IntroductionRecent studies have sho

Introduction
Recent studies have shown that the choice of foods plays a
role in diabetes prevention. Consumption of fruit and
vegetables (Snowdon & Phillips, 1985; Colditz et al, 1992;
Feskens et al, 1995; Ford & Mokdad, 2001) and whole grains
(Liu et al, 2000; Meyer et al, 2000; Fung et al, 2002;
Montonen et al, 2003) have shown inverse associations with
the risk of diabetes. The associations are independent of
obesity, a major risk factor for diabetes. These findings have
been attributed to free radical scavenging properties of
carotenoids, vitamin C, vitamin E, and flavonoids (Gordon,
1996; Halliwell, 1999), to relief of the postprandial glucose
load by soluble fiber (Slavin et al, 1999), or to avoidance of
hypomagnesemia (Paolisso et al, 1990). Fruit and vegetables
also contain other potential compounds, such as phytates or
isoflavones, which may have additive or synergistic effects
(Liu, 2003).
The relation between processed meat consumption and
the development of diabetes has been addressed in a number
of studies (Snowdon & Phillips, 1985; Colditz et al, 1992; van
Dam et al, 2002b; Schulze et al, 2003). The alleged mediators
include saturated fat, cholesterol, nitrites, and advanced
glycation end-products (Peppa et al, 2002; van Dam et al,
2002b; Schulze et al, 2003). The type and amount of fat
consumed may also play a role (Costacou & Mayer-Davis,
2003). High fat intake may contribute to the development of
diabetes via obesity. Findings of several studies suggest that
higher intake of polyunsaturated fat and possibly long-chain
n-3 fatty acids could be beneficial in prevention of type II
diabetes, whereas higher intake of saturated fat and trans-fat
may be detrimental (Hu et al, 2001b). Other dietary factors
that have been related to reduced risk of type II diabetes

