The study aims for school counselor

The study aims for school counselors to assess the counseling and guidance programs they offer at their schools
in every respect. It also focuses on the suggestions of counselors about the drawbacks. On being analyzed with
content analysis method, opinions of school counselors on counseling and guidance program is categorized in
line with the research questions
As for the positive features of the program, within the scope of opinions of school counselors, it is found that
the guidance program activities are functional (62,5 %), the program is compatible with students’ development
levels (37,5%), it is sufficient in educational, vocational and personal counseling and guidance domains (25%),,
the program is flexible (12,5 %)and it is sufficient for intervention of problems (12,5%). The planning of
guidance activities is based on the student-centered approach and it aims to make students active and individuals
able to solve problems (MEB, 2011). Also the comprehensive guidance and counseling program reflects a strong
developmental approach, systematically presenting activities appropriate to student developmental levels and
including achievable and measurable outcomes in the area of personal, social, educational, and career domains
(Gysbers&Henderson, 2000). So guidance activities should encourage students to improve themselves in all
domains of guidance. These findings of the study are in common with other studies in literature. For instance
Berber (2010) conducted her study on school counselors vocational schools and she stated in her study that the
activities of the program is comprehensible and they make students active during lessons and the activities fit for
the development levels of students. Similarly, in other studies, activities are assessed to be functional in line with
their purposes (Nazlı, 2008). To accomplish the purposes of counseling and guidance program, activities and
procedures are necessary to assist students in understanding and periodically monitoring their growth and
development. Students must come to terms with their goals, values, abilities, aptitudes, and interests
(competencies) so they can continue to progress educationally and occupationally (Gysbers, 1990). Therefore,
considering vocational high schools, activities should support students in vocational domain, as well as
educational and personal domains. School counselors evaluated the program sufficient in three guidance
domains. It is important to enhance the school guidance and counseling program by providing sequential,
developmentally planned activities for all students to gain an understanding of their academic, social, cognitive,
and emotional development; become knowledgeable about educational and occupational opportunities; and
utilize this learning to craft their educational and career plans (Harewood-Jones&Foster, 1998). So these goals
can be reached with effective guidance activities including three guidance domains.
