Economists organize their disciplin

Economists organize their discipline in fields from agricultural economics to urban economics. Many economists specialize in a field by publishing original essays on topics and teaching courses in a specific field.

The fields are in two sets: Those that develop core skills and those that emphasize application of the skills in specific settings. The core itself involves two modes of analysis. The Skills page gives simple examples. First, mathematical description of economic phenomena allows derivation of relationships. This mode of thought is called economic theory. Mathematics allows arguing by deductive reasoning from stated premises to a conclusion. It offers the internal consistency of mathematical proofs but requires no evidence of applicability.

The second core method looks for evidence based on observing economic phenomena. It draws inference from persistent patterns. A consistent pattern that is distinct from the complexity and randomness in nature is likely to have meaning. This mode of thought is called inductive reasoning. It is the mode of analysis of economic historians, statisticians, and experimenters. The study of formal methods for drawing inferences from statistical evidence in economics is called econometrics.

Many advances in economic understanding come from the interaction between deduction and induction. When mathematical analysis yields new insights, the historians, statisticians, and experimenters look for ways to judge whether available evidence is consistent with the theory. When observation shows phenomena that are inconsistent with available theories, economic theorists look for new theories. The core fields are in item C on the list of fields shown below.

Most economists concentrate their work and teaching in an applied field, that is, in the other categories shown below. They study the history of the phenomena and adapt the core theoretical ideas of economics to offer explanations. They develop a variety of methods to observe and measure events and apply econometric methods to test hypotheses. For example, international economists study the history of trade, balance of payments, and exchange rates. They will understand both the economic theories and the econometric findings that explain international economic phenomena.

The fields of economics, however, have fuzzy boundaries because economic events are interconnected. Every transaction has a buyer and a seller; each economic event has extended consequences. A change in a wage rate will affect the cost of the goods the workers produce as well as change the income and consumption patterns of the workers’ households. An economist working in one field will be aware of connections to the rest of the economy.

