The volume of aggregates in concret

The volume of aggregates in concrete is approximately 60–75%, and so the concrete performance is strongly affected by the aggregate’s properties, proportioning and packing. Optimized aggregate blends can provide concrete with improved performance and can be used to design concrete at lower cementitious material content. Due to complexities in aggregate packing, and irregularities in shape and texture, there is no universal approach to account for the contribution of aggregate’s particle size distributions and packing degree affecting the performance of concrete in fresh and hardened states.

This paper attempts to develop the best aggregate blends and investigates the effect of aggregate packing on concrete performance through multiple criteria based on simulation and experiments. It was demonstrated that the aggregate packing can be used as a tool to optimize concrete mixtures and improve compressive strength. The correlation between the grading, packing of aggregates and concrete performance is developed. The grading techniques based on power curves and coarseness chart provide valuable information on expected performance and, therefore, can be effectively used to optimize the concrete mixtures.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปริมาณของผลในคอนกรีตประมาณ 60-75% และดังนั้น ประสิทธิภาพคอนกรีตเป็นอย่างยิ่งได้รับผลกระทบ โดยรวมของคุณสมบัติ จัดสัดส่วน และบันทึก ผสมให้เหมาะรวมสามารถให้คอนกรีต ด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น และสามารถใช้ในการออกแบบคอนกรีตที่เนื้อหาวัสดุซีเมนต์ต่ำ ความซับซ้อนในการบรรจุรวม และความผิดปกติในรูปร่างและพื้นผิว มีแนวทางสากลไม่บัญชีสำหรับผลรวมของการกระจายขนาดอนุภาคและองศาส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของคอนกรีตสด และชุบแข็งอเมริกากระดาษนี้พยายามพัฒนาผสมรวมดีที่สุด และตรวจสอบผลของการรวมที่บรรจุคอนกรีตประสิทธิภาพผ่านหลายเงื่อนไขการจำลองและการทดลอง มันถูกแสดงว่า บรรจุรวมสามารถใช้เป็นเครื่องมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของน้ำยาผสมคอนกรีต และปรับปรุงความแรง compressive คือพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างการจัดเกรด บันทึกผลและประสิทธิภาพการทำงานคอนกรีต เทคนิคการจัดเกรดตามโค้งพลังงานและแผนภูมิความหยาบให้ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานที่คาดไว้ แล้ว ดังนั้น อย่างมีประสิทธิภาพใช้ปรับน้ำยาผสมคอนกรีต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปริมาณของมวลรวมในคอนกรีตจะอยู่ที่ประมาณ 60-75% และเพื่อให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ได้รับผลกระทบที่เป็นรูปธรรมอย่างมากโดยรวมคุณสมบัติของสัดส่วนและการบรรจุ เพิ่มประสิทธิภาพการผสมรวมกันสามารถให้คอนกรีตที่มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้นและสามารถนำมาใช้ในการออกแบบที่เป็นรูปธรรมที่เนื้อหาวัสดุประสานที่ต่ำกว่า เนื่องจากความซับซ้อนในการบรรจุรวมและความผิดปกติในรูปทรงและพื้นผิวที่ไม่มีวิธีการที่เป็นสากลในการบัญชีสำหรับผลงานของการกระจายขนาดอนุภาครวมและปริญญาบรรจุที่มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของคอนกรีตในรัฐสดและแข็ง. บทความนี้พยายามที่จะพัฒนาที่ดีที่สุด ผสมรวมและสำรวจผลกระทบของการบรรจุรวมผลการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมผ่านหลายเกณฑ์อยู่บนพื้นฐานของการจำลองและการทดลอง มันก็แสดงให้เห็นว่าการบรรจุรวมกันสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มประสิทธิภาพการผสมคอนกรีตและเพิ่มความแข็งแรงอัด ความสัมพันธ์ระหว่างการจัดลำดับบรรจุของมวลรวมและประสิทธิภาพการทำงานที่เป็นรูปธรรมคือการพัฒนา เทคนิคการจัดลำดับขึ้นอยู่กับเส้นโค้งอำนาจและแผนภูมิเลวให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับผลการดำเนินงานที่คาดหวังและดังนั้นจึงสามารถนำมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผสมคอนกรีต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปริมาณของวัสดุมวลรวมในคอนกรีตประมาณ 60 – 75 เปอร์เซ็นต์ และประสิทธิภาพเป็นรูปธรรมที่มีผลต่อคุณสมบัติของโดยรวมการออกแบบส่วนผสมและการบรรจุ การผสมคอนกรีตรวมสามารถให้ปรับปรุงประสิทธิภาพ และสามารถใช้ในการออกแบบคอนกรีตลดวัสดุประสานเนื้อหา เนื่องจากความซับซ้อนในการบรรจุรวมและความผิดปกติในรูปทรงและพื้นผิว ไม่มีแนวทางสากล เพื่อให้บัญชีบริจาคของมวลรวมของขนาดอนุภาคและการบรรจุระดับที่มีผลต่อการปฏิบัติงานของคอนกรีตสดและแข็ง

)งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผสมรวมที่ดีที่สุดและศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของการบรรจุรวมในงานคอนกรีตผ่านเกณฑ์หลาย บนพื้นฐานของการจำลองและการทดลอง มันแสดงให้เห็นว่า ขนาดบรรจุรวมสามารถใช้เป็นเครื่องมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงส่วนผสมคอนกรีตอัดแรง ความสัมพันธ์ระหว่างระดับบรรจุมวลรวมคอนกรีตสมรรถนะพัฒนาคือ ระดับเทคนิคตามอำนาจเส้นโค้งและแผนภูมิทางให้ข้อมูลที่มีคุณค่าในความคาดหวังและจึงสามารถใช้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผสมคอนกรีต