Functionalist paradigm (objective -

Functionalist paradigm (objective - regulation)
This is the dominant paradigm for organizational study. It seeks to provide rational explanations of human affairs. It's pragmatic and deeply rooten in sociological positivism. Relationships are concrete and can be identified studied and measured via science. This paradigm has been mildly influenced by idealist and Marxist thought too.

Interpretive Paradigm (subjective-regulation)
It seeks to explain the stability of behavior from the individual's viewpoint. They are most interested in understanding the subjectively created world "as it is" in terms of ongoing processes. It emphasizes the spiritual nature of the world. Philosophers like Kant formed it's basis, and Weber, Husserl, and Schutz furthered the ideology. This paradigm has'nt generated much organizational theory.

Radical Humanist (subjective-radical change)
In this view the consciousness of man is dominated by the ideological superstructures with which he interacts, and these drive a cognitive wedge between himself and his true consciousness, which prevents human fulfilment. These theorists are mainly concerned with releasing ths social constraints that bind potential. It's philosophers are Kant and Hegel and young Marx. It was carried on int the 20's at the Frankfurt School, and in French existentialism. Most of this paradigm is actually anti-organization.

Radical Structuralist (objective - radical change)
They believe that radical change is built into the nature of societal structures. "Contemporary society is characterized by fundamental conflicts which generate radical change through political and economic crises. It is based on mature Marx, followed by Engles, Lenin and Bukharin. It has recieved little attention in the US outside of conflict theory.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลงานกระบวนทัศน์ (วัตถุประสงค์ - ข้อบังคับ)นี้เป็นกระบวนทัศน์หลักสำหรับองค์กรการศึกษา จึงพยายามให้คำอธิบายเหตุผลของฝ่ายมนุษย์ มันของ pragmatic และลึก rooten ใน positivism สังคมวิทยา ความสัมพันธ์เป็นคอนกรีต และสามารถระบุศึกษา และการวัดทางวิทยาศาสตร์ กระบวนทัศน์นี้มีถูก mildly อิทธิพล โดย idealist และ Marxist คิดว่า เกินไป กระบวนทัศน์ interpretive (ตามอัตวิสัยของระเบียบ)มันพยายามอธิบายความมั่นคงของการทำงานจากมุมมองของแต่ละบุคคล พวกเขามีความสนใจมากที่สุดเข้าใจโลก subjectively สร้าง "ก็" ในกระบวนการอย่างต่อเนื่อง มันเน้นธรรมชาติจิตวิญญาณของโลก นักปรัชญาเช่น Kant รูปแบบพื้นฐานของมัน และเวเบอร์ Husserl และ Schutz furthered อุดมการณ์ Has'nt นี้กระบวนทัศน์ทฤษฎีองค์กรมากขึ้น รุนแรง Humanist (เปลี่ยนแปลงตามอัตวิสัยรัศมี)ในมุมมองนี้จิตสำนึกของมนุษย์ที่ถูกครอบงำ ด้วย superstructures อุดมการณ์ที่เขาโต้ตอบ และอุปกรณ์รับรู้เหล่านี้ไดรฟ์ระหว่างตัวเองและสติของเขาเป็นจริง ซึ่งทำให้มนุษย์ปฏิบัติตามพันธกรณี Theorists เหล่านี้ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับปล่อย ths ข้อจำกัดทางสังคมที่ผูกศักยภาพได้ ปรัชญามันเป็น Kant และ Hegel และ Marx หนุ่ม มันทำบน int 20's การ ที่แฟรงค์เฟิร์ต และอัตถิภาวนิยมฝรั่งเศส ส่วนใหญ่ของกระบวนทัศน์นี้เป็นจริงป้องกันองค์กร รุนแรง Structuralist (วัตถุประสงค์ - การเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง)พวกเขาเชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงอยู่ในลักษณะของโครงสร้างนิยม "สังคมร่วมสมัยมีลักษณะ โดยความขัดแย้งพื้นฐานที่สร้างการเปลี่ยนแปลงรุนแรงผ่านวิกฤตทางการเมือง และเศรษฐกิจ มันจะขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ Marx ตาม Engles เลนินและ Bukharin มันได้รับความสนใจน้อยในสหรัฐฯ นอกทฤษฎีขัดแย้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กระบวนทัศน์ functionalist (วัตถุประสงค์ - การควบคุม)
ซึ่งเป็นกระบวนทัศน์ที่โดดเด่นสำหรับการศึกษาขององค์กร มันพยายามที่จะให้คำอธิบายเหตุผลของกิจกรรมของมนุษย์ มันเป็นในทางปฏิบัติและลึก rooten ใน positivism สังคมวิทยา ความสัมพันธ์เป็นรูปธรรมและสามารถระบุได้ศึกษาและวัดทางวิทยาศาสตร์ กระบวนทัศน์นี้ได้รับอิทธิพลอย่างอ่อนโยนโดยอุดมการณ์และมาร์กซ์คิดว่าเกินไป. แปลกระบวนทัศน์ (อัตนัยระเบียบ) มันพยายามที่จะอธิบายความมั่นคงของพฤติกรรมจากมุมมองของแต่ละคน พวกเขามีความสนใจมากที่สุดในการทำความเข้าใจโลกสร้างจิตใจ "มันคือ" ในแง่ของกระบวนการอย่างต่อเนื่อง โดยจะเน้นลักษณะทางจิตวิญญาณของโลก นักปรัชญาเช่นคานท์เป็นพื้นฐานของมันและเวเบอร์ Husserl และ Schutz เลื่องลือกระฉ่อนอุดมการณ์ กระบวนทัศน์นี้ has'nt สร้างทฤษฎีขององค์กรมาก. หัวรุนแรงมนุษยนิยม (เปลี่ยนอัตนัยรุนแรง) ในมุมมองของจิตสำนึกของคนนี้ถูกครอบงำด้วย superstructures อุดมการณ์ที่เขามีปฏิสัมพันธ์และเหล่านี้ตอกลิ่มความรู้ความเข้าใจระหว่างตัวเขาและมีจิตสำนึกที่แท้จริงของเขาซึ่ง ป้องกันไม่ให้ปฏิบัติตามมนุษย์ ทฤษฎีเหล่านี้เป็นส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการปล่อย ths ข้อ จำกัด ทางสังคมที่ผูกพันที่อาจเกิดขึ้น มันเป็นปรัชญาของคานท์และ Hegel และหนุ่มมาร์กซ์ มันได้รับการดำเนินการเกี่ยวกับ int 20 ที่โรงเรียนแฟรงค์เฟิร์ตและในอัตถิภาวนิยมฝรั่งเศส ส่วนใหญ่ของกระบวนทัศน์นี้เป็นจริงการต่อต้านองค์กร. หัวรุนแรงไวยากรณ์โครงสร้าง (วัตถุประสงค์ - เปลี่ยนแปลง) พวกเขาเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงถูกสร้างขึ้นในลักษณะของโครงสร้างทางสังคม "สังคมร่วมสมัยที่โดดเด่นด้วยความขัดแย้งพื้นฐานที่สร้างความเปลี่ยนแปลงผ่านวิกฤตทางการเมืองและเศรษฐกิจ. มันขึ้นอยู่กับมาร์กซ์เป็นผู้ใหญ่ตาม Engles, เลนินและ Bukharin. จะได้รับความสนใจน้อยในสหรัฐอเมริกาด้านนอกของทฤษฎีความขัดแย้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กระบวนทัศน์คติคำนึงประโยชน์ ( วัตถุประสงค์ - ระเบียบ )
นี่คือกระบวนทัศน์เด่นสำหรับการศึกษาขององค์การ มันพยายามที่จะให้เหตุผล คำอธิบายของฝ่ายมนุษย์ . มันจริงจังและลึกซึ้ง rooten ในปฏิฐานนิยมเชิงสังคมวิทยา ความสัมพันธ์ที่เป็นรูปธรรมและสามารถระบุได้ศึกษาและวัดผ่านวิทยาศาสตร์ กระบวนทัศน์นี้ได้รับอิทธิพลจากอุดมการณ์และความคิดมาร์กซ์อย่างอ่อนโยนด้วย