When the drawbacks of the program according to the opinions of school counselors are investigated, they stated
the guidance activities are inappropriate for the structure of vocational high schools (50%), there is a lack of time
for implementation (37,5%), vocational and personal guidance domains are not included enough in the program
(25%), the program is inappropriate for students’ level of development (25%), guidance activities cannot be
applied in classrooms (12, 5%) and there is not any inspection concerning the implementation of the program
(12,5%). As vocational high schools train students for professional life, their needs of counseling and guidance
may be different from other schools. Half of school counselors states that the guidance activities should be
organized in accordance with students’ fields and these guidance activities should be different from the activities
of the other schools.
One of the main concerns expressed by counselors in the current study was the time required to adequately and
effectively implement the program. This finding of the study supports the finding of Lehr (2002) as he states that
with more time and resources, more students can be reached, and more guidance and counseling needs met. It
should be allocated more time for counselors to implement the program and
Another drawback is that the guidance domains are not included in the program equally. Vocational guidance
in secondary education includes services offered students to help them be aware of professions in the changing
world and choose a profession in accordance with their abilities and interests and improve themselves in their
profession (Yeşilyaprak, 2013; Bakırcıoğlu, 2005; Tan, 2013). By choosing vocational high schools, students also
choose their profession. These schools present students the opportunity to choose their profession earlier than the
other high schools and the students take mainly career training-oriented education. So their needs of vocational
guidance domain are different from the needs of s

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษามีโรงเรียนให้คำปรึกษาการประเมินโปรแกรมการให้คำปรึกษาและคำแนะนำโรงเรียนทุกประการ นอกจากนี้ก็ยังเน้นในคำแนะนำปรึกษาเกี่ยวกับข้อด้อย ในการวิเคราะห์ด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา การแบ่งประเภทตามความเห็นของโรงเรียนให้คำปรึกษาโปรแกรมการให้คำปรึกษาและคำแนะนำบรรทัดที่ มีคำถามวิจัยสำหรับคุณสมบัติของโปรแกรม ภายในขอบเขตของความเห็นของที่ปรึกษาโรงเรียน บวกมันจะพบว่ากิจกรรมแนะนำโปรแกรมทำงาน (62,5%), โปรแกรมเข้ากันได้กับนักพัฒนาระดับ (37,5%), ก็เพียงพอในการให้คำปรึกษาด้านการศึกษา อาชีพ และส่วนบุคคลและโดเมนแนะนำ (25%),โปรแกรมมีความยืดหยุ่น (12,5%) และก็เพียงพอสำหรับการแทรกแซงของปัญหา (12,5%) การวางแผนของจัดกิจกรรมแนะแนวเป็นไปตามวิธีการนักเรียนเป็นศูนย์กลาง และมุ่งเน้นให้นักศึกษาใช้งานและบุคคลสามารถในการแก้ปัญหา (MEB, 2011) ยัง ครอบคลุมการแนะแนวและให้คำปรึกษาโปรแกรมสะท้อนถึงความแข็งแกร่งวิธีการพัฒนา