To bind together the opponents to T

To bind together the opponents to Thaksin, and raise the emotional temperature, Yellow shirt leaders alleged that Thaksin was a threat to the monarchy. In fact, Thaksin had been careful not to attack the monarchy, or be seen as a threat. But the yellow shirts made up a story about Thaksin plotting the overthrow of the monarchy during an excursion to Finland. They dressed themselves in tee-shirts announcing that they were the monarchy’s defenders.
In Thailand’s old politics of oligarchy, the classic strategy at such times of conflict was a military coup. Indeed, that was what occurred on 19 September 2006. But the old politics no longer prevailed. So the coup did not really work. The Army was out of practice at this man oeuvre, and the post-coup government was a disaster, quickly losing all popularity. Because Thailand with its globalized economy needed to be politically acceptable in the world, parliament had to be restored quickly. Despite a massive attempt to rig the election using public funds and public servants, the pro-Thaksin forces won another victory, and could not be prevented from forming the government.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การผูกกันฝ่ายตรงข้ามกับทักษิณ เพิ่มอุณหภูมิทางอารมณ์ แกนนำเสื้อเหลืองถูกกล่าวหาว่า ทักษิณเป็นภัยคุกคามต่อพระมหากษัตริย์ ในความเป็นจริง ทักษิณได้ระมัดระวังไม่ให้โจมตีสถาบันกษัตริย์ หรือถือเป็นการคุกคาม แต่เสื้อเหลืองทำเรื่องเกี่ยวกับทักษิณพล็อตล้มล้างพระมหากษัตริย์ในระหว่างเดินทางไปฟินแลนด์ พวกเขาแต่งเองในฟเสื้อประกาศว่า พวกเขามีกองหลังของพระมหากษัตริย์ในประเทศเมืองเก่าของคณาธิปไตย กลยุทธ์คลาสสิกเช่นเวลาความขัดแย้งมีการรัฐประหาร แน่นอน ที่มีอะไรเกิดขึ้นในวันที่ 19 2549 กันยายน แต่เมืองเก่าไม่แผ่ขยายไป ทำรัฐประหารไม่ได้จริง ๆ ทำงานไม่ กองทัพได้จากแบบฝึกหัดที่ oeuvre คนนี้ และรัฐบาลหลังรัฐประหารถูกภัยพิบัติ สูญเสียความนิยมทั้งหมดอย่างรวดเร็ว เนื่องจากไทยกับโลกาภิวัตน์จำเป็นต้องเป็นที่ยอมรับทางการเมืองในโลก รัฐสภาได้กู้คืนอย่างรวดเร็ว แม้ มีความพยายามที่ยิ่งใหญ่จะ rig เลือกตั้งใช้เงินรัฐและข้าราชการประชาชน กองกำลังทักษิณชนะชัยอื่น และไม่อาจป้องกันได้จากการเป็นรัฐบาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การผูกเข้าด้วยกันฝ่ายตรงข้ามกับทักษิณและเพิ่มอุณหภูมิอารมณ์ผู้นำเสื้อเหลืองกล่าวหาว่าทักษิณเป็นภัยคุกคามต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ ในความเป็นจริงคุณทักษิณได้รับการระมัดระวังไม่ให้โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์หรือถูกมองว่าเป็นภัยคุกคาม แต่เสื้อเหลืองทำขึ้นเรื่องราวเกี่ยวกับทักษิณวางแผนล้มล้างระบอบกษัตริย์ในระหว่างการเดินทางไปฟินแลนด์ พวกเขาสวมใส่ตัวเองในเสื้อยืดประกาศว่าพวกเขาเป็นกองหลังของพระมหากษัตริย์.
ในทางการเมืองเก่าของไทยคณาธิปไตยกลยุทธ์คลาสสิกในช่วงเวลาของความขัดแย้งดังกล่าวเป็นทหารทำรัฐประหาร อันที่จริงนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2006 19 กันยายน แต่การเมืองเก่าชนะไม่ได้ ดังนั้นการทำรัฐประหารไม่ได้ทำงานจริงๆ กองทัพออกจากการปฏิบัติที่ผลงานของชายคนนี้และรัฐบาลหลังการทำรัฐประหารเป็นภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็วสูญเสียความนิยมทั้งหมด เพราะประเทศไทยกับเศรษฐกิจยุคโลกาภิวัตน์ที่จำเป็นจะต้องได้รับการยอมรับทางการเมืองในโลกที่รัฐสภาจะต้องมีการเรียกคืนได้อย่างรวดเร็ว แม้จะมีความพยายามมากในการเลือกตั้งที่แท่นขุดเจาะโดยใช้เงินของประชาชนและข้าราชการกองกำลังที่สนับสนุนทักษิณชนะชัยชนะอีกและไม่สามารถป้องกันได้จากการสร้างรัฐบาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผูกกันฝ่ายตรงข้ามทักษิณ และเพิ่มอุณหภูมิอารมณ์ผู้นำเสื้อเหลืองกล่าวหาว่า พ.ต.ท. ทักษิณเป็นภัยต่อสถาบันกษัตริย์ ในความเป็นจริงแล้ว พ.ต.ท. ทักษิณ ได้ระมัดระวังที่จะไม่โจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ หรือถูกมองว่าเป็นภัยคุกคาม แต่เสื้อเหลืองทำเรื่องราวเกี่ยวกับ พ.ต.ท. ทักษิณ จะล้มสถาบันกษัตริย์ในช่วงไปเที่ยวฟินแลนด์พวกเขาแต่งตัวด้วยเสื้อตี๋ประกาศว่าพวกเขาเป็นกษัตริย์ กองหลัง
ในประเทศไทยแก่การเมือง คณาธิปไตย กลยุทธ์คลาสสิกในช่วงเวลาดังกล่าวของความขัดแย้งคือรัฐประหาร ทหาร นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 แต่การเมืองเก่าไม่สามารถทำได้ ดังนั้น รัฐประหารไม่ได้จริงๆทำงาน กองทัพออกจากการปฏิบัติงานที่ชายคนนี้ ,และหลังรัฐประหารรัฐบาลถูกภัยพิบัติได้อย่างรวดเร็วสูญเสียทั้งหมดของความนิยม เพราะประเทศไทยกับเศรษฐกิจโลกาภิวัตน์จำเป็นต้องยอมรับการเมืองโลก รัฐสภาได้จะกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว แม้จะมีความพยายามขนาดใหญ่เพื่อโกงการเลือกตั้ง โดยใช้กองทุนสาธารณะ และข้าราชการ โปรทักษิณ กองทัพก็ชนะอีก และไม่สามารถป้องกันได้จากการจัดตั้งรัฐบาล .