2 จันเสนเมืองโบราณสมัยทวาราวดี
เมืองโบราณจันเสน โดย ผศ.จิรัฐิ เจริญราษฎร
จันเสน เปนแหลงโบราณคดีที่สําคัญแหงลุมแมน้ำเจาพระยาซีกตะวันออก ไดมีการขุดคนพบโบราณคดีอยางเป็นระบบที่จันเสน คือการขุดชั้นดินที่สามารถทราบความเปนมาของแหลงโบราณคดีตั้งแตระยะเวลาเริ่มตน จนถึงเวลาสิ้นสุด รวมทั้งมีการวิเคราะหแบบเครื่องปนดินเผาและโบราณวัตถุ พบวาจันเสนคือแหลงชุมชนแหงวัฒนธรรมทวารวดี มีตํานานเลาวา เดิมชื่อ “เมืองสามเสน” เพราะเปนเมืองใหญมีคนอยูสามแสนคน และเสียงเรียกกลายเปน สามเสน และกลายเปน จันเสนในที่สุด ที่ตั้งเมืองโบราณจันเสน ตั้งอยูในตําบลจันเสน อําเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค มีลักษณะเปนรูปสี่เหลี่ยมมุมมนทั้ง ๔ มุม จนดูคลายวงกลม กวาง ๗๐๐ เมตร ยาว ๘๐๐ เมตร คิดเปนเนื้อที่ประมาณ ๓๐๐ ไร ลอมรอบดวยคูเมือง ภายในคูเมืองมีลักษณะเปนที่เนินสูงกวาพื้นที่รอบนอกคูเมือง คนจึงมักเรียกวา โคกจันเสน บริเวณตอกับคูเมืองออกมาทางดานตะวันออกมีสระหรือบึงขนาดใหญ ลักษณะไมใชบึงธรรมชาติ แตเปนบึงที่มนุษยขุดขึ้น เรียกวา “บึงจันเสน” ลึกมากกวา ๓๐ เมตร ยาว ๒๔๐ เมตร เปนเนื้อที่ ๒๕ ไร เปนแหลงเก็บน้ําใชสําหรับคนทั้งเมือง ซึ่งสามารถใชไดตลอดป และมีคันดินสําหรับกั้นและรับน้ําจากทางดานตะวันออกเฉียงเหนือมาลงบึงจันเสน ทางคันบึงดานใตของเมืองจันเสนมีคันถนนโบราณเรียกวา “คันคูหนุมาน” สูงประมาณ ๑ เมตร กวางประมาณ ๒๐ เมตร เปนที่นาสังเกตวา คนโบราณในจันเสนฉลาดรูจักการชลประทานระบายน้ําภายในเมืองลงสูคลองเล็กๆที่ขุดขึ้นจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก และขุดคลองระบายตัดผานคลองเล็ก เมื่อฝนตกลงมาก็จะลงคลองเล็กและลงสูคลองระบาย คนในเมืองสามารถทํานาโดยนําน้ําในคลองระบายไปใชในการเพาะปลูกได บริเวณภายในคูเมืองดังกล่าวมีลักษณะเป็นเนินสูงกว่าพื้นที่รอบนอกคูเมือง ชาวบ้านเรียกว่า “โคกจันเสน”
หลังจากป พ.ศ.๑๕๙๓ พบวาเมืองจันเสนถูกทิ้งราง ซึ่งตามขอสันนิษฐานวานาจะเปนสาเหตุมาจากกระแสน้ําเปลี่ยนทิศทาง ทําใหผูคนอพยพไปอยูที่อื่น ทําใหเมืองโบราณจันเสนสมัยทวารวดีถึงแกกาลลมสลาย ซึ่งใน พ.ศ.๑๕๙๓ นี้ เปนชวงตอของสมัยสุโขทัยและอยุธยา เมือง จันเสนไดกลับมาเปนหมูบานอีกครั้งในสมัยอยุธยาตอนตนเพราะมีผูคนเขามาตั้งถิ่นฐานที่จันเสนจนถึงสมัยรัตนโกสินทรไดมีการปรับปรุงกอตั้งเมืองจันเสนใหเจริญรุงเรืองขึ้นจนถึงปจจุบันนี้
ในบริเวณเมืองโบราณได้ขุดพบโบราณวัตถุหลายอย่าง ประเภทที่ทำด้วยเศษดินเผา อาทิ พระพิมพ์ต่าง ๆ ตุ๊กตา ตะเกียง ประเภทที่ทำด้วยหิน ได้แก่ ฐานบัว ธรรมจักร ขวานหินขัดที่ทำด้วยโลหะ มีตุ้มหูทำด้วยตะกั่วหรือดีบุก ใบหอกที่ทำด้วยสำริด ปัจจุบันโบราณวัตถุดังกล่าวเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑ์จันเสน ซึ่งตั้งอยู่ในวัดจันเสน เริ่มก่อสร้างโดยพระครูนิสัยจริยคุณ หรือที่ชาวยบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อโอด" ได้มีดำริที่จะสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ขึ้นเพื่อให้เป็นศูนย์กลางชุมชน ภายในจัดให้มีส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อใช้แสดงเรื่องราวของจันเสนในอดีต พร้อมกันไปด้วยพระครูนิวิฐธรรมขันธ์หรือหลวงพ่อเจริญ เจ้าอาวาสรูปต่อมาเป็นกำลังสำคัญที่สานต่องานพิพิธภัณฑ์จนเสร็จสมบูรณ์โดยงบประมาณในการก่อสร้างนั้นได้มาจากแรงศรัทธาของประชาชน
จันเสนเมืองโบราณ หลวงพ่อโอด อดีตเจ้าอาวาสวัดจันเสน ซึ่งท่านมรณภาพไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2532 ท่านเป็นผู้มุ่งมั่นที่จะสร้างมณฑปเจดีย์ขึ้น โดยมีความมุ่งหมายว่า
1. ส่วนยอดของมณฑปเจดีย์จะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
2. องค์เรือนธาตุประดิษฐาน "หลวงพ่อนาค" พระพุทธรูปปางนาคปรกที่นำมาจากเมืองลพบุรี เพื่อให้เป็นพระพุทธรูปสำคัญของชุมชน
3. อาคารส่วนฐานของพระมหาเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานรูปปั้นของท่าน และเป็นพิพิธภัณฑ์เมืองจันเสน
พระมหาธาตุเจดีย์จันเสน อยู่ในห้องชั้นฐานของพระมหาธาตุเจดีย์ การออกแบบได้ใช้ลักษณะของสถูปในสมัยทวารวดีเป็นพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบ ใช้รายละเอียดของลวดลายทางสถาปัตยกรรมในสมัยทวารวดี ซึ่งมีคำจารึกที่ฐานพระมหาธาตุเจดีย์ศรีจันสน ให้ผู้สนใจได้อ่านประวัติความเป็นมาด้วย เมืองโบราณจันเสน ตั้งอยู่ที่ ตำบลจันเสน อำเภอตาคลี อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ พิพิธภัณฑ์นี้ เปิดให้เข้าชมในวันเสาร์-อาทิตย์ ผู้ที่ต้องการเข้าชมในวันธรรมดา สามารถติดต่อทางวัดให้เปิดเข้าชมได้
นอกจากนี้ในวัดยังมีการรวมกลุ่มของสตรีบ้านจันเสนเพื่อทอผ้าด้วยกี่กระตุก และจัดตั้งเป็นศูนย์จำหน่ายภายในวัดด้วย ผ้าทอส่วนใหญ่เป็นผ้าฝ้าย ผ้าทอมัดหมี่จันเสน และผ้ามัดย้อม