ระบบการนำเสนอกิจกรรมที่เหมาะสมกับระดับพัฒนาการของนักเรียน และรวมทั้งผลลัพธ์ที่วัดผลได้ และทำได้ในพื้นที่ของส่วนบุคคล สังคม การศึกษา และร่วมงานกับโดเมน(Gysbers & Henderson, 2000) เพื่อ จัดกิจกรรมแนะแนวควรส่งเสริมให้นักเรียนเพื่อปรับปรุงตัวเองทั้งหมดโดเมนของคำแนะนำ เหล่านี้ผลของการศึกษาประเภทการศึกษาอื่น ๆ ในวรรณคดีได้ ตัวอย่างเช่นBerber (2010) ดำเนินการศึกษาในโรงเรียนอาชีวศึกษาปรึกษาและเธอระบุในเธอศึกษาที่การกิจกรรมของโปรแกรมเป็นเข้าใจ และให้นักเรียนใช้งานในระหว่างเรียน และกิจกรรมที่เหมาะสมระดับการพัฒนาของนักเรียน ในทำนองเดียวกัน ในการศึกษาอื่น ๆ กิจกรรมประเมินการให้ใช้งานได้กับเพื่อที่พวกเขา (Nazlı, 2008) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการให้คำปรึกษา และคำแนะนำโปรแกรม กิจกรรม และกระบวนจำเป็นเพื่อช่วยให้นักเรียนทำความเข้าใจ และการตรวจสอบเป็นระยะการเจริญเติบโต และการพัฒนา นักเรียนต้องรอมชอมกับเป้าหมาย คุณค่า ความสามารถ aptitudes และความสนใจ(ความสามารถ) ต่อความคืบหน้า educationally และ occupationally (Gysbers, 1990) ดังนั้นพิจารณาโรงเรียนมัธยมอาชีวศึกษา กิจกรรมสนับสนุนนักเรียนในอาชีวศึกษาเมน เป็นการศึกษา และส่วนตัวโดเมน โรงเรียนปรึกษาประเมินโปรแกรมเพียงพอในการแนะแนว 3โดเมน สิ่งสำคัญคือการเพิ่มคำแนะนำโรงเรียนและโปรแกรมการให้คำปรึกษา โดยให้เรียงตามลำดับแผนพัฒนากิจกรรมนักเรียนทั้งหมดให้ได้รับความเข้าใจสังคมศึกษา การ ความรู้และ พัฒนาอารมณ์ เป็นความรู้เกี่ยวกับโอกาสในการศึกษา และอาชีพ และใช้นี้เรียนรู้ที่จะสร้างแผนการศึกษา และสายอาชีพของพวกเขา (แมรี-โจนส์และฟอสเตอร์ 1998) เป้าหมายเหล่านี้ดังนั้นสามารถเข้าถึงได้ ด้วยการจัดกิจกรรมแนะแนวที่มีประสิทธิภาพรวมถึงโดเมนแนะนำสามเมื่อข้อด้อยของโปรแกรมตามความเห็นของตัวแทนที่ปรึกษาโรงเรียนจะตรวจสอบ พวกเขากล่าวกิจกรรมแนะแนวที่ไม่เหมาะสมกับโครงสร้างของโรงเรียนมัธยมศึกษา (50%), มีไม่มีเวลาสำหรับการใช้งาน (37,5%), โดเมนคำแนะนำส่วนบุคคล และวิชาชีพมีไม่พอในโปรแกรม(25%), โปรแกรมเหมาะสมสำหรับระดับนักเรียน (25%), การพัฒนากิจกรรมแนะแนวไม่ใช้ในห้องเรียน (12, 5%) และไม่มีการตรวจสอบใด ๆ ที่เกี่ยวกับการใช้งานของโปรแกรม(12,5%) เป็นนักเรียนรถไฟโรงเรียนมัธยมอาชีวศึกษาสำหรับชีวิตการทำงาน ความต้องการของการให้คำปรึกษาและคำแนะนำอาจจะแตกต่างจากที่อื่น ครึ่งหนึ่งของอเมริกาส่วนโรงเรียนที่จัดกิจกรรมแนะแนวควรจัดให้สอดคล้องกับเขตข้อมูลของนักเรียน และแนะนำกิจกรรมเหล่านี้ควรจะแตกต่างจากกิจกรรมของโรงเรียนอื่น ๆความกังวลหลักที่แสดง โดยให้คำปรึกษาในการศึกษาปัจจุบันอย่างใดอย่างหนึ่งคือเวลาที่ต้องการอย่างเพียงพอ และมีประสิทธิภาพใช้โปรแกรม ที่พบของการศึกษานี้สนับสนุนการค้นพบของ Lehr (2002) เขาแจ้งว่าเวลาและทรัพยากร สามารถเข้าถึงนักเรียนเพิ่มเติม และคำแนะนำเพิ่มเติมและต้องการให้คำปรึกษา มันควรจัดสรรเวลาสำหรับให้คำปรึกษาการใช้โปรแกรม และคืนเงินอีกเป็นว่า โดเมนคำแนะนำจะไม่รวมอยู่ในโปรแกรมอย่างเท่าเทียมกัน แนะแนวอาชีพในระดับมัธยมศึกษามีการบริการนักเรียนเพื่อช่วยให้พวกเขาตระหนักถึงอาชีพในการเปลี่ยนแปลงโลก และเลือกอาชีพตามความสามารถและความสนใจ และปรับปรุงตัวเองในการอาชีพ (Yeşilyaprak, 2013 Bakırcıoğlu, 2005 ตาล 2013) โดยเลือกโรงเรียนมัธยมศึกษา นักเรียนยังเลือกอาชีพของพวกเขา โรงเรียนเหล่านี้ปัจจุบันนักเรียนโอกาสในการเลือกอาชีพของพวกเขาก่อนหน้านี้โรงเรียนมัธยมอื่น ๆ และนักเรียนใช้เวลาส่วนใหญ่มุ่งเน้นการฝึกอบรมศึกษา ดังนั้นความต้องการของวิชาชีพแนะนำโดเมนแตกต่างจากความต้องการของ s

