2 จันเสนเมืองโบราณสมัยทวาราวดีเมืองโบราณจันเสน โดย ผศ.จิรัฐิ เจริญราษฎ การแปล - 2 จันเสนเมืองโบราณสมัยทวาราวดีเมืองโบราณจันเสน โดย ผศ.จิรัฐิ เจริญราษฎ ไทย วิธีการพูด

2 จันเสนเมืองโบราณสมัยทวาราวดีเมือง

2 จันเสนเมืองโบราณสมัยทวาราวดี
เมืองโบราณจันเสน โดย ผศ.จิรัฐิ เจริญราษฎร
จันเสน เปนแหลงโบราณคดีที่สําคัญแหงลุมแมน้ำเจาพระยาซีกตะวันออก ไดมีการขุดคนพบโบราณคดีอยางเป็นระบบที่จันเสน คือการขุดชั้นดินที่สามารถทราบความเปนมาของแหลงโบราณคดีตั้งแตระยะเวลาเริ่มตน จนถึงเวลาสิ้นสุด รวมทั้งมีการวิเคราะหแบบเครื่องปนดินเผาและโบราณวัตถุ พบวาจันเสนคือแหลงชุมชนแหงวัฒนธรรมทวารวดี มีตํานานเลาวา เดิมชื่อ “เมืองสามเสน” เพราะเปนเมืองใหญมีคนอยูสามแสนคน และเสียงเรียกกลายเปน สามเสน และกลายเปน จันเสนในที่สุด ที่ตั้งเมืองโบราณจันเสน ตั้งอยูในตําบลจันเสน อําเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค มีลักษณะเปนรูปสี่เหลี่ยมมุมมนทั้ง ๔ มุม จนดูคลายวงกลม กวาง ๗๐๐ เมตร ยาว ๘๐๐ เมตร คิดเปนเนื้อที่ประมาณ ๓๐๐ ไร ลอมรอบดวยคูเมือง ภายในคูเมืองมีลักษณะเปนที่เนินสูงกวาพื้นที่รอบนอกคูเมือง คนจึงมักเรียกวา โคกจันเสน บริเวณตอกับคูเมืองออกมาทางดานตะวันออกมีสระหรือบึงขนาดใหญ ลักษณะไมใชบึงธรรมชาติ แตเปนบึงที่มนุษยขุดขึ้น เรียกวา “บึงจันเสน” ลึกมากกวา ๓๐ เมตร ยาว ๒๔๐ เมตร เปนเนื้อที่ ๒๕ ไร เปนแหลงเก็บน้ําใชสําหรับคนทั้งเมือง ซึ่งสามารถใชไดตลอดป และมีคันดินสําหรับกั้นและรับน้ําจากทางดานตะวันออกเฉียงเหนือมาลงบึงจันเสน ทางคันบึงดานใตของเมืองจันเสนมีคันถนนโบราณเรียกวา “คันคูหนุมาน” สูงประมาณ ๑ เมตร กวางประมาณ ๒๐ เมตร เปนที่นาสังเกตวา คนโบราณในจันเสนฉลาดรูจักการชลประทานระบายน้ําภายในเมืองลงสูคลองเล็กๆที่ขุดขึ้นจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก และขุดคลองระบายตัดผานคลองเล็ก เมื่อฝนตกลงมาก็จะลงคลองเล็กและลงสูคลองระบาย คนในเมืองสามารถทํานาโดยนําน้ําในคลองระบายไปใชในการเพาะปลูกได บริเวณภายในคูเมืองดังกล่าวมีลักษณะเป็นเนินสูงกว่าพื้นที่รอบนอกคูเมือง ชาวบ้านเรียกว่า “โคกจันเสน”
หลังจากป พ.ศ.๑๕๙๓ พบวาเมืองจันเสนถูกทิ้งราง ซึ่งตามขอสันนิษฐานวานาจะเปนสาเหตุมาจากกระแสน้ําเปลี่ยนทิศทาง ทําใหผูคนอพยพไปอยูที่อื่น ทําใหเมืองโบราณจันเสนสมัยทวารวดีถึงแกกาลลมสลาย ซึ่งใน พ.ศ.๑๕๙๓ นี้ เปนชวงตอของสมัยสุโขทัยและอยุธยา เมือง จันเสนไดกลับมาเปนหมูบานอีกครั้งในสมัยอยุธยาตอนตนเพราะมีผูคนเขามาตั้งถิ่นฐานที่จันเสนจนถึงสมัยรัตนโกสินทรไดมีการปรับปรุงกอตั้งเมืองจันเสนใหเจริญรุงเรืองขึ้นจนถึงปจจุบันนี้