กระบวนทัศน์เชิงตีความ ( ระเบียบอัตนัย )
มันพยายามอธิบายพฤติกรรมของบุคคลจากเสถียรภาพของวัตถุ พวกเขามีความสนใจมากที่สุดในการทำความเข้าใจอย่างสร้างโลก " มี " ในแง่ของกระบวนการอย่างต่อเนื่อง มันเน้นธรรมชาติจิตวิญญาณของโลก นักปรัชญาเช่น Kant เกิดขึ้นมันเป็นพื้นฐาน และ เวเบอร์ ฮุลเซิร์ล และส่วนที่มีอุดมการณ์ .นี้ has'nt สร้างกระบวนทัศน์ทฤษฎีองค์การหัวรุนแรงนิส

( เปลี่ยนรากอัตนัย )
ในมุมมองนี้ จิตสำนึกของมนุษย์ถูกครอบงำด้วยอุดมการณ์ superstructures ที่เขาโต้ตอบและเหล่านี้ไดรฟ์ลิ่มระหว่างตัวเองและมีสติปัญญาที่แท้จริงของเขา ซึ่งจะช่วยป้องกันการตอบสนองของมนุษย์นักทฤษฎีเหล่านี้ส่วนใหญ่มีความกังวลกับการปล่อยหน้าสังคมข้อจำกัดที่มัดที่มีศักยภาพ เป็นนักปรัชญาและมีเฮเกิล และหนุ่ม คานท์ มาร์ค เป็นดำเนินการบน int 20 ' ที่โรงเรียนแฟรงค์เฟิร์ตและอัตถิภาวนิยมฝรั่งเศส ที่สุดของกระบวนทัศน์นี้เป็นจริงต่อต้านองค์กร

( มีรากสาเหตุ - การเปลี่ยนแปลง )
พวกเขาเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงที่ถูกสร้างขึ้นในลักษณะของโครงสร้างทางสังคม” สังคมร่วมสมัยมีลักษณะพื้นฐานความขัดแย้งที่สร้างการเปลี่ยนแปลงผ่านวิกฤตทางการเมืองและเศรษฐกิจ มันขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ มาร์กซ์ , ตามด้วย engles เลนิน และบุคาริน . มันได้รับความสนใจน้อยในสหรัฐอเมริกานอก
ทฤษฎีความขัดแย้ง