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษามีจุดมุ่งหมายเพื่อให้คำปรึกษาที่โรงเรียนเพื่อประเมินการให้คำปรึกษาและคำแนะนำพวกเขามีโปรแกรมที่โรงเรียนของพวกเขา
ในทุกประการ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นไปที่ข้อเสนอแนะของที่ปรึกษาเกี่ยวกับข้อบกพร่องที่ ในการวิเคราะห์ด้วย
วิธีการวิเคราะห์เนื้อหาความเห็นของที่ปรึกษาของโรงเรียนในการให้คำปรึกษาและโปรแกรมการแนะแนวแบ่งใน
แนวเดียวกันกับคำถามการวิจัย
สำหรับคุณสมบัติในเชิงบวกของโปรแกรมที่อยู่ในขอบเขตของความเห็นของที่ปรึกษาโรงเรียนก็จะพบว่า
โปรแกรมคำแนะนำ กิจกรรมมีการทำงาน (62,5%) โปรแกรมสามารถทำงานร่วมกับการพัฒนาของนักเรียน
ระดับ (37,5%) มันจะเพียงพอในการศึกษาสายอาชีพและส่วนบุคคลให้คำปรึกษาและคำแนะนำโดเมน (25%) ,,
โปรแกรมมีความยืดหยุ่น ( 12,5%) และมันจะเพียงพอสำหรับการแทรกแซงของปัญหา (12,5%) การวางแผนการ
จัดกิจกรรมแนะแนวจะขึ้นอยู่กับวิธีการที่นักเรียนเป็นศูนย์กลางและมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนที่ใช้งานและบุคคลที่
สามารถแก้ปัญหา (MEB 2011) นอกจากนี้ยังครอบคลุมการให้คำปรึกษาแนะนำและโปรแกรมสะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง
แนวทางการพัฒนาระบบนำเสนอกิจกรรมที่เหมาะสมกับนักเรียนระดับพัฒนาการและ
รวมถึงผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จและสามารถวัดผลได้ในพื้นที่ของส่วนบุคคลสังคมการศึกษาและอาชีพของโดเมน
(Gysbers และเฮนเดอ, 2000) ดังนั้นกิจกรรมแนะแนวควรส่งเสริมให้นักเรียนที่จะพัฒนาตัวเองในทุก
โดเมนของคำแนะนำ การค้นพบนี้ของการศึกษาอยู่ในการร่วมกันกับการศึกษาอื่น ๆ ในวรรณคดี ยกตัวอย่างเช่น
เบอร์เบอร์ (2010) ดำเนินการศึกษาในโรงเรียนของเธอที่ปรึกษาโรงเรียนอาชีวศึกษาและเธอที่ระบุไว้ในการศึกษาของเธอว่า
กิจกรรมของโครงการคือเข้าใจและพวกเขาทำให้นักเรียนที่ใช้งานอยู่ในระหว่างการเรียนและกิจกรรมเหมาะสำหรับ
ระดับการพัฒนาของนักเรียน ในทำนองเดียวกันในการศึกษาอื่น ๆ , กิจกรรมได้รับการประเมินสามารถทำงานสอดคล้องกับ
วัตถุประสงค์ของพวกเขา (Nazli 2008) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการให้คำปรึกษาและคำแนะนำโปรแกรมกิจกรรมและ
ขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลือนักเรียนในการทำความเข้าใจและการตรวจสอบระยะการเจริญเติบโตของพวกเขาและ
การพัฒนา นักศึกษาจะต้องรอมชอมกับพวกเขาเป้าหมายค่าความสามารถความถนัดและความสนใจ
(ความสามารถ) เพื่อให้พวกเขาสามารถดำเนินการต่อเพื่อความก้าวหน้าทางการศึกษาและอาชีพ (Gysbers, 1990) ดังนั้น
เมื่อพิจารณาจากโรงเรียนมัธยมอาชีวศึกษาควรสนับสนุนกิจกรรมนักเรียนอาชีวศึกษาประสิทธิภาพเช่นเดียวกับ
โดเมนการศึกษาและส่วนบุคคล ที่ปรึกษาของโรงเรียนที่ได้รับการประเมินโปรแกรมเพียงพอในสามคำแนะนำ
โดเมน มันเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเพิ่มคำแนะนำโรงเรียนและโปรแกรมการให้คำปรึกษาโดยการให้ลำดับ
กิจกรรมการวางแผนการพัฒนาสำหรับนักเรียนทุกคนจะได้รับความเข้าใจในการเรียนของพวกเขา, สังคม, ความรู้ความเข้าใจการ
และการพัฒนาอารมณ์ เป็นความรู้เกี่ยวกับโอกาสในการศึกษาและการประกอบอาชีพ; และ
ใช้ประโยชน์จากการเรียนรู้นี้เพื่องานฝีมือแผนการศึกษาและอาชีพของพวกเขา (แฮร์วูดโจนส์และฟอสเตอร์, 1998) ดังนั้นเป้าหมายเหล่านี้
สามารถเข้าถึงได้กับกิจกรรมแนะแนวที่มีประสิทธิภาพรวมทั้งโดเมนสามคำแนะนำ.
