AbstractPurpose: To test a hypothes

Abstract
Purpose: To test a hypothesized model that examines the relationship betweenselectedbasicconditioningfactors,self-careagency,andself-carebehaviors among adolescent girls with dysmenorrhea using Orem’s self-care deficit nursing theory as a framework. Design: This was a predictive correlational study conducted with a total of 531 secondary school girls. Methods: Self-care agency, self-care behaviors, and 11 variables that have been theoretically or empirically justified in previous studies as relevant to basic conditioning factors were selected and collected by means of structured questionnaires.Pathanalyseswereperformedtotestthehypothesizedlinkages among variables. Findings: Path analysis revealed that age and received menstrual education had both direct and indirect effects through self-care agency on self-care behaviors. Mother’s and father’s educational level, pain intensity, and selfmedication used when experiencing dysmenorrhea only affected the self-care behaviors directly. Conclusions: This is the first study that provided information about the relationship between basic conditioning factors, self-care agency, and self-care behaviors among adolescent girls with dysmenorrhea. Knowledge of the factors influencing self-care behaviors in these adolescent girls will assist healthcare professionals in developing effective interventions to promote self-care and ameliorate the adverse impact of this condition.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อวัตถุประสงค์: เพื่อทดสอบแบบจำลองค่าที่ตรวจสอบความสัมพันธ์ betweenselectedbasicconditioningfactors ตนเอง careagency, andself-carebehaviors ในหมู่วัยรุ่นหญิง มีประจำเดือนใช้ Orem ของ deficit สุขภาพพยาบาลทฤษฎีเป็นกรอบการ ออกแบบ: นี้เป็นการศึกษา correlational งานที่ดำเนินการ มีจำนวน 531 มัธยมหญิง วิธีการ: หน่วยงานสุขภาพ พฤติกรรมสุขภาพ และ 11 ตัวแปรที่ได้รับตามหลักวิชา หรือ empirically justified ในการศึกษาก่อนหน้านี้เป็นห้องที่เกี่ยวข้องกับพื้นฐานปัจจัยเลือก และรวบรวมโดยวิธีของโครงสร้างแบบสอบถาม Pathanalyseswereperformedtotestthehypothesizedlinkages ระหว่างตัวแปร ค้นพบ: การวิเคราะห์เส้นทางการเปิดเผยว่า อายุและการศึกษาได้รับประจำเดือนมีทั้งทางตรง และทางอ้อมผลกระทบผ่านหน่วยงานสุขภาพพฤติกรรมสุขภาพ มารดาและบิดาของระดับการศึกษา ความรุนแรงของอาการปวด และ selfmedication ที่ใช้เมื่อประสบปัญหาปวดประจำเดือนเพียงผลกระทบพฤติกรรมสุขภาพโดยตรง สรุป: นี้คือการศึกษา first ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ระหว่างปัจจัยพื้นฐานปรับ หน่วยงานสุขภาพ พฤติกรรมสุขภาพในวัยรุ่นหญิง มีประจำเดือน ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภาพ influencing ปัจจัยในเด็กหญิงเหล่านี้จะช่วยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพในการพัฒนาประสิทธิภาพงานส่งเสริมสุขภาพ และ ameliorate กระทบของเงื่อนไขนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อวัตถุประสงค์: เพื่อทดสอบรูปแบบการตั้งสมมติฐานที่จะตรวจสอบความสัมพันธ์ betweenselectedbasicconditioningfactors ตนเอง careagency, andself-carebehaviors ในหมู่สาววัยรุ่นที่มีประจำเดือนใช้ของโอเรมการดูแลตนเองของสายซีไอทฤษฎีการพยาบาลเป็นกรอบ
ออกแบบ: นี่คือการศึกษาหาความสัมพันธ์ทำนายดำเนินการมีจำนวน 531 โรงเรียนหญิงรอง วิธีการ: การดูแลตนเองพฤติกรรมการดูแลตนเองและ 11 ตัวแปรที่ได้รับในทางทฤษฎีหรือสังเกตุเอ็ดสาย Justi ในการศึกษาก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐานได้รับการคัดเลือกและรวบรวมโดยวิธีการของ questionnaires.Pathanalyseswereperformedtotestthehypothesizedlinkages โครงสร้างระหว่างตัวแปร ผลการวิจัย: การวิเคราะห์เส้นทางเปิดเผยว่าอายุและได้รับการศึกษาที่มีประจำเดือนมีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านการดูแลตนเองเกี่ยวกับพฤติกรรมการดูแลตนเอง แม่และระดับการศึกษาของพ่อเข้มความเจ็บปวดและ selfmedication ใช้เมื่อประสบประจำเดือนเพียงส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองโดยตรง สรุป: นี่คือสายการศึกษาแรกที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยพื้นฐานในการดูแลตนเองและพฤติกรรมการดูแลตนเองในหมู่สาววัยรุ่นที่มีประจำเดือน ความรู้เกี่ยวกับปัจจัยในชั้น uencing พฤติกรรมการดูแลตนเองในเด็กวัยรุ่นหญิงเหล่านี้จะช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ในการพัฒนาการแทรกแซงที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการดูแลตนเองและเยียวยาผลกระทบของภาวะนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดประสงค์บทคัดย่อ : การทดสอบสมมติฐานแบบที่ตรวจสอบความสัมพันธ์ betweenselectedbasicconditioningfactors careagency พฤติกรรมการดูแลตนเอง , andself ในหมู่สาววัยรุ่นกับการดูแลตนเองของโอเรม 89.5 เดอ Cit ทฤษฎีทางการพยาบาลจึงเป็นกรอบ ออกแบบ : นี้เป็นความสัมพันธ์การศึกษามีทั้งหมด 531 โรงเรียนมัธยมหญิง วิธีการ : การดูแลตนเองพฤติกรรมการดูแลตนเอง และ 11 ตัวแปรที่ได้รับในทางทฤษฎี หรือใช้แค่ จึงเอ็ดในการศึกษาก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยพื้นฐาน ซึ่ง และ เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม pathanalyseswereperformedtotestthehypothesizedlinkages ระหว่างตัวแปร ข้อมูล :การวิเคราะห์เส้นทาง พบว่า อายุ และระดับการศึกษา มีบ้างที่ได้รับทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านการดูแลตนเองต่อพฤติกรรมการดูแลตนเอง แม่และพ่อของ ระดับการศึกษา ระดับความรุนแรงของอาการ และ selfmedication ใช้เมื่อพบอัคนีเท่านั้น มีผลต่อพฤติกรรมการดูแลตนเองโดยตรง สรุปนี่จึงตัดสินใจเดินทางไปศึกษาที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยปรับพื้นฐานการดูแลตนเองและพฤติกรรมการดูแลตนเองของหญิงวัยรุ่นที่มีอาการปวดประจำเดือน .ความรู้เกี่ยวกับปัจจัยในfl uencing พฤติกรรมการดูแลตนเองในหญิงวัยรุ่นเหล่านี้จะช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพในการพัฒนามาตรการที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการดูแลตนเองและการช่วยเหลือผลกระทบของเงื่อนไขนี้ .