Gurney (1) recommends a process of

Gurney (1) recommends a process of shared care between secondary and primary care services. Patients with bipolar disorder will be managed by secondary services through a process known as the Care Programme Approach (7). The GP notes should hold a copy of the care plan but if in doubt, a primary care nurse can contact their local mental health service and ask to speak with the patient’s care co-ordinator. This is the starting point for developing a shared care plan. Patients who are very stable and on long-term mood stabilising medication may be discharged back into primary care.

NICE (3) recommends that people should stay with the mental health service until after a 12-month period of stability.

Person-centred care is the overriding context and this includes collaboration with the patient’s family (8). Being with a loved one who is acutely ill with depression or mania is hard to witness. Manic patients can be irritable and brittle and may angrily respond to efforts to curb their reckless behaviour.

Depressed patients may be agitated and unable to carry out their normal social functions. Family members can be real experts when it comes to recognising signs and symptoms and this expertise should be regarded with respect. All concerns should be taken seriously.

Part of the patient’s care plan may include psycho-education and relapse prevention. Secondary care may assume and request that primary care will look after the patient’s physical health.

Psycho-education is best addressed when the patient is stable and cognitively and emotionally able to collaborate. Patients may be very embarrassed about some of the things they have done while manic, so, as always, a sensitive approach should be taken. Such education should include general health promotion and advice around avoiding challenging and stressful circumstances where possible.

Relapse prevention planning involves the recognition of early warning signs, family members can be particularly helpful here. These early signs, for example, increased energy and an elated mood may indicate the need for an intervention like anti-manic medication.

The physical health of people with severe mental illness (SMI) is notoriously poor (9). People with bipolar disorder should have their health monitored proactively. Gurney1 recommends an annual review including blood pressure, plasma glucose level and weight. Keeping a case register of all people with SMI within a GP practice will enable this to be well organised.

Summary

Bipolar is a lifelong and disabling condition, though its exact course is highly variable. Acute phases of depression or mania should be cared for within local mental health services but shared care should follow a period of stability.

