expressing and listening to feeling

expressing and listening to feelings and needs forms the basis for a nonviolent resolution of interpersonal conflicts, and I would agree with him.
From my perspective as an existential psychologist, feeling is a form of intelligence. It’s the body’s direct, holistic, intuitive way of knowing and responding. It is highly attuned and intelligent. And it takes account of many factors all at once, unlike our conceptual mind, which can only process one thing at a time. Unlike emotionality, which is a reactivity that is directed outward, feeling often helps you contact deep inner truths. Unfortunately, traditional Buddhism doesn’t make a clear distinction between feeling and emotion, so they tend to be lumped together as something samsaric to overcome.
TF: There’s a de-emphasis on taking feeling seriously on some level, Like not exploring what goes on inside us when we become triggered by our partners, for example.
JW: Yes. The truth is, most of us don't get as triggered anywhere in our lives as much as in intimate relationships. So if we use spiritual bypassing to avoid facing our relational wounds, we’re missing out on a tremendous area of practice. Relational practice helps us develop compassion “in the trenches,” where our wounds are most activated.
And beyond compassion we also need to develop attunement: the ability to see and feel what another person is going through— what we could call “accurate empathy.” Attunement is essential for I-Thou connectedness, but it’s only possible if we can first of all be attuned to ourselves and track what we are going through.
TF: What kinds of tools or methods have you found effective for working with difficult feelings and relational issues?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การแสดง และฟังความรู้สึกและความต้องพื้นฐานสำหรับการแก้ปัญหาที่รุนแรงของความขัดแย้งมนุษยสัมพันธ์ และฉันจะเห็นด้วยกับเขาจากมุมมองของฉันเป็นจิตวิทยาที่ existential ความรู้สึกเป็นแบบของปัญญา ของร่างกายโดยตรง แบบองค์รวม ง่ายวิธีรู้ และตอบสนองได้ ห้องปลอดบุหรี่ และสูงอัจฉริยะได้ และใช้บัญชีของหลายปัจจัยทั้งหมดในครั้งเดียว ซึ่งแตกต่างจากแนวคิดจิตใจของเรา ซึ่งสามารถประมวลสิ่งหนึ่งครั้งเท่านั้น ซึ่งแตกต่างจาก emotionality ซึ่งเป็นการเกิดปฏิกิริยาที่ขาออก ความรู้สึกมักจะช่วยให้คุณติดต่อสัจธรรมลึกภายใน อับ พระพุทธศาสนาดั้งเดิมไม่ให้ความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างความรู้สึกและอารมณ์ ดังนั้นพวกเขามักจะ lumped กันเป็น samsaric จะเอาชนะรหัส: มีการ de-emphasis ในการรู้สึกอย่างจริงจังในระดับบาง เช่นไม่สำรวจอะไรไปภายในเราเมื่อเราจะถูกทริกเกอร์ โดยพันธมิตร ตัวอย่างโรงแรมเจดับบลิว: ใช่ ความจริงก็คือ ส่วนมากของเราไม่ได้เป็นทริกเกอร์ใด ๆ ในชีวิตของเราในความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดเท่านั้น ดังนั้น ถ้าเราใช้จิตวิญญาณต่อเพื่อหลีกเลี่ยงการหันหน้าของเราแผลเชิง เรากำลังหายไปในพื้นที่มหาศาลของปฏิบัติการ เชิงปฏิบัติช่วยให้เราพัฒนาความเมตตา "ในการ trenches ที่บาดแผลของเราจะเรียกใช้มากที่สุดและนอกเหนือ จากคุณค่าที่เราต้องการพัฒนา attunement: สามารถเห็น และรู้สึกว่าสิ่งที่คนอื่นกำลังจะผ่านคืออะไรเราอาจเรียก "ต้องเอาใจใส่" Attunement เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับฉัน-พระองค์ connectedness แต่ของเท่านั้นได้ถ้าเราสามารถครั้งแรกของทั้งหมดเป็นห้องปลอดบุหรี่เพื่อตนเอง และติดตามสิ่งที่เราจะผ่านรหัส: ชนิดของเครื่องมือหรือวิธีการคุณพบประสิทธิภาพการทำงานด้วยความรู้สึกยากและปัญหาเชิง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การแสดงและการฟังความรู้สึกและความต้องการรูปแบบพื้นฐานสำหรับการแก้ปัญหาความรุนแรงของความขัดแย้งระหว่างบุคคลและฉันจะเห็นด้วยกับเขา.
