อ้างอิงทฤษฎีนี้จะใช้เฉพาะประเด็นขัดแย้งทางจริยธรรม เช่น สิทธิสัตว์ การทำแท้ง การุณยฆาต ฯลฯ –สร้างลากข้างยัติภังค์จริยธรรม เช่น จริยธรรมชีวภาพทางการแพทย์
จริยธรรม จริยธรรมธุรกิจ จริยธรรม นาโน เป็นต้น จากปัญหาพิเศษเหล่านี้ท้าทายทฤษฎีและการปรับปรุงความต้องการที่เปลี่ยนแปลงและข้อกําหนด .
ควบคู่ไปกับจริยธรรมยัติภังค์มันเป็นไปได้ที่จะแยกความแตกต่างระหว่างจริยธรรมที่เน้นมิติทางสังคมและสถาบัน ( socialethics ) หรือใน individuum ( individualethics ) .
ในขณะที่เราพิจารณาจริยศาสตร์ประยุกต์ เป็นสาขาย่อยของจริยศาสตร์เชิงบรรทัดฐาน นักปรัชญาศีลธรรมอื่น ๆถือว่าเป็นวินัยในระดับเดียวกับจริยศาสตร์เชิงบรรทัดฐานเถียงว่ามัน





ethis

meta บรรยายเชิงบรรทัดฐานจริยธรรมประยุกต์พื้นฐานสังคม



ใช้ยัติภังค์แต่ละองค์ประกอบมาตรฐาน แต่เป็นอิสระมิฉะนั้น .
ในองค์ประกอบมาตรฐานแต่ก็มีทฤษฎีที่แตกต่างกันเป็นวิธีการเกณฑ์ของพฤติกรรมเชิงจริยธรรมที่ควรกำหนด สามหลักทฤษฎีสามารถเขียนได้ดังนี้
1 deontological ทฤษฎี เช่น หน้าที่ค้นหาพื้นฐานของศีลธรรมในที่เฉพาะเจาะจง , หลักการพื้นฐานของหน้าที่และพันธะหน้าที่หลักการเหล่านี้จะผูกพัน โดยไม่คำนึงถึงผลที่แสดงบนพื้นฐานของพวกเขาอาจนำ .
2 consequentialist ทฤษฎีในมืออื่น ๆที่กำหนดมูลค่าของการกระทำบนพื้นฐานของการวิเคราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนจากผลของ ถ้าผลเป็นบวกมากกว่าเชิงลบ แล้วการกระทำทางศีลธรรมที่เหมาะสม .
3ทฤษฎีคุณธรรมเน้นให้ชุดของกฎ " ห้ามขโมย " ฯลฯ แต่แทนที่จะกำหนดพวกเขาเป็นเพียงพันธะหน้าที่ เน้นอยู่ในแต่ละที่จะพัฒนานิสัยที่ดีของตัวละครตามกฎเหล่านี้ ( และหลีกเลี่ยงอบายมุข ) ดังนั้นทฤษฎีคุณธรรมจริยธรรม เน้นการศึกษา .
Q : อะไรคือ " รหัสของจริยธรรม / พฤติกรรม " หรือสิ่งที่ " วิจัย " จริยธรรม ? มันไม่ได้เรียกว่าจริยธรรม ?A : โดยเรียกการวิจัยหรือรหัส " จริยธรรม " ที่ผู้เขียนต้องการชี้ให้เห็นว่า ศีลธรรม กฎเค้าตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุผล ใคร่ครวญ และสามารถรับการวิจารณ์
Q : มองความหมายของจริยธรรม และคุณธรรม ศีลธรรมคืออะไร ? A : มันถูกใช้เป็นไวพจน์ของจริยธรรม บาง เช่น ฝรั่งเศส ฌอง ปิแอร์ นักปรัชญา 1981 ใช้มันต่างกันสำหรับเขา ' จริยธรรม ' หมายถึงความพยายามที่จะบังคับให้เป็นไปตามหลักการสากลทุกอย่าง ในขณะที่ ' ศีลธรรม ' แค่ชนหรือค่าเข้ากันไม่ได้ หรือแนวคิดในวาทกรรม .