The fields of economics, then, are more signposts than fences. They include the core areas of mathematical and statistical methods as well as the many arenas in which the core methods are applied. Most undergraduate Programs include study in the core fields and in a selection of applied fields. The standard classification of economic fields given below appears in the Journal of Economic Literature . These field labels provide enduring markers on the terrain of economic thought.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักเศรษฐศาสตร์จัดระเบียบวินัยของตนในฟิลด์จากเศรษฐศาสตร์เกษตรเศรษฐศาสตร์เมือง นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากในเขตเชี่ยวชาญ โดยเผยแพร่ต้นฉบับเรียงความในหัวข้อ และการสอนหลักสูตรในฟิลด์เฉพาะฟิลด์อยู่ในชุดที่สอง: ที่พัฒนาทักษะและที่เน้นการประยุกต์ใช้ทักษะในการตั้งค่าเฉพาะ หลักตัวเองเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์สองวิธี หน้าทักษะให้ตัวอย่างอย่างง่าย แรก คณิตศาสตร์อธิบายปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจมาของความสัมพันธ์ได้ การคิดคือทฤษฎีเศรษฐกิจ คณิตศาสตร์ช่วยให้โต้เถียง ด้วยเหตุผล deductive จากสถานที่ระบุไว้สรุป มันมีความสอดคล้องภายในของหลักฐานทางคณิตศาสตร์ แต่ต้องพิสูจน์ว่าความเกี่ยวข้องของวิธีการหลักที่สองหาหลักฐานที่ใช้ในการสังเกตปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจ มันวาดข้อจากรูปแบบการ รูปแบบที่สอดคล้องกันที่แตกต่างจากความซับซ้อนและ randomness ในธรรมชาติ จะมีความหมาย การคิดคือการใช้เหตุผลเชิงอุปนัย วิธีการวิเคราะห์ของนักประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ statisticians และ experimenters ได้ การศึกษาวิธีทางสำหรับวาด inferences จากหลักฐานทางสถิติเศรษฐศาสตร์เรียกว่า econometricsความก้าวหน้ามากในการทำความเข้าใจเศรษฐกิจมาจากการโต้ตอบระหว่างการหักและการเหนี่ยวนำ เมื่อวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์ทำให้ความเข้าใจใหม่ นักประวัติศาสตร์ statisticians และ experimenters หาวิธีในการวินิจฉัยว่ามีหลักฐานสอดคล้องกับทฤษฎีที่ เมื่อสังเกตแสดงปรากฏการณ์ที่สอดคล้องกับทฤษฎีที่ว่าง เศรษฐกิจ theorists ค้นหาทฤษฎีใหม่ ฟิลด์หลักอยู่ในสินค้า C บนรายการของฟิลด์ที่แสดงด้านล่างนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่มุ่งการทำงานและสอนในเขตใช้ คือ ในประเภทอื่น ๆ ที่แสดงอยู่ด้านล่าง พวกเขาศึกษาประวัติความเป็นมาของปรากฏการณ์นี้ และปรับหลักทฤษฎีความคิดของเศรษฐศาสตร์ให้คำอธิบาย พวกเขาพัฒนาความหลากหลายของวิธีการสังเกต และประเมินเหตุการณ์ และใช้วิธี econometric เพื่อทดสอบสมมุติฐาน ตัวอย่าง นักเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศศึกษาประวัติของการค้า การชำระเงินของยอดดุล และอัตราแลกเปลี่ยน พวกเขาจะเข้าใจทฤษฎีทางเศรษฐกิจและพบ econometric ที่อธิบายปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศด้านเศรษฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม มีขอบเขตที่ชัดเจนเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะเข้าใจ ทุกธุรกรรมที่มีผู้ซื้อและผู้ขาย แต่ละเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจมีขยายผล การเปลี่ยนแปลงในอัตราค่าจ้างจะส่งผลกระทบต่อต้นทุนของสินค้าที่แรงงานผลิต ตลอดจนเปลี่ยนแปลงรูปแบบรายได้และปริมาณการใช้ของครัวเรือนของผู้ปฏิบัติงาน นักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงานในหนึ่งเขตจะตระหนักถึงการเชื่อมต่อของเศรษฐกิจด้านเศรษฐศาสตร์ แล้ว มี signposts เพิ่มเติมกว่ากรอบ รวมพื้นที่หลักของวิธีการทางคณิตศาสตร์ และสถิติเป็นสถานหลายที่ใช้วิธีการหลักการ ระดับปริญญาตรีมากที่สุดโปรแกรมรวมถึงการศึกษาในหลักการ และ ในการเลือกใช้ฟิลด์ การจัดประเภทมาตรฐานของเขตเศรษฐกิจที่กำหนดด้านล่างปรากฏขึ้นในสมุดรายวันของเศรษฐกิจวรรณคดี ป้ายชื่อของฟิลด์เหล่านี้ให้เครื่องหมายที่ยั่งยืนในภูมิประเทศความคิดเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักเศรษฐศาสตร์จัดระเบียบวินัยของพวกเขาในสาขาเศรษฐศาสตร์เกษตรจากเศรษฐกิจในเมือง นักเศรษฐศาสตร์หลายคนมีความเชี่ยวชาญในด้านการเขียนเรียงความโดยการเผยแพร่เดิมในหัวข้อการเรียนการสอนและหลักสูตรในสาขาที่เฉพาะเจาะจง. สาขาอยู่ในสองชุด: ผู้ที่พัฒนาทักษะหลักและผู้ที่เน้นการประยุกต์ใช้ทักษะในการตั้งค่าที่เฉพาะเจาะจง หลักของตัวเองที่เกี่ยวข้องกับสองโหมดของการวิเคราะห์ ทักษะหน้าให้ตัวอย่างง่ายๆ ประการแรกคำอธิบายทางคณิตศาสตร์ของปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจที่มาช่วยให้ความสัมพันธ์ โหมดของความคิดนี้จะเรียกว่าทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ คณิตศาสตร์ช่วยให้การพิจารณาโดยเหตุผลแบบนิรนัยจากสถานที่ดังกล่าวสรุป มันมีความสอดคล้องภายในของการพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์ แต่ต้องมีหลักฐานของการบังคับใช้ no. วิธีการหลักที่สองจะมองหาหลักฐานที่อยู่บนพื้นฐานของการสังเกตปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจ มันดึงข้อสรุปจากรูปแบบถาวร รูปแบบที่สอดคล้องกันว่าแตกต่างจากความซับซ้อนและมีแบบแผนในธรรมชาติมีแนวโน้มที่จะมีความหมาย โหมดของความคิดนี้จะเรียกว่าเหตุผลอุปนัย มันเป็นรูปแบบของการวิเคราะห์ของนักประวัติศาสตร์เศรษฐกิจสถิติและทดลอง การศึกษาวิธีการทางการสำหรับการวาดภาพการหาข้อสรุปจากหลักฐานทางสถิติในทางเศรษฐศาสตร์เรียกว่าเศรษฐ. ความก้าวหน้าในการทำความเข้าใจหลายทางเศรษฐกิจมาจากการทำงานร่วมกันระหว่างหักและเหนี่ยวนำ เมื่อวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์อัตราผลตอบแทนข้อมูลเชิงลึกใหม่, ประวัติศาสตร์, นักสถิติและทดลองมองหาวิธีการที่จะตัดสินว่าหลักฐานที่มีความสอดคล้องกับทฤษฎี เมื่อสังเกตปรากฏการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าไม่สอดคล้องกับทฤษฎีที่มีอยู่ทฤษฎีเศรษฐกิจมองหาทฤษฎีใหม่ สาขาหลักอยู่ใน C ในรายการของเขตข้อมูลที่แสดงด้านล่าง. นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่มุ่งเน้นการทำงานและการเรียนการสอนในสนามนำมาใช้นั่นคือในประเภทอื่น ๆ ที่แสดงด้านล่าง พวกเขาศึกษาประวัติศาสตร์ของปรากฏการณ์และปรับตัวเข้ากับความคิดทฤษฎีหลักของเศรษฐกิจที่จะนำเสนอคำอธิบาย พวกเขาพัฒนาความหลากหลายของวิธีที่จะสังเกตและวัดกิจกรรมและการใช้วิธีการทางเศรษฐมิติเพื่อทดสอบสมมติฐาน ยกตัวอย่างเช่นนักเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศศึกษาประวัติศาสตร์ของการค้าสมดุลของการชำระเงินและอัตราแลกเปลี่ยน พวกเขาจะเข้าใจทั้งทฤษฎีทางเศรษฐกิจและการค้นพบทางเศรษฐมิติที่อธิบายปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ. สาขาเศรษฐศาสตร์ แต่มีรอยเลือนเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางเศรษฐกิจที่จะเชื่อมโยง การทำธุรกรรมทุกคนมีซื้อและผู้ขายนั้น แต่ละเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่มีการขยายผลที่ตามมา การเปลี่ยนแปลงในอัตราค่าจ้างจะมีผลต่อค่าใช้จ่ายของสินค้าที่คนงานผลิตรวมทั้งการเปลี่ยนรูปแบบรายได้และการบริโภคของครัวเรือนของคนงาน นักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงานอยู่ในเขตข้อมูลหนึ่งจะต้องตระหนักถึงการเชื่อมต่อกับส่วนที่เหลือของเศรษฐกิจ. สาขาเศรษฐศาสตร์แล้วมีป้ายมากกว่ารั้ว พวกเขารวมถึงพื้นที่หลักของวิธีการทางคณิตศาสตร์และสถิติเช่นเดียวกับโดยสิ้นเชิงจำนวนมากซึ่งในวิธีการหลักที่นำมาใช้ โปรแกรมระดับปริญญาตรีส่วนใหญ่มีการศึกษาในสาขาหลักและในการเลือกสาขาประยุกต์ การจัดประเภทมาตรฐานของเขตข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับด้านล่างที่ปรากฏในวารสารวรรณกรรมทางเศรษฐกิจ เหล่านี้ป้ายชื่อสนามให้เครื่องหมายที่ยั่งยืนในภูมิประเทศของความคิดทางเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักเศรษฐศาสตร์จัดระเบียบวินัยของพวกเขาในเขตข้อมูลจากเศรษฐศาสตร์เกษตรเพื่อเศรษฐกิจชุมชน นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากที่เชี่ยวชาญในเขตข้อมูลโดยการเผยแพร่บทความต้นฉบับในหัวข้อและวิชาที่สอนในสาขาที่เฉพาะเจาะจง .

