CONCLUSIONSA study conducted by an

CONCLUSIONS
A study conducted by an HFE leader, Al Chapanis,
and his colleague in the early 1960s provided information
on medication administration errors and the
system factors that contributed to these errors.70–72
Since then, awareness of the importance of HFE in
medication safety and other patient safety domains
has significantly increased. Patient safety leaders have
called for increasing involvement of HFE in helping
to characterise system factors that contribute to
patient safety and to inform system design interventions.
3 73 74 This paper has described examples of
HFE contributions to specific patient safety problems.
Further research is necessary to document and demonstrate
the value of HFE-based interventions and
their impact on patient safety. Evidence for the effectiveness
of HFE-based interventions should include
data on changes in the work system, changes in the
process and changes in outcomes (including patient
safety and employee outcomes). In general, this evidence
is provided through the use of multiple quantitative
and qualitative methods.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทสรุปการศึกษาที่ดำเนินการ โดยมีผู้นำ HFE อัล Chapanisและเพื่อนร่วมงานของเขาในปี 1960 ก่อนให้ข้อมูลในข้อผิดพลาดในการบริหารยาและระบบปัจจัยที่ส่วน errors.70–72 เหล่านี้ตั้งแต่รับรู้แล้ว ความสำคัญของ HFE ในตู้ยาและโดเมนความปลอดภัยผู้ป่วยอื่น ๆมีมากเพิ่มขึ้น มีผู้นำความปลอดภัยผู้ป่วยเรียกว่าสำหรับการเพิ่มการมีส่วนร่วมของ HFE ในช่วยการ characterise ระบบปัจจัยที่นำไปสู่ผู้ป่วยปลอดภัยและ เพื่อให้งานออกแบบระบบ3 73 74 เอกสารนี้ได้อธิบายตัวอย่างของผลงาน HFE ปัญหาเฉพาะด้านความปลอดภัยผู้ป่วยการวิจัยจำเป็นต้องจัดทำเอกสาร และแสดงให้เห็นถึงค่าของการแทรกแซงตาม HFE และผลกระทบของพวกเขาเพื่อความปลอดภัยผู้ป่วย หลักฐานสำหรับประสิทธิภาพของการแทรกแซงตาม HFE ควรรวมเปลี่ยนแปลงข้อมูลในระบบงาน การเปลี่ยนแปลงในการกระบวนการและการเปลี่ยนแปลงในผลลัพธ์ (รวมถึงผู้ป่วยความปลอดภัยและพนักงานผล) โดยทั่วไป หลักฐานนี้ไว้โดยใช้หลายเชิงปริมาณและวิธีการเชิงคุณภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สรุป
จากการศึกษาโดยผู้นำ HFE อัล Chapanis,
และเพื่อนร่วมงานของเขาในต้นปี 1960 ให้ข้อมูล
เกี่ยวกับข้อผิดพลาดการบริหารยาและ
ระบบปัจจัยที่สนับสนุนการ errors.70-72 เหล่านี้
ตั้งแต่นั้นมาตระหนักถึงความสำคัญของ HFE ใน
ความปลอดภัยด้านยา และอื่น ๆ ที่โดเมนปลอดภัยของผู้ป่วย
ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ผู้นำปลอดภัยของผู้ป่วยได้
เรียกร้องให้มีการเพิ่มการมีส่วนร่วมของ HFE ในการช่วยให้
ปัจจัยที่จะอธิบายลักษณะของระบบที่นำไปสู่
​​ความปลอดภัยของผู้ป่วยและจะแจ้งการแทรกแซงการออกแบบระบบ.
3 73 74 กระดาษนี้จะได้อธิบายตัวอย่างของการ
มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา HFE ปลอดภัยของผู้ป่วยที่เฉพาะเจาะจง.
นอกจากนี้การวิจัยมีความจำเป็นต้อง เอกสารและแสดงให้เห็นถึง
คุณค่าของการแทรกแซง HFE ที่ใช้และ
ผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้ป่วย หลักฐานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ
ของการแทรกแซง HFE ตามควรจะรวมถึง
ข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในระบบการทำงานของการเปลี่ยนแปลงใน
กระบวนการและการเปลี่ยนแปลงในผล (รวมถึงผู้ป่วย
ความปลอดภัยและผลการทำงานของพนักงาน) โดยทั่วไปหลักฐานนี้
มีให้ผ่านการใช้งานของปริมาณหลาย
วิธีการและคุณภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้อสรุปจากการศึกษาโดยการ hfe

chapanis ผู้นำอัล , และเพื่อนร่วมงานของเขาในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับข้อผิดพลาดและการบริหารยา

ระบบปัจจัยที่สนับสนุนต่อข้อผิดพลาดเหล่านี้ . 70 และ 72
ตั้งแต่นั้น ความตระหนักในความสำคัญของ hfe ในความปลอดภัยและความปลอดภัยของผู้ป่วย ยาอื่น ๆ

มีโดเมนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เพิ่มขึ้น ผู้นำด้านความปลอดภัยของผู้ป่วยมี
เรียกเพิ่มการมีส่วนร่วมของ hfe ช่วย
ถึงปัจจัยที่ส่งผลให้นักศึกษา ระบบความปลอดภัยของผู้ป่วยและเพื่อแจ้งปัญหา

3 73 74 ออกแบบระบบ บทความนี้ได้อธิบายตัวอย่างของ
hfe ต่อปัญหาความปลอดภัยผู้ป่วยเฉพาะ การวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อ

ค่าของเอกสารและแสดงให้เห็นถึงผลกระทบจากการแทรกแซงและ
hfe ของพวกเขาเกี่ยวกับความปลอดภัยของผู้ป่วยประสิทธิผลของการแทรกแซงจาก ควร มี hfe

ข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในระบบงาน หลักฐานการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการและการเปลี่ยนแปลงในผล (

) รวมถึงความปลอดภัยของผู้ป่วยและพนักงาน ) โดยทั่วไปนี้หลักฐาน
มีให้ใช้หลาย
เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