เมื่อข้อบกพร่องของโปรแกรมให้เป็นไปตามความเห็นของที่ปรึกษาโรงเรียนจะถูกตรวจสอบพวกเขาระบุ
กิจกรรมแนวทางที่ไม่เหมาะสมกับโครงสร้างของโรงเรียนมัธยมอาชีวศึกษา (50%) ที่ มีการขาดของเวลา
สำหรับการดำเนินงาน (37,5%) อาชีวศึกษาและโดเมนคำแนะนำส่วนบุคคลจะไม่รวมอยู่มากพอในโปรแกรม
(25%), โปรแกรมที่ไม่เหมาะสมสำหรับระดับนักเรียนของการพัฒนา (25%), กิจกรรมแนะแนวไม่สามารถ จะ
นำไปใช้ในห้องเรียน (12, 5%) และไม่มีการตรวจสอบใด ๆ เกี่ยวกับการดำเนินงานของโปรแกรม
(12,5%) ในฐานะที่เป็นโรงเรียนมัธยมอาชีวศึกษาอบรมนักเรียนสำหรับชีวิตมืออาชีพความต้องการของพวกเขาในการให้คำปรึกษาและคำแนะนำ
อาจแตกต่างจากโรงเรียนอื่น ๆ ครึ่งหนึ่งของที่ปรึกษาโรงเรียนระบุว่ากิจกรรมแนะแนวควรจะ
จัดให้สอดคล้องกับสาขาของนักเรียนและกิจกรรมแนะแนวเหล่านี้ควรจะแตกต่างจากกิจกรรม
ของโรงเรียนอื่น ๆ .
หนึ่งในความกังวลหลักแสดงออกโดยการให้คำปรึกษาในการศึกษาในปัจจุบันเป็นช่วงเวลาที่จำเป็นในการ อย่างเพียงพอและ
มีประสิทธิภาพในการใช้โปรแกรม ผลการศึกษานี้สนับสนุนผลการเอ่อร์ (2002) ในขณะที่เขาระบุว่า
มีเวลามากขึ้นและทรัพยากรนักเรียนสามารถเข้าถึงได้และอื่น ๆ การให้คำปรึกษาแนะนำและความต้องการพบ มัน
ควรจะจัดสรรเวลามากขึ้นสำหรับการให้คำปรึกษาในการดำเนินการโปรแกรมและ
ข้อเสียเปรียบก็คือว่าโดเมนแนวทางที่ยังไม่ได้รวมอยู่ในโปรแกรมอย่างเท่าเทียมกัน คำแนะนำอาชีวศึกษา
ในการศึกษาระดับมัธยมศึกษารวมถึงการบริการนักเรียนที่จะช่วยให้พวกเขาจะตระหนักถึงอาชีพในการเปลี่ยนแปลงที่นำเสนอ
โลกและเลือกอาชีพให้สอดคล้องกับความสามารถและความสนใจของพวกเขาและปรับปรุงตัวเองในของพวกเขา
อาชีพ (Yeşilyaprak, 2013; Bakırcıoğlu 2005; Tan, 2013) . โดยการเลือกโรงเรียนมัธยมอาชีวศึกษานักเรียน
เลือกอาชีพของพวกเขา โรงเรียนเหล่านี้นักเรียนปัจจุบันโอกาสที่จะเลือกอาชีพของพวกเขาก่อนหน้านี้กว่า
โรงเรียนมัธยมอื่น ๆ และนักเรียนส่วนใหญ่ใช้เวลาการศึกษาการฝึกอบรมที่มุ่งเน้นการประกอบอาชีพ ดังนั้นความต้องการของพวกเขาอาชีวศึกษา