Primary care nurses can make a positive contribution to a person’s care through recognition, referral, and liaison with the secondary service and collaboration with family members. They can contribute specifically to psycho-education, relapse prevention and physical care and should not underestimate their ability to make a positive difference.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กูร์นีย์ (1) แนะนำขั้นตอนการดูแลร่วมกันระหว่างบริการดูแลหลักและรอง ผู้ป่วยที่ มีโรคสองขั้วจะถูกจัดการ โดยบริการรองผ่านกระบวนการที่เรียกว่าดูแลโปรแกรมวิธีการ (7) หมายเหตุ GP ควรเก็บสำเนาของแผนดูแล แต่หาก มีข้อสงสัย พยาบาลดูแลหลักสามารถติดต่อให้บริการสุขภาพจิตภายใน และติดต่อกับผู้ป่วยดูแลประสาน นี่คือจุดเริ่มต้นของการพัฒนาแผนการดูแลร่วมกัน ผู้ป่วยที่มีความเสถียรมาก และระยะยาวค่ายาแม่อารมณ์อาจจะออกไปดูแลหลักขอแนะนำ (3) ดีที่คนควรอยู่ ด้วยบริการสุขภาพจิตจนกว่าหลังจากระยะเวลา 12 เดือนของเสถียรภาพศูนย์กลางคนดูแลเป็นบริบททำเลที่เหมาะสม และรวมถึงความร่วมมือกับครอบครัวของผู้ป่วย (8) อยู่กับคนรักที่เป็นห่วงป่วย ด้วยอาการซึมเศร้าหรือความบ้าคลั่งได้ยากเพื่อเป็นสักขีพยาน ผู้ป่วยที่คลั่งไคล้สามารถแปรปรวน และเปราะ และอาจตอบสนองด้วยความโกรธในความพยายามเพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยงผู้ป่วยซึมเศร้าอาจจะละลาย และไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ทางสังคมของตนปกติ สมาชิกในครอบครัวสามารถจริงผู้เชี่ยวชาญเมื่อมันมาถึงการตระหนักถึงสัญญาณ และอาการและความเชี่ยวชาญที่ควรใช้ ด้วยความเคารพ ความกังวลทั้งหมดจะต้องดำเนินการอย่างจริงจังส่วนหนึ่งของแผนการดูแลผู้ป่วยอาจมีการศึกษาจิต และการป้องกันการกลับไปเสพ รองดูแลอาจสมมติ และขอดูแลหลักที่จะดูแลสุขภาพร่างกายของผู้ป่วยจิต-การศึกษาดีที่สุดได้รับการแก้ไขเมื่อผู้ป่วยมีเสถียรภาพ และ cognitively และอารมณ์สามารถทำงานร่วมกัน ผู้ป่วยอาจจะอายมากเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาได้กระทำในขณะที่คลั่งไคล้ ดังนั้น เช่นเคย วิธีการสำคัญควรดำเนินการได้ การศึกษาดังกล่าวควรมีการส่งเสริมสุขภาพทั่วไปและคำแนะนำเลี่ยงหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ท้าทาย และเครียดได้การวางแผนป้องกันการกำเริบที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้สัญญาณเตือน สมาชิกในครอบครัวจะมีประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นี่ สัญญาณเหล่านี้ เช่น เพิ่มพลังงาน และอารมณ์ที่ร่าเริงอาจบ่งชี้ว่า จำเป็นต้องแทรกแซงเช่นคลั่งไคล้ต้านยาสุขภาพร่างกายของคนที่มีการเจ็บป่วยทางจิตอย่างรุนแรง (SMI) ไม่ดีฉาวโฉ่ (9) คนที่ มีโรคสองขั้วควรมีสุขภาพเชิงรุกในการตรวจสอบ Gurney1 แนะนำการทบทวนประจำปีรวมทั้งความดันโลหิต ระดับกลูโคสในพลาสม่า และน้ำหนัก รักษาทะเบียนกรณีของทุกคนกับ SMI ภายในการปฏิบัติ GP จะเปิดจะดีสรุปสองขั้วนั้นตลอดชีวิตและเงื่อนไข ปิดการใช้งานแม้ว่าหลักสูตรที่แน่นอนมันจะผันแปรสูง ระยะเฉียบพลันของความบ้าคลั่งหรือซึมเศร้าควรได้รับการอุปการะในบริการสุขภาพจิตในพื้นที่ แต่การดูแลร่วมกันควรทำตามระยะเวลาของความมั่นคงพยาบาลดูแลหลักสามารถทำให้การสนับสนุนการดูแลผู้ผ่านการรับรู้ อ้างอิง และบริการรองประสานและร่วมมือกับสมาชิกในครอบครัว พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมโดยเฉพาะการศึกษาจิต การป้องกันการกำเริบและกายภาพดูแล และไม่ควรประมาทความสามารถในการสร้างความแตกต่างในเชิงบวก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกอร์นีย์ (1) แนะนำขั้นตอนของการดูแลร่วมกันระหว่างบริการดูแลมัธยมศึกษาและประถมศึกษา ผู้ป่วยที่มีโรคสองขั้วจะมีการจัดการโดยการให้บริการรองผ่านกระบวนการที่เรียกว่าวิธีการดูแลโครงการ (7) หมายเหตุ GP ควรถือสำเนาของการวางแผนการดูแล แต่หากมีข้อสงสัยพยาบาลระดับปฐมภูมิสามารถติดต่อศูนย์บริการสุขภาพจิตในท้องถิ่นของตนและขอให้พูดคุยกับผู้ป่วยดูแลผู้ประสานงาน นี่คือจุดเริ่มต้นสำหรับการพัฒนาแผนดูแลที่ใช้ร่วมกัน ผู้ป่วยที่มีความเสถียรมากและในระยะยาวอารมณ์เสถียรภาพยาอาจจะออกจากโรงพยาบาลกลับเข้ามาดูแลหลัก.

นีซ (3) แนะนำให้ผู้ที่ควรจะอยู่กับบริการสุขภาพจิตจนกระทั่งหลังจากระยะเวลา 12 เดือนของความมั่นคง.

ดูแลคนเป็นศูนย์กลางคือ บริบทที่สำคัญและรวมถึงการทำงานร่วมกันกับครอบครัวของผู้ป่วย (8) การได้อยู่กับคนที่คุณรักที่เป็นรุนแรงป่วยด้วยโรคซึมเศร้าหรือความบ้าคลั่งเป็นเรื่องยากที่จะเป็นพยาน ผู้ป่วยที่คลั่งไคล้สามารถหงุดหงิดและโกรธเปราะและอาจตอบสนองต่อความพยายามในการลดพฤติกรรมเสี่ยงของพวกเขา.