ในบริเวณเมืองโบราณได้ขุดพบโบราณวัตถุหลายอย่าง ประเภทที่ทำด้วยเศษดินเผา อาทิ พระพิมพ์ต่าง ๆ ตุ๊กตา ตะเกียง ประเภทที่ทำด้วยหิน ได้แก่ ฐานบัว ธรรมจักร ขวานหินขัดที่ทำด้วยโลหะ มีตุ้มหูทำด้วยตะกั่วหรือดีบุก ใบหอกที่ทำด้วยสำริด ปัจจุบันโบราณวัตถุดังกล่าวเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์จันเสน ซึ่งตั้งอยู่ในวัดจันเสน เริ่มก่อสร้างโดยพระครูนิสัยจริยคุณ หรือที่ชาวยบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อโอด" ได้มีดำริที่จะสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ขึ้นเพื่อให้เป็นศูนย์กลางชุมชน ภายในจัดให้มีส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อใช้แสดงเรื่องราวของจันเสนในอดีต พร้อมกันไปด้วยพระครูนิวิฐธรรมขันธ์หรือหลวงพ่อเจริญ เจ้าอาวาสรูปต่อมาเป็นกำลังสำคัญที่สานต่องานพิพิธภัณฑ์จนเสร็จสมบูรณ์โดยงบประมาณในการก่อสร้างนั้นได้มาจากแรงศรัทธาของประชาชน
จันเสนเมืองโบราณ หลวงพ่อโอด อดีตเจ้าอาวาสวัดจันเสน ซึ่งท่านมรณภาพไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 ท่านเป็นผู้มุ่งมั่นที่จะสร้างมณฑปเจดีย์ขึ้น โดยมีความมุ่งหมายว่า
1. ส่วนยอดของมณฑปเจดีย์จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
2. องค์เรือนธาตุประดิษฐาน "หลวงพ่อนาค" พระพุทธรูปปางนาคปรกที่นำมาจากเมืองลพบุรี เพื่อให้เป็นพระพุทธรูปสำคัญของชุมชน
3. อาคารส่วนฐานของพระมหาเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของท่าน และเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองจันเสน
พระมหาธาตุเจดีย์จันเสน อยู่ในห้องชั้นฐานของพระมหาธาตุเจดีย์ การออกแบบได้ใช้ลักษณะของสถูปในสมัยทวารวดีเป็นพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบ ใช้รายละเอียดของลวดลายทางสถาปัตยกรรมในสมัยทวารวดี ซึ่งมีคำจารึกที่ฐานพระมหาธาตุเจดีย์ศรีจันสน ให้ผู้สนใจได้อ่านประวัติความเป็นมาด้วย เมืองโบราณจันเสน ตั้งอยู่ที่ ตำบลจันเสน อำเภอตาคลี อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ พิพิธภัณฑ์นี้ เปิดให้เข้าชมในวันเสาร์-อาทิตย์ ผู้ที่ต้องการเข้าชมในวันธรรมดา สามารถติดต่อทางวัดให้เปิดเข้าชมได้
นอกจากนี้ในวัดยังมีการรวมกลุ่มของสตรีบ้านจันเสนเพื่อทอผ้าด้วยกี่กระตุก และจัดตั้งเป็นศูนย์จำหน่ายภายในวัดด้วย ผ้าทอส่วนใหญ่เป็นผ้าฝ้าย ผ้าทอมัดหมี่จันเสน และผ้ามัดย้อม
