The relationship between alcohol co

The relationship between alcohol consumption and cardiovascular fatal or non-fatal
events or all-cause mortality in healthy people has been depicted as a J-shaped curve
attributed to a dose-related combination of beneficial and harmful effects (Di Castelnuovo
et al., 2002, 2006). Moderate alcohol consumption by apparently healthy
people is associated with lower vascular morbidity, mortality and incidence of type 2
diabetes. Mechanisms supporting this association include increased high-density
cholesterol and fibrinolysis, decreased platelet aggregation and coagulation factors,
and beneficial effects on endothelial function, inflammation and insulin resistance.
These mechanisms could be similarly effective in patients with a history of cardiovascular
disease (CVD) or at high risk for vascular events, such as hypertensive (HTN)
and diabetic (T2DM) patients, but observational studies in these patients have been
inconclusive (Costanzo et al., 2010a). In a recent meta-analysis that examined the relationship between alcohol consumption and cardiovascular and total mortality in
patients with CVD, a reduction in both mortality risks in moderate drinkers was
reported (Costanzo et al., 2010b). These findings were extended by two new metaanalyses
aimed at assessing the relationship of alcohol drinking with vascular and
total mortality in a larger series of patients, including not only patients with a
history of CVD but also diabetic and hypertensive patients.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความสัมพันธ์ ระหว่างแอลกอฮอล์ และหัวใจร้ายแรง หรือไม่ร้ายแรงเหตุการณ์หรือการตายทุกสาเหตุในคนสุขภาพดีมีการแสดงเป็นเส้นโค้งรูปตัว Jเกิดจากการรวมกันที่เกี่ยวข้องกับปริมาณของผลประโยชน์ และเป็นอันตราย (Di Castelnuovoet al. 2002, 2006) ควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยเห็นได้ชัดว่ามีสุขภาพดีคนเกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยที่หลอดเลือดต่ำ ตาย และอุบัติการณ์ชนิด 2โรคเบาหวาน กลไกการสนับสนุนความสัมพันธ์นี้รวมถึงเพิ่มความหนาแน่นสูงไขมัน และละลายลิ่มเลือด เกล็ดเลือดลดลงการรวมตัวและแข็งตัว ปัจจัยและผลประโยชน์ในการพัฒนาการทำงาน อักเสบ และอินซูลินต้านทานกลไกเหล่านี้อาจจะมีผลในทำนองเดียวกันในผู้ป่วยที่มีประวัติหลอดเลือดหัวใจโรค หรือความเสี่ยงสูงสำหรับเหตุการณ์ หลอดเลือดเช่นความดันโลหิตสูง (HTN)และผู้ป่วยเบาหวาน (T2DM) แต่การศึกษาเชิงสังเกตการณ์ในผู้ป่วยเหล่านี้ได้สรุปไม่ได้ (Costanzo et al. 2010a) ใน meta-analysis ล่า ที่ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการตายที่หัวใจ และรวมในผู้ป่วยที่ มี CVD การลดความเสี่ยงตายทั้งผู้ดื่มปานกลางได้รายงาน (Costanzo et al. 2010b) ผลการวิจัยเหล่านี้ถูกขยาย โดย metaanalyses ใหม่สองมุ่งประเมินความสัมพันธ์ของแอลกอฮอล์ที่ดื่มกับหลอดเลือด และรวมในชุดใหญ่ของผู้ป่วย รวมถึงไม่เพียงแต่ผู้ป่วยที่มีการประวัติของ CVD แต่ผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรงโรคหัวใจและหลอดเลือด
เหตุการณ์หรือทุกสาเหตุการตายในคนที่มีสุขภาพที่ได้รับการวาดเป็นเส้นโค้งรูปตัว J
มาประกอบกับการรวมกันปริมาณที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์และเป็นอันตราย (Di Castelnuovo
, et al., 2002 2006) บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระดับปานกลางโดยมีสุขภาพดีเห็นได้ชัดว่า
คนที่มีความเกี่ยวข้องกับหลอดเลือดที่ต่ำกว่าการเจ็บป่วยและการตายของอุบัติการณ์ของชนิดที่ 2
โรคเบาหวาน กลไกสนับสนุนการเชื่อมโยงนี้รวมถึงการเพิ่มขึ้นมีความหนาแน่นสูง
คอเลสเตอรอลและการละลายลิ่มเลือดลดลงเกล็ดเลือดและการแข็งตัวของปัจจัย
และผลกระทบที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของหลอดเลือดอักเสบและความต้านทานต่ออินซูลิน.
กลไกเหล่านี้อาจจะมีประสิทธิภาพในทำนองเดียวกันในผู้ป่วยที่มีประวัติของโรคหัวใจและหลอดเลือด
โรค (CVD) หรือ ที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับการจัดกิจกรรมของหลอดเลือดเช่นความดันโลหิตสูง (ดันโลหิตสูง)
และโรคเบาหวาน (T2DM) ผู้ป่วย แต่การศึกษาการสังเกตการณ์ในผู้ป่วยเหล่านี้ได้รับ
การพิสูจน์ไม่ได้ (Costanzo et al., 2010A) ในล่าสุด meta-analysis ที่ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการตายของหัวใจและหลอดเลือดและรวมใน
ผู้ป่วยที่มีโรคหลอดเลือดสมองตีบในการลดความเสี่ยงการเสียชีวิตทั้งในระดับปานกลางดื่มได้รับการ
รายงาน (Costanzo et al., 2010b) การค้นพบนี้กำลังขยายสอง metaanalyses ใหม่
มุ่งเป้าไปที่การประเมินความสัมพันธ์ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดื่มกับหลอดเลือดและ
เสียชีวิตโดยรวมในซีรีส์ที่มีขนาดใหญ่ของผู้ป่วยรวมทั้งผู้ป่วยที่ไม่เพียง แต่มี
ประวัติศาสตร์ของซีวีดี แต่ผู้ป่วยยังเป็นโรคเบาหวานความดันโลหิตสูงและ