ผู้ป่วยซึมเศร้าอาจจะไม่สบายใจและไม่สามารถที่จะดำเนินการออกงานสังคมของพวกเขาตามปกติ สมาชิกในครอบครัวสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญจริงเมื่อมันมาถึงการตระหนักถึงอาการและอาการแสดงและความเชี่ยวชาญด้านนี้ควรได้รับการยกย่องด้วยความเคารพ ความกังวลทั้งหมดควรจะดำเนินการอย่างจริงจัง.

เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการดูแลของผู้ป่วยอาจรวมถึงจิตศึกษาและการป้องกันการกำเริบของโรค ดูแลรองอาจคิดและขอให้ดูแลหลักจะมีลักษณะหลังจากที่สุขภาพร่างกายของผู้ป่วย.

โรคจิตการศึกษาที่ดีที่สุดคือการแก้ไขเมื่อผู้ป่วยมีเสถียรภาพและรับรู้อารมณ์และความสามารถในการทำงานร่วมกัน ผู้ป่วยอาจจะอายมากเกี่ยวกับบางสิ่งที่พวกเขาได้กระทำในขณะที่คลั่งไคล้เพื่อให้เป็นเสมอวิธีการที่มีความสำคัญควรจะได้รับ การศึกษาดังกล่าวควรจะรวมถึงโปรโมชั่นสุขภาพทั่วไปและคำแนะนำรอบหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ท้าทายและเครียดที่เป็นไปได้.

วางแผนป้องกันการกำเริบของโรคที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้ของสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าที่สมาชิกในครอบครัวจะมีประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นี่ สัญญาณเริ่มต้นเหล่านี้ตัวอย่างเช่นเพิ่มพลังงานและอารมณ์ร่าเริงอาจบ่งบอกถึงความจำเป็นในการแทรกแซงเช่นยาต้านคลั่งไคล้นั้น.

สุขภาพร่างกายของคนที่มีความเจ็บป่วยทางจิตอย่างรุนแรง (SMI) เป็นที่น่าสงสารฉาวโฉ่ (9) คนที่มีโรคสองขั้วควรจะได้รับการตรวจสอบสุขภาพของพวกเขาในเชิงรุก Gurney1 แนะนำการตรวจสอบประจำปีรวมทั้งความดันโลหิตระดับน้ำตาลในเลือดและน้ำหนัก การรักษาลงทะเบียนกรณีของทุกคนที่มี SMI ภายในการปฏิบัติ GP จะเปิดใช้งานนี้จะจัดกัน.

สรุป

Bipolar เป็นภาวะที่ตลอดชีวิตและการปิดการใช้งานแม้ว่าหลักสูตรที่แน่นอนของการเป็นตัวแปร ขั้นตอนเฉียบพลันของภาวะซึมเศร้าหรือความบ้าคลั่งควรได้รับการดูแลภายในบริการสุขภาพจิตในท้องถิ่น แต่การดูแลที่ใช้ร่วมกันควรเป็นไปตามระยะเวลาของความมั่นคง.