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
2 จันเสนเมืองโบราณสมัยทวาราวดี
เมืองโบราณจันเสนโดยผศ.จิรัฐิเจริญราษฎร
จันเสนเปนแหลงโบราณคดีที่สําคัญแหงลุมแมน้ำเจาพระยาซีกตะวันออกไดมีการขุดคนพบโบราณคดีอยางเป็นระบบที่จันเสนคือการขุดชั้นดินที่สามารถทราบความเปนมาของแหลงโบราณคดีตั้งแตระยะเวลาเริ่มตน รวมทั้งมีการวิเคราะหแบบเครื่องปนดินเผาและโบราณวัตถุพบวาจันเสนคือแหลงชุมชนแหงวัฒนธรรมทวารวดีมีตํานานเลาวาเดิมชื่อ "เมืองสามเสน" เพราะเปนเมืองใหญมีคนอยูสามแสนคนและเสียงเรียกกลายเปนสามเสน จันเสนในที่สุดที่ตั้งเมืองโบราณจันเสนตั้งอยูในตําบลจันเสนอําเภอตาคลีจังหวัดนครสวรรคมีลักษณะเปนรูปสี่เหลี่ยมมุมมนทั้ง ๔ มุมจนดูคลายวงกลมกวาง ๗๐๐ เมตรยาว ๘๐๐ เมตรคิดเปนเนื้อที่ประมาณ ๓๐๐ ไร ภายในคูเมืองมีลักษณะเปนที่เนินสูงกวาพื้นที่รอบนอกคูเมืองคนจึงมักเรียกวาโคกจันเสนบริเวณตอกับคูเมืองออกมาทางดานตะวันออกมีสระหรือบึงขนาดใหญลักษณะไมใชบึงธรรมชาติแตเปนบึงที่มนุษยขุดขึ้น "บึงจันเสน" ลึกมากกวา ๓๐ เมตรยาว ๒๔๐ เมตรเปนเนื้อที่ ๒๕ ไรเปนแหลงเก็บน้ําใชสําหรับคนทั้งเมืองซึ่งสามารถใชไดตลอดปและมีคันดินสําหรับกั้นและรับน้ําจากทางดานตะวันออกเฉียงเหนือมาลงบึงจันเสน "คันคูหนุมาน" สูงประมาณ ๑ เมตรกวางประมาณ ๒๐ เมตรเปนที่นาสังเกตวาคนโบราณในจันเสนฉลาดรูจักการชลประทานระบายน้ําภายในเมืองลงสูคลองเล็กๆที่ขุดขึ้นจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก เมื่อฝนตกลงมาก็จะลงคลองเล็กและลงสูคลองระบายคนในเมืองสามารถทํานาโดยนําน้ําในคลองระบายไปใชในการเพาะปลูกไดบริเวณภายในคูเมืองดังกล่าวมีลักษณะเป็นเนินสูงกว่าพื้นที่รอบนอกคูเมืองชาวบ้านเรียกว่า หลังจากปพ.ศ.๑๕๙๓พบวาเมืองจันเสนถูกทิ้งรางซึ่งตามขอสันนิษฐานวานาจะเปนสาเหตุมาจากกระแสน้ําเปลี่ยนทิศทางทําใหผูคนอพยพไปอยูที่อื่นทําใหเมืองโบราณจันเสนสมัยทวารวดีถึงแกกาลลมสลายซึ่งในพ.ศ๑๕๙๓ นี้เปนชวงตอของสมัยสุโขทัยและอยุธยาเมือง
ในบริเวณเมืองโบราณได้ขุดพบโบราณวัตถุหลายอย่างประเภทที่ทำด้วยเศษดินเผาอาทิพระพิมพ์ต่างๆ ตุ๊กตาตะเกียงประเภทที่ทำด้วยหินได้แก่ฐานบัวธรรมจักรขวานหินขัดที่ทำด้วยโลหะมีตุ้มหูทำด้วยตะกั่วหรือดีบุก ปัจจุบันโบราณวัตถุดังกล่าวเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์จันเสนซึ่งตั้งอยู่ในวัดจันเสนเริ่มก่อสร้างโดยพระครูนิสัยจริยคุณหรือที่ชาวยบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อโอด" ภายในจัดให้มีส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อใช้แสดงเรื่องราวของจันเสนในอดีตพร้อมกันไปด้วยพระครูนิวิฐธรรมขันธ์หรือหลวงพ่อเจริญ
