ประวัติวัดกู้
วัดกู้เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแต่สมัยกรุงธนบุรี เล่ากันว่าผู้สร้างคือพญาเจ่ง หัวหน้าครอบครัวมอญที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่เกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ภายในวัดจึงมีศิลปแบบมอญ อาทิ จิตรกรรมฝาผนังภายในวิหาร
วัดกู้นี้เดิมชื่อว่าวัดหลังสวน(หรือวัดท่าสอน) ต่อมาเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2423 ขบวนเรือพระประเทียบสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เกิดอุบัติเหตุล่มในแม่น้ำเจ้าพระยาในคราวเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐานยังพระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขณะแล่นมาถึงตำบลบางพูด เป็นเหตุให้สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์สวรรคต สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ากรรณาภรณ์เพชรรัตน์สิ้นพระชนม์ รวมทั้งพระพี่เลี้ยงแก้วถึงแก่กรรม เล่ากันมาว่าเมื่อพบพระศพและศพแล้ว จึงได้เชิญพระศพและศพขึ้นที่วัดนี้เป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะอัญเชิญพระศพสู่พระบรมมหาราชวังต่อไป ชาวบ้านจึงเรียกวัดนี้ว่าวัดกู้จนถึงปัจจุบัน
ศาลสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์
หรือศาลพระนางเรือล่ม ตั้งอยู่ภายในวัดกู้ มีอยู่ด้วยกัน 2 ศาล คือที่บริเวณริมแม่น้ำ ผู้คนมักนิยมนำชุดไทยมากราบไหว้บูชา (ปัจจุบันกำลังก่อสร้างใหม่ – Update กันยายน 2014) ส่วนอีกแห่งอยู่ภายในบริเวณวัด เป็นศาลดั้งเดิม ภายในมีพระรูปของพระนางเรือล่มอยู่ สิ่งที่นิยมนำมาถวายพระองค์ท่านก็คือกล้วยเผา มาพร้าวอ่อนและพวงมาลัยมะลิสด
จนถึงปัจจุบันยังคงมีเรื่องเล่าต่อๆกันถึงความศักดิ์สิทธิ์ของดวงพระวิญญาณพระนางเรือล่มหลายครั้ง
พระพุทธรูปปางไสยาสน์
พระพุทธรูปปางไสยาสน์ กว้าง 4 เมตร ยาว 37 เมตร อายุหลายร้อยปี ประดิษฐานอยู่ที่วิหารแบบเปิดโล่งบริเวณทางเข้าวัด ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อใด สันนิษฐานว่าสร้างพร้อมกับวัด
ชมเรือพระที่นั่งฯที่อับปาง
ด้านข้างวิหารพระพุทธไสยาสน์เป็นที่เก็บเรือพระที่นั่งของพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ว่ากันว่าเป็นเรือประทีปที่อับปางซึ่งชาวบ้านได้กู้ขึ้นมา เป็นเรือไม้ขนาดยาว มีวิหารครอบคลุมเรืออยู่
ถ่ชีวิตโคกระบือ
วัดกู้เป็นที่รู้จักกันมายาวนานสำหรับการทำบุญเพื่อไถ่ชีวิตโคกระบือ สามารถร่วมบริจาคทำบุญได้ทุกวัน ที่บริเวณข้างวิหารพระพุทธรูปปางไสยาสน์ จะเห็นกรงเหล่าโคกระบืออยู่ ผู้ที่สนใจบริจาคเพียงเล็กน้อยสามารถหย่อนเงินบริจาคที่กล่องบริเวณข้างกรงได้เลย
พระอุโบสถวัดกู้
พระอุโบสถวัดกู้มีรูปทรงฐานแอ่นโค้งรูปสำเภาแบบศิลปกรรมสมัยอยุธยาตอนปลาย เพดานภายในเขียนเป็นลายดอกไม้ มีจิตรกรรมฝาผนังแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนบนสุดเล่าเรื่องอดีตพระพุทธเจ้า ส่วนตอนกลางเป็นรูปพุทธประวัติและส่วนล่างเป็นรูปเล่าเรื่องการรบของชาวมอญซึ่งแสดงรูปแบบเจดีย์มอญ เสาหงส์ ส่วนซุ้มใบเสมาเป็นซุ้มโค้งมีใบเสมาประกบกัน