For the saturated concrete surface

For the saturated concrete surface condition without the application
the primer resin (Fig. 7a), the specimen treated with wirebrushing
(WB-S-NP) resulted in a pull off strength of 1.1 MPa,
where the other specimen treated with sand–water blasting (SBS-
NP) resulted in 0.6 MPa. Failure strength of the sprayed FRP layer
on saturated concrete surface treated by both sand–water blasting
and wire-brushing was lower than failure strength of concrete.
Thus, it was concluded that higher moisture content in interface
zone can significantly reduce the bond strength of layer on substrate
in the both cases sand–water blasting and wire-brushing
treatment. In the case of the saturated surface condition, pull-off
bond strength of 3.0 MPa was observed with the primer coated
specimen treated with the sand–water blasting (SB-S-P) and pulloff
bond strength of 2.3 MPa was measured with the primer coated
specimen treated with the wire brushing (WB-S-P) (Fig. 7b). Regard
to the saturated concrete surface condition with the application
of the primer, the failure strength was much higher than that
without the application of a primer coating. It was seen from the
result that the influence of the use of primer resin was significant
on pull-off bond strength for saturated concrete substrate.
Although primer resin can increase failure strength of the sprayed
FRP composite on saturated concrete surface treated by both sand–
water blasting and wire-brushing, it was not sufficient to guarantee

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การอิ่มตัวสภาพพื้นผิวคอนกรีตโดยแอพลิเคชันยางรองพื้น (Fig. 7a), ตัวอย่างการรักษา ด้วย wirebrushing(WB S NP) ส่งผลให้ดึงปิดความแข็งแรงของแรง 1.1ที่ระเบิดทราย – น้ำ (SBS-รับสิ่งส่งตรวจอื่น ๆNP) ให้แรง 0.6 ความล้มเหลวของชั้น FRP sprayedบนพื้นผิวคอนกรีตอิ่มตัวที่รับการรักษา โดยการพ่นทราย – น้ำทั้งสองและแปรงลวดต่ำกว่าความล้มเหลวความแข็งแรงของคอนกรีตดังนั้น มันถูกสรุปชื้นที่สูงขึ้นในส่วนติดต่อโซนสามารถลดความแข็งแรงของพันธะของชั้นบนพื้นผิวทั้งนี้กรณีทราย – น้ำระเบิด และ แปรงลวดรักษา ในกรณีที่สภาพพื้นผิวอิ่มตัว ดึงลงความแข็งแรงของพันธะของแรง 3.0 ได้สังเกต ด้วยรองพื้นเคลือบตัวอย่างรับทราย – น้ำระเบิด (SB S P) และ pulloffความแข็งแรงของพันธะของแรง 2.3 ถูกวัดกับพื้นเคลือบสิ่งส่งตรวจรักษา ด้วยลวดแปรง (WB-S-P) (Fig. 7b) สัมมาคารวะการอิ่มตัวสภาพพื้นผิวคอนกรีตด้วยการประยุกต์ใช้พื้น ความล้มเหลวมีสูงกว่าที่โดยไม่ต้องใช้สารเคลือบผิวรองพื้น มันถูกมองเห็นจากการผลที่ว่า อิทธิพลของการใช้พื้นยางเป็นสำคัญบนแรงดึงออกพันธบัตรสำหรับพื้นผิวคอนกรีตที่อิ่มตัวแม้ว่าพื้นยางสามารถเพิ่มความแข็งแรงความล้มเหลวของการฉีดพ่นคอมโพสิต FRP บนพื้นผิวคอนกรีตอิ่มตัวที่รับการรักษา โดยทรายทั้ง –การพ่นน้ำและแปรงลวด ไม่เพียงพอที่จะรับประกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สำหรับสภาพพื้นผิวคอนกรีตอิ่มตัวโดยไม่ต้องประยุกต์ใช้
ไพรเมอร์เรซิ่น (รูป. 7a) ตัวอย่างที่รับการรักษาด้วย wirebrushing
(WB-S-NP) มีผลในการดึงออกความแข็งแรงของ 1.1 MPa,
ที่ชิ้นงานอื่น ๆ ที่ได้รับการรักษาด้วยการระเบิดทรายน้ำ (SBS-
NP) ส่งผลให้ 0.6 MPa ความล้มเหลวความแข็งแรงของชั้นไฟเบอร์กลาสเปรย์
บนพื้นผิวคอนกรีตอิ่มตัวรับการรักษาโดยทั้งระเบิดทรายน้ำ
และแปรงลวดต่ำกว่าความแรงของความล้มเหลวของคอนกรีต.
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าความชื้นที่สูงขึ้นในอินเตอร์เฟซ
โซนอย่างมีนัยสำคัญสามารถลดแรงยึดของชั้น บนพื้นผิว
ในทั้งสองกรณีระเบิดทรายน้ำและสายการแปรงฟัน
การรักษา ในกรณีที่สภาพพื้นผิวอิ่มตัวดึงออก
ความแข็งแรงพันธะ 3.0 เมกะปาสคาลเป็นที่สังเกตด้วยไพรเมอร์เคลือบ
ชิ้นงานที่รับการรักษาด้วยระเบิดทรายน้ำ (SB-SP) และ pulloff
ความแข็งแรงพันธะ 2.3 MPa วัดด้วยไพรเมอร์เคลือบ
ชิ้นงาน รับการรักษาด้วยการแปรงลวด (WB-SP) (รูป. 7b) ในเรื่องเกี่ยว
กับสภาพพื้นผิวคอนกรีตอิ่มตัวกับแอพลิเคชัน
ของไพรเมอร์แรงล้มเหลวสูงกว่าที่
โดยไม่ต้องประยุกต์ใช้เคลือบสีรองพื้น มันก็เห็นได้จาก
ผลที่มีอิทธิพลต่อการใช้งานของยางไพรเมอร์อย่างมีนัยสำคัญ
ในการดึงออกความแข็งแรงพันธะสำหรับพื้นผิวคอนกรีตอิ่มตัว.
แม้ว่าเรซินไพรเมอร์สามารถเพิ่มความแข็งแรงของความล้มเหลวของการฉีดพ่น
คอมโพสิตไฟเบอร์กลาสบนพื้นผิวคอนกรีตอิ่มตัวรับการรักษาโดยทั้งทราย
น้ำ ระเบิดและสายการแปรงฟันมันก็ไม่เพียงพอที่จะรับประกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บรูซต้องการงบดุล ทันทีบรูซต้องการงบดุล ทันทีบรูซต้องการงบดุล ทันทีบรูซต้องการงบดุล ทันที