จากมุมมองของฉันเป็นนักจิตวิทยาการดำรงอยู่ในความรู้สึกเป็นรูปแบบของหน่วยสืบราชการลับ มันเป็นเรื่องของร่างกายโดยตรงแบบองค์รวมวิธีที่ง่ายของการรู้และการตอบสนอง มันเป็นอย่างสูงที่ปรับตัวและชาญฉลาด และจะใช้เวลาบัญชีของหลายปัจจัยทั้งหมดในครั้งเดียวซึ่งแตกต่างจากความคิดความคิดของเราเท่านั้นที่สามารถประมวลผลสิ่งหนึ่งที่เวลา ซึ่งแตกต่างจาก emotionality ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่เป็นผู้กำกับออกไปด้านนอกเป็นความรู้สึกที่มักจะช่วยให้คุณติดต่อจริงด้านในลึก แต่น่าเสียดายที่พุทธศาสนาแบบดั้งเดิมไม่ได้ทำให้ความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างความรู้สึกและอารมณ์เพื่อให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะล้างโลกร่วมกันเป็นสิ่งที่ samsaric ที่จะเอาชนะ.
TF: มี de-ความสำคัญกับการมีความรู้สึกอย่างจริงจังในระดับบางเป็นเหมือนไม่ได้สำรวจสิ่งที่เกิดขึ้น ภายในตัวเราเมื่อเรากลายเป็นที่เกิดจากคู่ค้าของเราเช่น.
เจดับบลิว: ใช่ ความจริงก็คือส่วนใหญ่ของเราไม่ได้รับการเรียกว่าเป็นที่ใดก็ได้ในชีวิตของเรามากที่สุดเท่าที่ในความสัมพันธ์ใกล้ชิด ดังนั้นถ้าเราใช้อ้อมจิตวิญญาณที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าบาดแผลสัมพันธ์ของเราที่เรากำลังหายไปหมดในพื้นที่อย่างมากของการปฏิบัติ การปฏิบัติเชิงสัมพันธ์จะช่วยให้เราพัฒนาความเมตตา "ในสนามเพลาะ" ที่แผลของเราจะเปิดใช้งานมากที่สุด.
และนอกเหนือจากความเห็นอกเห็นใจเรายังต้องพัฒนาไกล้ความสามารถในการมองเห็นและรู้สึกสิ่งที่คนอื่นเป็นไป through- สิ่งที่เราสามารถเรียกว่า "ความเห็นอกเห็นใจที่ถูกต้อง "Attunement เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเชื่อมโยง I-พระองค์ แต่มันเป็นเพียงที่เป็นไปได้ถ้าเราสามารถแรกของทั้งหมดจะสามารถปรับตัวให้เข้ากับตัวเองและติดตามสิ่งที่เรากำลังจะผ่าน.
TF: สิ่งที่ชนิดของเครื่องมือหรือวิธีการที่มีคุณพบว่ามีประสิทธิภาพในการทำงานด้วยความรู้สึกที่ยากและ ปัญหาความสัมพันธ์?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การแสดงและฟังความรู้สึกและความต้องการรูปแบบพื้นฐานสำหรับการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างบุคคล และผมก็เห็นด้วยกับเขา .
จากมุมมองของฉันเป็นนักจิตวิทยาอัตถิภาวนิยม ความรู้สึกเป็นรูปแบบของความฉลาด ของร่างกายโดยรวม วิธีที่ง่ายของการรู้และการตอบสนอง . มันเป็นอย่างสูงที่ปรับตัว และฉลาด และใช้บัญชีของปัจจัยหลายทั้งหมดในครั้งเดียวซึ่งแตกต่างจากความคิดของเรา ความคิด ซึ่งสามารถประมวลผลสิ่งหนึ่งที่เวลา ซึ่งแตกต่างจาก emotionality ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่เป็นคำสั่งภายนอก ความรู้สึกมักจะช่วยให้คุณติดต่อความจริงภายในลึกๆ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีพระพุทธศาสนาแบบดั้งเดิม สร้างความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างความรู้สึกและอารมณ์ ดังนั้นพวกเขามักจะมี lumped กันเป็นสิ่งที่ samsaric
TF : การเอาชนะได้มี เดอ เน้นเอาความรู้สึกจริงๆในบางระดับ ชอบในสิ่งที่ไปในภายใน เมื่อเรากลายเป็นทริกเกอร์ โดยคู่ค้าของเราตัวอย่างเช่น .
ใช่ ความจริงคือ พวกเราส่วนใหญ่ไม่ได้รับเรียกได้ทุกที่ในชีวิตของเรามากที่สุดเท่าที่ในความสัมพันธ์ใกล้ชิด ดังนั้น ถ้าเราใช้จิตวิญญาณผ่านเพื่อหลีกเลี่ยงกับแผลสัมพันธ์ของเรา