The early 2000s revealed a series o

The early 2000s revealed a series of high-profile financial frauds in the corporate and nonprofit sectors. In response to several of these financial scandals, California passed the Nonprofit Integrity Act (NIA) of 2004. This seminal piece of governance regulation sought to increase financial transparency and mitigate fundraising abuses by California charitable organizations. This study examines the characteristics of California charitable organizations before and after the Act to understand the initial impact the Act had on nonprofit organizations. Key findings from the study include limited reported improvement in financial reporting quality and an increase in accounting fees following the implementation of the Act. California nonprofits subject to the Act’s provisions did exhibit an increase in executive compensation following the implementation of the Act; however, the increase was less than that exhibited by the population of nonprofits during the same time period. Overall, the results of this study suggest that the initial impact of regulations similar to the NIA is greatest for organizations that did not previously have a financial statement audit.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2000s ก่อนเปิดเผยชุดสูงโปรไฟล์ทุจริตทางการเงินในภาคธุรกิจ และสาธารณกุศล ในการตอบสนองของเรื่องอื้อฉาวทางการเงินเหล่านี้ แคลิฟอร์เนียผ่านการแสวงความสมบูรณ์ของกฎหมาย (สนช) 2004 ชิ้นนี้แผ่นเสียงยอดนิยมของการกำกับดูแลควบคุมพยายามที่จะเพิ่มความโปร่งใสทางการเงิน และลดละเมิดระดมทุน โดยองค์กรการกุศลแคลิฟอร์เนีย การศึกษานี้ตรวจสอบลักษณะ ขององค์กรการกุศลแคลิฟอร์เนียก่อน และหลัง จากที่มีการกระทำต้องเข้าใจผลกระทบการกระทำเริ่มต้นในองค์กรสาธารณกุศล ประเด็นสำคัญจากการศึกษารวมถึงการปรับปรุงรายงานที่จำกัดคุณภาพรายงานการเงินและการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมบัญชีตามพระราชบัญญัติ องค์กรไม่แสวงกำไรแคลิฟอร์เนียภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติไม่ได้มีการเพิ่มค่าตอบแทนผู้บริหารตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่แสดง โดยประชากรขององค์กรไม่แสวงกำไรในช่วงระยะเวลาเดียวกัน โดยรวม ผลของการศึกษานี้แนะนำว่า การผลกระทบของกฎระเบียบที่คล้ายกับสนชมากที่สุดสำหรับองค์กรที่ไม่เคยมีการตรวจสอบงบการเงิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ช่วงต้นยุค 2000 เผยให้เห็นชุดของการทุจริตทางการเงินสูงโปรไฟล์ในภาคองค์กรและที่ไม่แสวงหากำไร ในการตอบสนองต่อหลายเรื่องอื้อฉาวทางการเงินเหล่านี้แคลิฟอร์เนียผ่านไม่แสวงหาผลกำไร Integrity พระราชบัญญัติ (NIA) ของปี 2004 ชิ้นนี้น้ำเชื้อของการควบคุมกำกับดูแลพยายามที่จะเพิ่มความโปร่งใสทางการเงินและลดการละเมิดสิทธิมนุษยชนระดมทุนโดยรัฐแคลิฟอร์เนียอ​​งค์กรการกุศล การศึกษาครั้งนี้จะตรวจสอบลักษณะของแคลิฟอร์เนียอ​​งค์กรการกุศลก่อนและหลังพระราชบัญญัติที่จะเข้าใจถึงผลกระทบที่เริ่มต้นพระราชบัญญัติที่มีต่อองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ค้นพบที่สำคัญจากการศึกษารวมถึงการปรับปรุงคุณภาพการรายงานในรายงานทางการเงินและการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังต่อไปนี้บัญชีของพระราชบัญญัติ จำกัด ไม่หวังผลกำไรแคลิฟอร์เนียภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติได้แสดงการเพิ่มขึ้นของค่าตอบแทนผู้บริหารต่อไปนี้การดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่แสดงโดยประชากรไม่หวังผลกำไรในช่วงระยะเวลาเดียวกัน โดยรวม, ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าผลกระทบที่เริ่มต้นของกฎระเบียบที่คล้ายกับสขช. เป็นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับองค์กรที่ไม่ได้ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบงบการเงิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ช่วงต้นทศวรรษ 2000 พบชุดของการทุจริตทางการเงินสูงโปรไฟล์ในภาคองค์กร และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ในการตอบสนองต่อหลายเรื่องอื้อฉาวทางการเงินเหล่านี้ แคลิฟอร์เนียผ่านความสมบูรณ์แสวง Act ( สนช. ) 2004 ชิ้นนี้อุดมสมบูรณ์ของระเบียบปกครองพยายามเพิ่มความโปร่งใสทางการเงินและลดการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยองค์กรการกุศลระดมทุนแคลิฟอร์เนีย การศึกษานี้เป็นการศึกษาลักษณะขององค์กรการกุศลแคลิฟอร์เนีย ก่อนและหลังทำ เพื่อให้เข้าใจผลกระทบเริ่มต้นทำในองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ที่สำคัญ ผลการศึกษารายงานการปรับปรุงคุณภาพรวม จำกัด รายงานทางการเงินและการเพิ่มขึ้นในบัญชีค่าใช้จ่ายต่อการกระทำ แคลิฟอร์เนียไม่หวังผลกําไรต้องทำเสบียงได้จัดแสดงเพิ่มค่าตอบแทนผู้บริหารตามการกระทำ แต่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่แสดงโดยประชากรที่ไม่หวังผลกําไรในช่วงเวลาเดียวกัน โดยรวม ผลการศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ผลกระทบเบื้องต้นของกฎระเบียบที่คล้ายกับเนียเป็นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับองค์กรที่ไม่เคยมีงบการเงินตรวจสอบบัญชี