โดเมนคำแนะนำแตกต่างจากความต้องการของผู้นั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดมุ่งหมายของการศึกษาสำหรับโรงเรียนปรึกษาเพื่อประเมินการให้คำปรึกษาและการแนะแนวโปรแกรมที่พวกเขาเสนอที่โรงเรียนของพวกเขาทุกประการ นอกจากนี้ยังเน้นการแนะนำปรึกษาเกี่ยวกับของเสีย ในการวิเคราะห์ด้วยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ความคิดเห็นของที่ปรึกษาโรงเรียนในการให้คำปรึกษาและการแนะแนวเป็นหลัก ในสอดคล้องกับคำถามการวิจัยสำหรับคุณสมบัติที่ดีของโปรแกรมภายในขอบเขตของความคิดเห็นของที่ปรึกษาโรงเรียน พบว่าโปรแกรมกิจกรรมแนะแนว มีการทำงาน ( 62,5 % ) โปรแกรมจะเข้ากันได้กับพัฒนาการของนักเรียนระดับ ( 37,5 % ) ก็เพียงพอในการศึกษา อาชีพและส่วนบุคคล การให้คำปรึกษาและการแนะแนว โดเมน ( 25% ) , ,โปรแกรมมีความยืดหยุ่น ( 12 , 5% ) และมันก็เพียงพอสำหรับการแทรกแซงของปัญหา ( 12 , 5% ) การวางแผนของกิจกรรมแนะแนวตามที่เน้น ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางและมีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนใช้งาน และบุคคลสามารถแก้ปัญหา ( เฟอร์นิเจอร์ , 2011 ) ยังให้คำแนะนำที่ครอบคลุมและโปรแกรมการให้คำปรึกษา ให้แข็งแรงแนวทางพัฒนาระบบการนำเสนอที่เหมาะสมกับการจัดกิจกรรม , พัฒนานักเรียนระดับรวมทั้งได้ achievable และการวัดผลในพื้นที่ส่วนบุคคล สังคม การศึกษา อาชีพ และโดเมน( gysbers & Henderson , 2000 ) ดังนั้น กิจกรรมแนะแนวควรส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาตนเองในโดเมนของแนวทาง เหล่านี้ผลการวิจัยจะเหมือนกันกับการศึกษาอื่น ๆในวรรณคดี สำหรับอินสแตนซ์ภาษาเบอร์เบอร์ ( 2010 ) ดำเนินการศึกษาในโรงเรียนอาชีวศึกษาโรงเรียนปรึกษาและการศึกษาของเธอเธอกล่าวว่ากิจกรรมของโครงการคือเข้าใจและพวกเขาให้นักเรียนใช้งานในระหว่างบทเรียนและกิจกรรมที่เหมาะกับระดับพัฒนาการของผู้เรียน นอกจากนี้ในการศึกษาอื่น ๆ กิจกรรมจะถูกประเมินเพื่อสามารถใช้งานในบรรทัดกับวัตถุประสงค์ของพวกเขา ( nazl ı , 2008 ) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการให้คำปรึกษาและการแนะแนว กิจกรรม และขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจและติดตามการเจริญเติบโตเป็นระยะๆ และการพัฒนา นักศึกษาจะต้องรอมชอมกับเป้าหมาย คุณค่า ความสามารถ ความถนัด และความสนใจ( ความสามารถ ) เพื่อให้พวกเขาสามารถยังคงความคืบหน้าชีวิตไม่ได้ ( gysbers , 2533 ) ดังนั้นพิจารณาโรงเรียนมัธยมอาชีวศึกษา กิจกรรมควรสนับสนุนนักเรียนอาชีวศึกษา โดเมน รวมทั้งการศึกษาและส่วนบุคคลของโดเมน โรงเรียนปรึกษาการประเมินโครงการเศรษฐกิจพอเพียงใน 