จันเสนเมืองโบราณหลวงพ่อโอดอดีตเจ้าอาวาสวัดจันเสนซึ่งท่านมรณภาพไปตั้งแต่ปีพ.ศ. 2532 ท่านเป็นผู้มุ่งมั่นที่จะสร้างมณฑปเจดีย์ขึ้นโดยมีความมุ่งหมายว่า
1 ส่วนยอดของมณฑปเจดีย์จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
2 องค์เรือนธาตุประดิษฐาน "หลวงพ่อนาค" พระพุทธรูปปางนาคปรกที่นำมาจากเมืองลพบุรีเพื่อให้เป็นพระพุทธรูปสำคัญของชุมชน
3 อาคารส่วนฐานของพระมหาเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของท่านและเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองจันเสน
พระมหาธาตุเจดีย์จันเสนอยู่ในห้องชั้นฐานของพระมหาธาตุเจดีย์การออกแบบได้ใช้ลักษณะของสถูปในสมัยทวารวดีเป็นพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบใช้รายละเอียดของลวดลายทางสถาปัตยกรรมในสมัยทวารวดี ให้ผู้สนใจได้อ่านประวัติความเป็นมาด้วยเมืองโบราณจันเสนตั้งอยู่ที่ตำบลจันเสนอำเภอตาคลีอำเภอแม่วงก์จังหวัดนครสวรรค์พิพิธภัณฑ์นี้เปิดให้เข้าชมในวันเสาร์-อาทิตย์ผู้ที่ต้องการเข้าชมในวันธรรมดา นอกจากนี้ในวัดยังมีการรวมกลุ่มของสตรีบ้านจันเสนเพื่อทอผ้าด้วยกี่กระตุกและจัดตั้งเป็นศูนย์จำหน่ายภายในวัดด้วยผ้าทอส่วนใหญ่เป็นผ้าฝ้ายผ้าทอมัดหมี่จันเสนและผ้ามัดย้อม
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
2 จันเสนเมืองโบราณสมัยทวาราวดี
เมืองโบราณจันเสน โดย ผศ.จิรัฐิ เจริญราษฎร
จันเสน เปนแหลงโบราณคดีที่สําคัญแหงลุมแมน้ำเจาพระยาซีกตะวันออก ไดมีการขุดคนพบโบราณคดีอยางเป็นระบบที่จันเสน คือการขุดชั้นดินที่สามารถทราบความเปนมาของแหลงโบราณคดีตั้งแตระยะเวลาเริ่มตน จนถึงเวลาสิ้นสุด รวมทั้งมีการวิเคราะหแบบเครื่องปนดินเผาและโบราณวัตถุ พบวาจันเสนคือแหลงชุมชนแหงวัฒนธรรมทวารวดี มีตํานานเลาวา เดิมชื่อ “เมืองสามเสน” เพราะเปนเมืองใหญมีคนอยูสามแสนคน และเสียงเรียกกลายเปน สามเสน และกลายเปน จันเสนในที่สุด ที่ตั้งเมืองโบราณจันเสน ตั้งอยูในตําบลจันเสน อําเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค มีลักษณะเปนรูปสี่เหลี่ยมมุมมนทั้ง ๔ มุม จนดูคลายวงกลม กวาง ๗๐๐ เมตร ยาว ๘๐๐ เมตร คิดเปนเนื้อที่ประมาณ ๓๐๐ ไร ลอมรอบดวยคูเมือง ภายในคูเมืองมีลักษณะเปนที่เนินสูงกวาพื้นที่รอบนอกคูเมือง คนจึงมักเรียกวา โคกจันเสน บริเวณตอกับคูเมืองออกมาทางดานตะวันออกมีสระหรือบึงขนาดใหญ ลักษณะไมใชบึงธรรมชาติ แตเปนบึงที่มนุษยขุดขึ้น เรียกวา “บึงจันเสน” ลึกมากกวา ๓๐ เมตร