สาขาอยู่ในชุด ที่พัฒนาทักษะหลักที่เน้นการใช้ทักษะในการตั้งค่าที่เฉพาะเจาะจง นั้นเกี่ยวข้องกับสองโหมดหลักของการวิเคราะห์หน้าทักษะให้ตัวอย่างง่ายๆ ครั้งแรก คำอธิบายทางคณิตศาสตร์ของปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจช่วยให้แหล่งที่มาของความสัมพันธ์ โหมดนี้คิดว่าจะเรียกว่าทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ คณิตศาสตร์ช่วยให้เถียงกันด้วยเหตุผลนิรนัยจากระบุสถานที่ที่จะสรุป มันมีความสอดคล้องภายในของการพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์แต่ไม่ต้องใช้หลักฐานของความเกี่ยวข้อง .

วิธีหลักที่สองมองจากปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจตามหลักฐาน มันวาดอนุมานจากรูปแบบถาวร รูปแบบที่สอดคล้องกันซึ่งแตกต่างจากความซับซ้อนและการสุ่มในธรรมชาติน่าจะมีความหมาย โหมดนี้คิดว่าเรียกว่าเหตุผลอุปนัย มันเป็นโหมดของการวิเคราะห์ของนักประวัติศาสตร์เศรษฐกิจสังคมศาสตร์และผู้ทดลอง .การศึกษาวิธีเป็นทางการสำหรับวาดข้อสรุปจากหลักฐานทางสถิติในทางเศรษฐศาสตร์เรียกว่าเศรษฐมิติ

มีความก้าวหน้าในการทำความเข้าใจเศรษฐกิจมาจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างหักและ induction เมื่อการวิเคราะห์ทางคณิตศาสตร์ผลข้อมูลเชิงลึกใหม่ ประวัติศาสตร์ สังคมศาสตร์ และผู้ทดลองมองหาวิธีที่จะตัดสินได้ว่า หลักฐานที่มีอยู่สอดคล้องกับทฤษฎีเมื่อสังเกตพบปรากฏการณ์ที่สอดคล้องกับทฤษฎีของนักทฤษฎีเศรษฐกิจค้นหาทฤษฎีใหม่ สาขาหลักในรายการ C ในรายการของเขตข้อมูลที่แสดงด้านล่าง .

นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่มุ่งงานและสอนการใช้สนาม ที่ อยู่ ใน ประเภทอื่น ๆที่แสดงด้านล่างศึกษาประวัติของปรากฏการณ์และปรับให้เข้ากับหลักแนวคิดทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ที่จะให้คำอธิบาย พวกเขาพัฒนาวิธีการต่าง ๆเพื่อสังเกตและวัด กิจกรรม และใช้วิธีการทางเศรษฐมิติในการทดสอบสมมติฐาน ตัวอย่างเช่น นักเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศศึกษาประวัติศาสตร์ของการค้า , ดุลการชําระเงิน และอัตราแลกเปลี่ยนพวกเขาจะเข้าใจทั้งทางทฤษฎีและแบบจำลองทางเศรษฐมิติพบว่าอธิบายปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ .

วิชาเศรษฐศาสตร์ อย่างไรก็ตาม มีขอบเขตที่คลุมเครือ เพราะกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีความเชื่อมโยงกัน ทุกธุรกิจมีผู้ซื้อและผู้ขาย โดยแต่ละเหตุการณ์ได้ขยายผลการเปลี่ยนแปลงในอัตราค่าจ้าง จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนของสินค้าที่คนงานผลิต ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงของรายได้และรูปแบบการบริโภคของครัวเรือนคนงาน นักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงานในเขตข้อมูลหนึ่งจะตระหนักถึงการเชื่อมต่อกับส่วนที่เหลือของเศรษฐกิจ

วิชาเศรษฐศาสตร์จึงเป็นดั่งมากกว่ารั้วพวกเขารวมถึงพื้นที่หลักของคณิตศาสตร์และสถิติรวมทั้งหลายโดยสิ้นเชิงในที่หลักวิธีที่ใช้ ปริญญาตรีโปรแกรมส่วนใหญ่รวมถึงการศึกษาในหลักเขต และการเลือกใช้เขตข้อมูล มาตรฐานการจำแนกเขตเศรษฐกิจได้รับด้านล่างที่ปรากฏในวารสารวรรณกรรมไทยป้ายชื่อเขตข้อมูลเหล่านี้ให้คงอยู่เครื่องหมายบนภูมิประเทศของความคิดทางเศรษฐกิจ