3 แนะแนวโดเมน มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะยกระดับโรงเรียนให้คำแนะนำและการให้คำปรึกษาโดยการให้ตามลําดับแผนพัฒนาการจัดกิจกรรมนักเรียนเพื่อให้ได้รับความเข้าใจของทาง สังคม และสติปัญญาและอารมณ์การพัฒนา กลายเป็นความรู้เกี่ยวกับโอกาสทางการศึกษาและอาชีพ และใช้ประโยชน์จากการเรียนรู้นี้ฝีมือแผนการศึกษาและอาชีพ ( แฮร์วู้ด โจนส์ & Foster , 1998 ) ดังนั้น เป้าหมายเหล่านี้สามารถเข้าถึงกิจกรรมแนะแนวที่มีประสิทธิภาพรวมทั้งสามแนวทางโดเมนเมื่อข้อด้อยของโครงการ ตามความคิดเห็นของที่ปรึกษาของโรงเรียนตรวจสอบ พวกเขากล่าวว่ากิจกรรมแนะแนว ไม่เหมาะสมกับโครงสร้างของโรงเรียนมัธยมอาชีวศึกษา ( 50% ) , ไม่มีเวลาสำหรับการดำเนินงาน ( 37,5 % ) - ส่วนตัวแนะนำโดเมนไม่รวมเพียงพอในโปรแกรม( 25% ) , โปรแกรมที่ไม่เหมาะสมของนักเรียนระดับการพัฒนา ( 25% ) , กิจกรรมแนะแนว ไม่สามารถที่ใช้ในห้องเรียน ( 12 , 5% ) และมีไม่ใด ๆการตรวจสอบเกี่ยวกับการใช้ของโปรแกรม( 12 , 5% ) เป็นโรงเรียนฝึกวิชาชีพศึกษาชีวิตมืออาชีพของพวกเขาความต้องการของการให้คำปรึกษาและแนะแนวอาจจะแตกต่างจากโรงเรียนอื่น ครึ่งหนึ่งของโรงเรียนปรึกษา กิจกรรมแนะแนวควรระบุว่าจัดตามสาขาและกิจกรรมแนะแนวนักศึกษาเหล่านี้ควรจะแตกต่างจากกิจกรรมของโรงเรียนอื่น ๆหนึ่งในความกังวลหลักที่แสดงโดยที่ปรึกษาในการศึกษาในปัจจุบันคือเวลาที่จำเป็นอย่างเพียงพอ และมีประสิทธิภาพในการใช้โปรแกรม นี้พบสนับสนุนการหาแลร์ ( 2002 ) เขากล่าวว่ากับเวลาและทรัพยากร นักเรียน สามารถเข้าถึง และคำชี้แนะ และการให้คำปรึกษา ต้องการพบ มันควรจัดสรรเวลาสำหรับการปรึกษา การใช้โปรแกรมข้อเสียเปรียบก็คือว่าคำแนะนำที่โดเมนจะไม่รวมอยู่ในโปรแกรมเท่ากัน การแนะแนวอาชีพในระดับมัธยมศึกษามีบริการให้นักเรียนเพื่อช่วยให้พวกเขาตระหนักถึงการเปลี่ยนอาชีพในโลก และเลือกอาชีพที่สอดคล้องกับความสามารถและความสนใจของตนและพัฒนาตนเอง ในของพวกเขาอาชีพ ( ท่านเกิน ilyaprak 2013 ; บักı RC ı O ğ Lu , 2005 ; แทน , 2013 ) โดยการเลือกโรงเรียนมัธยมอาชีวศึกษา นักเรียนเลือกอาชีพของพวกเขา โรงเรียนเหล่านี้เสนอโอกาสให้นักเรียนเลือกอาชีพที่เร็วกว่าโรงเรียนอื่นและนักเรียนใช้เวลาส่วนใหญ่มุ่งเน้นการฝึกอาชีพการศึกษา ดังนั้นความต้องการของอาชีพโดเมนแนะแนวแตกต่างจากต้องการ