ยาว ๒๔๐ เมตร เปนเนื้อที่ ๒๕ ไร เปนแหลงเก็บน้ําใชสําหรับคนทั้งเมือง ซึ่งสามารถใชไดตลอดป และมีคันดินสําหรับกั้นและรับน้ําจากทางดานตะวันออกเฉียงเหนือมาลงบึงจันเสน ทางคันบึงดานใตของเมืองจันเสนมีคันถนนโบราณเรียกวา “คันคูหนุมาน” สูงประมาณ ๑ เมตร กวางประมาณ ๒๐ เมตร เปนที่นาสังเกตวา คนโบราณในจันเสนฉลาดรูจักการชลประทานระบายน้ําภายในเมืองลงสูคลองเล็กๆที่ขุดขึ้นจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก และขุดคลองระบายตัดผานคลองเล็ก เมื่อฝนตกลงมาก็จะลงคลองเล็กและลงสูคลองระบาย คนในเมืองสามารถทํานาโดยนําน้ําในคลองระบายไปใชในการเพาะปลูกได บริเวณภายในคูเมืองดังกล่าวมีลักษณะเป็นเนินสูงกว่าพื้นที่รอบนอกคูเมือง ชาวบ้านเรียกว่า “โคกจันเสน”
หลังจากป พ.ศ.๑๕๙๓ พบวาเมืองจันเสนถูกทิ้งราง ซึ่งตามขอสันนิษฐานวานาจะเปนสาเหตุมาจากกระแสน้ําเปลี่ยนทิศทาง ทําใหผูคนอพยพไปอยูที่อื่น ทําใหเมืองโบราณจันเสนสมัยทวารวดีถึงแกกาลลมสลาย ซึ่งใน พ.ศ.๑๕๙๓ นี้ เปนชวงตอของสมัยสุโขทัยและอยุธยา เมือง จันเสนไดกลับมาเปนหมูบานอีกครั้งในสมัยอยุธยาตอนตนเพราะมีผูคนเขามาตั้งถิ่นฐานที่จันเสนจนถึงสมัยรัตนโกสินทรไดมีการปรับปรุงกอตั้งเมืองจันเสนใหเจริญรุงเรืองขึ้นจนถึงปจจุบันนี้

ในบริเวณเมืองโบราณได้ขุดพบโบราณวัตถุหลายอย่าง ประเภทที่ทำด้วยเศษดินเผา อาทิ พระพิมพ์ต่าง ๆ ตุ๊กตา ตะเกียง ประเภทที่ทำด้วยหิน ได้แก่ ฐานบัว ธรรมจักร ขวานหินขัดที่ทำด้วยโลหะ มีตุ้มหูทำด้วยตะกั่วหรือดีบุก ใบหอกที่ทำด้วยสำริด ปัจจุบันโบราณวัตถุดังกล่าวเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์จันเสน ซึ่งตั้งอยู่ในวัดจันเสน เริ่มก่อสร้างโดยพระครูนิสัยจริยคุณ หรือที่ชาวยบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อโอด" ได้มีดำริที่จะสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ขึ้นเพื่อให้เป็นศูนย์กลางชุมชน ภายในจัดให้มีส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อใช้แสดงเรื่องราวของจันเสนในอดีต พร้อมกันไปด้วยพระครูนิวิฐธรรมขันธ์หรือหลวงพ่อเจริญ เจ้าอาวาสรูปต่อมาเป็นกำลังสำคัญที่สานต่องานพิพิธภัณฑ์จนเสร็จสมบูรณ์โดยงบประมาณในการก่อสร้างนั้นได้มาจากแรงศรัทธาของประชาชน
จันเสนเมืองโบราณ หลวงพ่อโอด อดีตเจ้าอาวาสวัดจันเสน ซึ่งท่านมรณภาพไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 ท่านเป็นผู้มุ่งมั่นที่จะสร้างมณฑปเจดีย์ขึ้น โดยมีความมุ่งหมายว่า
1. ส่วนยอดของมณฑปเจดีย์จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