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำ
การศึกษาล่าสุดได้แสดงที่หลากหลายเล่นอาหาร
บทบาทในการป้องกันโรคเบาหวาน การบริโภคผลไม้ และ
ผัก (มาร์&ไขควง 1985 Colditz et al, 1992;
Feskens et al, 1995 ฟอร์ด& Mokdad, 2001) และธัญพืช
(หลิว et al, 2000 Meyer et al, 2000 ฝั่ง et al, 2002;
Montonen et al, 2003) ได้แสดงความสัมพันธ์ผกผันกับ
ความเสี่ยงของโรคเบาหวาน สมาคมที่เป็นอิสระ
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญสำหรับโรคเบาหวาน โรคอ้วน ผลการวิจัยเหล่านี้ได้
ถูกเกิดจากอนุมูลอิสระคุณสมบัติ scavenging ของ
carotenoids วิตามินซี วิตามินอี และ flavonoids (กอร์ดอน,
1996 Halliwell, 1999) การปลดปล่อยกลูโคส postprandial
โหลด โดยเส้นใยที่ละลายน้ำ (Slavin et al, 1999), หรือหลีกเลี่ยงของ
hypomagnesemia (Paolisso et al, 1990) ผักและผลไม้
ยัง ประกอบด้วยสารประกอบอื่น ๆ อาจเกิดขึ้น เช่น phytates หรือ
isoflavones ซึ่งได้ผลการบวก หรือพลัง
(Liu, 2003)
ความสัมพันธ์ระหว่างประมวลผลปริมาณเนื้อ และ
การพัฒนาของโรคเบาหวานได้รับอยู่ใน
ศึกษา (มาร์&ไขควง 1985 Colditz et al, 1992 รถตู้
เขื่อน et al, 2002b ชูลซ์ et al, 2003) อักเสบถูกกล่าวหา
มีไขมันอิ่มตัว ไขมัน nitrites และขั้นสูง
glycation ผลิตภัณฑ์สิ้นสุด (Peppa et al, 2002 รถตู้เขื่อน et al,
2002b ชูลซ์ et al, 2003) ชนิดและจำนวนของไขมัน
ใช้อาจยังเล่นเป็นบทบาท (Costacou &เมเยอร์เดวิส,
2003) อาหารไขมันสูงอาจนำไปสู่การพัฒนา
เบาหวานผ่านโรคอ้วนได้ ผลการวิจัยศึกษาหลายแนะนำที่
บริโภคสูงของไขมันไขมัน และอาจลองโซ่
n-3 กรดไขมันอาจจะเป็นประโยชน์ในการป้องกันชนิด II
โรคเบาหวาน ในขณะที่การบริโภคสูงของอิ่มตัวไขมันทรานส์ และไขมัน
อาจมีผลดี (Hu et al, 2001b) ปัจจัยอื่น ๆ อาหาร
ที่มีความเกี่ยวข้องเพื่อลดความเสี่ยงของชนิด II โรคเบาหวาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำ
การศึกษาล่าสุดได้แสดงให้เห็นว่าทางเลือกของอาหารที่เล่น
บทบาทในการป้องกันโรคเบาหวาน การบริโภคผลไม้และ
ผัก (สโนว์ดอนและฟิลลิป 1985; Colditz et al, 1992;
Feskens et al, 1995; ฟอร์ดและ Mokdad, 2001) และเมล็ดธัญพืช
(หลิวและคณะ, 2000; เมเยอร์ตอัล, 2000; Fung, et al, 2002;
Montonen et al, 2003) ได้แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ผกผันกับความ
เสี่ยงของโรคเบาหวาน สมาคมมีความเป็นอิสระของ
โรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับโรคเบาหวาน การค้นพบนี้ได้
รับการบันทึกให้คุณสมบัติของอนุมูลอิสระของ
carotenoids, วิตามินซี, วิตามินอีและ flavonoids (กอร์ดอน,
1996; ฮอล์ลิ, 1999) เพื่อบรรเทาทุกข์ของกลูโคสภายหลังตอนกลางวัน
โหลดโดยเส้นใยที่ละลายน้ำ (Slavin, et al, 1999) หรือ ที่จะหลีกเลี่ยงการ
hypomagnesemia (Paolisso et al, 1990) ผักและผลไม้
ยังมีสารที่มีศักยภาพอื่น ๆ เช่น phytates หรือ
คุณสมบัติคล้ายซึ่งอาจมีสารเสริมฤทธิ์หรือผลกระทบ
(หลิว, 2003)
ความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปและ
การพัฒนาของโรคเบาหวานได้รับการแก้ไขในจำนวน
ของการศึกษา (สโนว์ดอนและ ฟิลลิป 1985; Colditz, et al, 1992; รถตู้
เขื่อนและคณะ, 2002b; ชูลซ์และอัล, 2003) ไกล่เกลี่ยข้อกล่าวหา
รวมถึงไขมันอิ่มตัวคอเลสเตอรอลไนไตรต์และขั้นสูง
glycation สิ้นสุดผลิตภัณฑ์ (Peppa et al, 2002; รถตู้เขื่อนและคณะ,
2002b; ชูลซ์และอัล, 2003) ชนิดและปริมาณของไขมัน
บริโภคยังอาจมีบทบาทสำคัญ (Costacou และเมเยอร์-เดวิส,
2003) ปริมาณไขมันสูงอาจนำไปสู่การพัฒนาของ
โรคเบาหวานโรคอ้วนผ่านทาง ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่าหลาย
การบริโภคที่สูงขึ้นของไขมันไม่อิ่มตัวและอาจจะสายโซ่ยาว
กรดไขมัน n-3 อาจเป็นประโยชน์ในการป้องกันชนิดที่สอง
เป็นโรคเบาหวานในขณะที่การบริโภคที่สูงขึ้นของไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์
อาจเป็นอันตราย (Hu et al,, 2001b ) ปัจจัยเสริมอื่น ๆ
ที่ได้รับการที่เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานชนิดที่สอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ
การศึกษาล่าสุดได้แสดงให้เห็นว่าทางเลือกของอาหารเล่นเป็นบทบาทในการป้องกันโรคเบาหวาน การบริโภคผักและผลไม้
( สโนว์ดอน& Phillips , 1985 ; เฮ็บตัน et al , 1992 ;
feskens et al , 1995 ; ฟอร์ด& mokdad , 2001 ) และ
ธัญพืช ( Liu et al , 2000 ; เมเยอร์ et al , 2000 ; ฟง et al , 2002 ;
montonen et al , 2003 ) ได้แสดง สมาคมผกผันกับ
ความเสี่ยงของโรคเบาหวานสมาคมที่เป็นอิสระของ
โรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญสำหรับโรคเบาหวาน การค้นพบนี้มี
ถูกว่าคุณสมบัติขจัดอนุมูลอิสระของ
คาโรทีน วิตามินซี วิตามินอี และสารฟลาโวนอยด์ ( กอร์ดอน
1996 ; Halliwell , 1999 ) เพื่อบรรเทาภาระกลูโคส
หลังอาหาร โดยเส้นใยที่ละลายน้ำได้ ( สเลวิน et al , 1999 ) หรือเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแมกนีเซียมต่ำ (
paolisso et al , 1990 )ผลไม้และผัก
ยังประกอบด้วยสารประกอบที่มีศักยภาพอื่น ๆเช่น ไฟเตท หรือ
ไอโซฟลาโวน ซึ่งอาจจะเสริมหรือเพิ่มผล

( หลิว , 2003 ) . ความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปและ
การพัฒนาโรคเบาหวานได้รับการ addressed ในหมายเลข
ศึกษา ( สโนว์ดอน& Phillips , 1985 ; เฮ็บตัน et al , 1992 ; รถตู้
เขื่อน et al , 2002b ; ชูลซ์ et al , 2003 ) ข้อกล่าวหาการไกล่เกลี่ย
รวมถึงไขมันอิ่มตัวคอเลสเตอรอล , ไนเตรท , และผลิตภัณฑ์ที่สิ้นสุด
glycation ขั้นสูง ( peppa et al , 2002 ; เขื่อน et al ,
2002b ; ชูลซ์ et al , 2003 ) ชนิดและปริมาณของไขมัน
บริโภคยังอาจมีบทบาท ( costacou &เมเยอร์เดวิส ,
2003 ) อาหารไขมันสูงอาจนำไปสู่การพัฒนาของ
โรคเบาหวานผ่านโรคอ้วน ผลของการศึกษาหลายที่
แนะนำสูงปริมาณไขมันไม่อิ่มตัวและอาจเปลี่ยนตัว
n-3 กรดไขมันอาจเป็นประโยชน์ในการป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2
, ในขณะที่สูงกว่าการบริโภคไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์
อาจเป็นอันตราย ( Hu et al , 2001b ) ปัจจัยอื่น ๆที่เกี่ยวข้องกับอาหาร
ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภทที่สอง