พยาบาลดูแลหลักสามารถสร้างผลในเชิงบวกในการดูแลของบุคคลที่ผ่านการรับรู้, การอ้างอิงและการประสานงานกับผู้ให้บริการระดับมัธยมศึกษาและการทำงานร่วมกัน กับสมาชิกในครอบครัว พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมโดยเฉพาะเพื่อจิตการศึกษาการป้องกันการกำเริบของโรคและการดูแลรักษาทางกายภาพและไม่ควรประมาทความสามารถในการสร้างความแตกต่างในเชิงบวก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เปล ( 1 ) แนะนำกระบวนการของการดูแลร่วมกันระหว่างบริการทุติยภูมิและปฐมภูมิ . ผู้ป่วยที่มีโรคสองขั้วจะถูกจัดการโดยบริการรองผ่านกระบวนการที่เรียกว่าโปรแกรมการดูแลแบบ ( 7 ) GP หมายเหตุควรเก็บสำเนาของแผนการดูแล แต่ถ้าสงสัยพยาบาลปฐมภูมิสามารถติดต่อท้องถิ่นบริการสุขภาพจิต และขอพูดกับกฎหมายจำกัดการดูแลคนไข้ นี้เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการพัฒนาร่วมกัน ดูแลวางแผน ผู้ป่วยที่มีอารมณ์มั่นคงมาก และใน ระยะยาว ปรับยาอาจจะออกจากโรงพยาบาลกลับไปดูแลหลักสวย ( 3 ) แนะนำว่า คนเราควรอยู่กับบริการสุขภาพจิตจนกว่าหลังจากระยะเวลา 12 เดือนของความมั่นคงคนเป็นศูนย์กลางการดูแล คือ แทนที่บริบทและรวมถึงความร่วมมือกับครอบครัวของผู้ป่วย ( 8 ) กับดวงตาที่เฉียบคมป่วยด้วยโรคซึมเศร้าหรือ Mania เป็นยากที่จะเป็นพยาน ผู้ป่วย manic จะหงุดหงิดและโกรธเปราะและอาจตอบสนองต่อความพยายามเพื่อลดพฤติกรรมเสี่ยงของตนเองผู้ป่วยซึมเศร้าอาจจะปั่นป่วน และไม่สามารถดำเนินการฟังก์ชันปกติของสังคม สมาชิกในครอบครัวสามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงเมื่อมันมาถึงการตระหนักถึงสัญญาณและอาการและความเชี่ยวชาญด้านนี้ ควรจะถือว่า ด้วยความเคารพ หมดความกังวลที่ควรจะดำเนินการอย่างจริงจังส่วนหนึ่งของแผนการดูแลคนไข้อาจรวมถึงการศึกษาโรคจิตและป้องกันการป่วยซ้ำ การดูแลระดับมัธยมอาจสันนิษฐาน และขอให้ดูแลหลักจะดูแลคนไข้ร่างกายสุขภาพไซโค การศึกษาที่ดีที่สุด คือ ให้ความสนใจเมื่อผู้ป่วยมีเสถียรภาพและการประมวลผล และอารมณ์สามารถร่วมมือ ผู้ป่วยอาจจะเขินมากเกี่ยวกับบางส่วนของสิ่งที่พวกเขาได้กระทำในขณะที่คลั่งไคล้ ดังนั้น เป็นเสมอ เป็นวิธีการที่ละเอียดอ่อน ควรถ่าย เช่นการศึกษา ควรมีการส่งเสริมสุขภาพและคำแนะนำทั่วไปรอบหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ท้าทายและเครียดที่สุดวางแผนป้องกันการกำเริบของโรคที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้ของป้ายเตือน สมาชิกในครอบครัว สามารถเป็นประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นี่เลย อาการเหล่านี้ก่อน เช่น พลังงานที่เพิ่มขึ้น และร่าเริงอารมณ์อาจบ่งบอกถึงความต้องการการแทรกแซงเช่นป้องกัน manic ยาสุขภาพร่างกายของผู้ที่มีความเจ็บป่วยทางจิตอย่างรุนแรง ( SMI ) เป็นอย่างฉาวโฉ่ยากจน ( 9 ) คนที่มีโรคสองขั้ว ควรมีการตรวจสอบสุขภาพของพวกเขาวันนี้ gurney1 แนะนำการประจำปี ได้แก่ ความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด และน้ำหนัก การรักษากรณีลงทะเบียนของประชาชนทั้งหมดด้วย หรือภายใน GP ฝึกจะช่วยให้นี้จะดีจัดสรุปไบโพลาร์ คือตลอดชีวิตและปิดแอร์ก็มีหลักสูตรแน่นอน มันมีตัวแปรมาก ระยะเฉียบพลันของภาวะซึมเศร้าหรือ Mania ควรดูแลภายในบริการสุขภาพจิตในท้องถิ่น แต่การดูแลร่วมกัน ควรเป็นไปตามช่วงเวลาของความมั่นคงพยาบาลปฐมภูมิสามารถให้คุณประโยชน์ต่อการดูแลของคนผ่านการยอมรับการอ้างอิงและการประสานงานกับบริการทุติยภูมิ และความร่วมมือกับสมาชิกในครอบครัว พวกเขาสามารถมีส่วนร่วมโดยเฉพาะโรคจิตกำเริบ การศึกษา การป้องกันและการดูแลทางกายภาพ และไม่ควรประมาทความสามารถของตนเองเพื่อสร้างความแตกต่างในเชิงบวก