2. องค์เรือนธาตุประดิษฐาน "หลวงพ่อนาค" พระพุทธรูปปางนาคปรกที่นำมาจากเมืองลพบุรี เพื่อให้เป็นพระพุทธรูปสำคัญของชุมชน
3. อาคารส่วนฐานของพระมหาเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของท่าน และเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองจันเสน
พระมหาธาตุเจดีย์จันเสน อยู่ในห้องชั้นฐานของพระมหาธาตุเจดีย์ การออกแบบได้ใช้ลักษณะของสถูปในสมัยทวารวดีเป็นพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบ ใช้รายละเอียดของลวดลายทางสถาปัตยกรรมในสมัยทวารวดี ซึ่งมีคำจารึกที่ฐานพระมหาธาตุเจดีย์ศรีจันสน ให้ผู้สนใจได้อ่านประวัติความเป็นมาด้วย เมืองโบราณจันเสน ตั้งอยู่ที่ ตำบลจันเสน อำเภอตาคลี อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ พิพิธภัณฑ์นี้ เปิดให้เข้าชมในวันเสาร์-อาทิตย์ ผู้ที่ต้องการเข้าชมในวันธรรมดา สามารถติดต่อทางวัดให้เปิดเข้าชมได้
นอกจากนี้ในวัดยังมีการรวมกลุ่มของสตรีบ้านจันเสนเพื่อทอผ้าด้วยกี่กระตุก และจัดตั้งเป็นศูนย์จำหน่ายภายในวัดด้วย ผ้าทอส่วนใหญ่เป็นผ้าฝ้าย ผ้าทอมัดหมี่จันเสน และผ้ามัดย้อม
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
2 จันเสนเมืองโบราณสมัยทวาราวดี
เมืองโบราณจันเสนโดยผศจิรัฐิเจริญราษฎร
.จันเสนเปนแหลงโบราณคดีที่สําคัญแหงลุมแมน้ำเจาพระยาซีกตะวันออกไดมีการขุดคนพบโบราณคดีอยางเป็นระบบที่จันเสนคือการขุดชั้นดินที่สามารถทราบความเปนมาของแหลงโบราณคดีตั้งแตระยะเวลาเริ่มตนรวมทั้งมีการวิเคราะหแบบเครื่องปนดินเผาและโบราณวัตถุพบวาจันเสนคือแหลงชุมชนแหงวัฒนธรรมทวารวดีมีตํานานเลาวาเดิมชื่อ " เมืองสามเสน " เพราะเปนเมืองใหญมีคนอยูสามแสนคนและเสียงเรียกกลายเปนสามเสนจันเสนในที่สุดที่ตั้งเมืองโบราณจันเสนตั้งอยูในตําบลจันเสนอําเภอตาคลีจังหวัดนครสวรรคมีลักษณะเปนรูปสี่เหลี่ยมมุมมนทั้งโตเกียวมุมจนดูคลายวงกลมกวาง๗๐๐เมตรยาว๘๐๐เมตรคิดเปนเนื้อที่ประมาณ๓๐๐ไรภายในคูเมืองมีลักษณะเปนที่เนินสูงกวาพื้นที่รอบนอกคูเมืองคนจึงมักเรียกวาโคกจันเสนบริเวณตอกับคูเมืองออกมาทางดานตะวันออกมีสระหรือบึงขนาดใหญลักษณะไมใชบึงธรรมชาติแตเปนบึงที่มนุษยขุดขึ้น" บึงจันเสน " ลึกมากกวา๓๐เมตรยาว๒๔๐เมตรเปนเนื้อที่๒๕ไรเปนแหลงเก็บน้ําใชสําหรับคนทั้งเมืองซึ่งสามารถใชไดตลอดปและมีคันดินสําหรับกั้นและรับน้ําจากทางดานตะวันออกเฉียงเหนือมาลงบึงจันเสน" คันคูหนุมาน " สูงประมาณ๑เมตรกวางประมาณ๒๐เมตรเปนที่นาสังเกตวาคนโบราณในจันเสนฉลาดรูจักการชลประทานระบายน้ําภายในเมืองลงสูคลองเล็กๆที่ขุดขึ้นจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตกเมื่อฝนตกลงมาก็จะลงคลองเล็กและลงสูคลองระบายคนในเมืองสามารถทํานาโดยนําน้ําในคลองระบายไปใชในการเพาะปลูกไดบริเวณภายในคูเมืองดังกล่าวมีลักษณะเป็นเนินสูงกว่าพื้นที่รอบนอกคูเมืองชาวบ้านเรียกว่าหลังจากปพ . ศ . ๑๕๙๓พบวาเมืองจันเสนถูกทิ้งรางซึ่งตามขอสันนิษฐานวานาจะเปนสาเหตุมาจากกระแสน้ําเปลี่ยนทิศทางทําใหผูคนอพยพไปอยูที่อื่นทําใหเมืองโบราณจันเสนสมัยทวารวดีถึงแกกาลลมสลายซึ่งในพ . ศ .๑๕๙๓นี้เปนชวงตอของสมัยสุโขทัยและอยุธยาเมือง
ในบริเวณเมืองโบราณได้ขุดพบโบราณวัตถุหลายอย่างประเภทที่ทำด้วยเศษดินเผาอาทิพระพิมพ์ต่างจะตุ๊กตาตะเกียงประเภทที่ทำด้วยหินได้แก่ฐานบัวธรรมจักรขวานหินขัดที่ทำด้วยโลหะมีตุ้มหูทำด้วยตะกั่วหรือดีบุกปัจจุบันโบราณวัตถุดังกล่าวเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์จันเสนซึ่งตั้งอยู่ในวัดจันเสนเริ่มก่อสร้างโดยพระครูนิสัยจริยคุณหรือที่ชาวยบ้านเรียกว่า " หลวงพ่อโอด "ภายในจัดให้มีส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อใช้แสดงเรื่องราวของจันเสนในอดีตพร้อมกันไปด้วยพระครูนิวิฐธรรมขันธ์หรือหลวงพ่อเจริญ
จันเสนเมืองโบราณหลวงพ่อโอดอดีตเจ้าอาวาสวัดจันเสนซึ่งท่านมรณภาพไปตั้งแต่ปีพ . ศ . 2532 ท่านเป็นผู้มุ่งมั่นที่จะสร้างมณฑปเจดีย์ขึ้นโดยมีความมุ่งหมายว่า
1 ส่วนยอดของมณฑปเจดีย์จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
2องค์เรือนธาตุประดิษฐาน " หลวงพ่อนาค " พระพุทธรูปปางนาคปรกที่นำมาจากเมืองลพบุรีเพื่อให้เป็นพระพุทธรูปสำคัญของชุมชน
3 อาคารส่วนฐานของพระมหาเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของท่านและเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองจันเสน
พระมหาธาตุเจดีย์จันเสนอยู่ในห้องชั้นฐานของพระมหาธาตุเจดีย์การออกแบบได้ใช้ลักษณะของสถูปในสมัยทวารวดีเป็นพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบใช้รายละเอียดของลวดลายทางสถาปัตยกรรมในสมัยทวารวดีให้ผู้สนใจได้อ่านประวัติความเป็นมาด้วยเมืองโบราณจันเสนตั้งอยู่ที่ตำบลจันเสนอำเภอตาคลีอำเภอแม่วงก์จังหวัดนครสวรรค์พิพิธภัณฑ์นี้เปิดให้เข้าชมในวันเสาร์ - อาทิตย์ผู้ที่ต้องการเข้าชมในวันธรรมดานอกจากนี้ในวัดยังมีการรวมกลุ่มของสตรีบ้านจันเสนเพื่อทอผ้าด้วยกี่กระตุกและจัดตั้งเป็นศูนย์จำหน่ายภายในวัดด้วยผ้าทอส่วนใหญ่เป็นผ้าฝ้ายผ้าทอมัดหมี่จันเสนและผ้ามัดย้อม
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: