INTRODUCTION Learning to read is a

INTRODUCTION
Learning to read is a complex process that involves a variety of skills and abilities. Children must bring their existing knowledge and experiences to bear on the task of learning to read which, for most children, begins in earnest with the introduction of formal in- struction in grade 1. Learning to read is related to children's phonological awareness (Lonigan, Burgess, & Anthony, 2000; Wagner et al., 1997), to their knowl- edge of letters (Ehri, 1998; Evans, Shaw, & Bell, 2000; Wagner et al., 1997), to their knowledge about the functions of print (Purcell-Gates, 1996), and to their language skills (Share, Jorm, Maclean, & Mathews, 1984; Wagner et al., 1997). It is of particular interest to document how and where children acquire these early skills, because existing evidence suggests that early individual differences in these skills are relatively stable from kindergarten onward (Bryant, Maclean, Bradley, & Crossland, 1990; Butler, Marsh, Sheppard, & Sheppard, 1985; Lonigan et al., 2000; Scarborough, Dobrich, & Hager, 1991; Tunmer, Herriman, & Nesdale, 1988; Wagner et al., 1997; see also the review by Scar- borough, 1998). Presumably, some of these skills are ac- quired through specific experiences at home or in kin- dergarten.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำ เรียนรู้การอ่านเป็นกระบวนการซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายของทักษะและความสามารถ เด็กต้องนำความรู้ที่มีอยู่ และประสบการณ์การแบกที่งานการเรียนรู้ที่จะอ่านซึ่ง สำหรับเด็กมากที่สุด เริ่มต้นอย่างจริงจังด้วยการแนะนำอย่างเป็นทางการในโครงในเกรด 1 เรียนรู้การอ่านเกี่ยวข้องกับเด็กรับรู้โครงสร้างประโยค (Lonigan อาศัย และ แอนโทนี่ 2000 วากเนอร์ et al. 1997), ของพวกเขา knowl ขอบของตัวอักษร (Ehri, 1998 อีแวนส์ ชอว์ เบลล์ 2000; & วากเนอร์ et al. 1997), ให้ความรู้เกี่ยวกับฟังก์ชั่นพิมพ์ (เพอร์เซลล์ประตู 1996), และทักษะทางภาษา (หุ้น Jorm, Maclean และ แมทธิวส์ 1984 วากเนอร์ et al. 1997) มันเป็นประโยชน์ต่อเอกสารอย่างไร และการที่เด็กได้รับทักษะเหล่านี้ก่อน เนื่องจากหลักฐานที่มีอยู่แสดงให้เห็นว่า ความแตกต่างแต่ละต้นในทักษะเหล่านี้จะค่อนข้างเสถียรจากโรงเรียนอนุบาลเป็นต้นไป (ไบรอันท์ Maclean แบรดลีย์ และ Crossland, 1990 พ่อบ้าน มาร์ช บัฟ และ บัฟ 1985 Lonigan et al. 2000 สกาบอรอก Dobrich, & กเฮ เกอร์ 1991 Tunmer, Herriman, & Nesdale, 1988 วากเนอร์ et al. 1997 ดูรีวิว โดยแผลโบโรห์ 1998) บางส่วนของทักษะเหล่านี้มีกว้างขวางสะดวกสบายผ่านประสบการณ์เฉพาะ ac-ที่บ้าน หรือญาติพี่น้อง-dergarten

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำ
การเรียนรู้ที่จะอ่านเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายของทักษะและความสามารถ เด็กจะต้องนำความรู้ที่มีอยู่ของพวกเขาและประสบการณ์ที่จะทนอยู่กับงานของการเรียนรู้ที่จะอ่านซึ่งสำหรับเด็กส่วนใหญ่เริ่มต้นอย่างจริงจังด้วยการแนะนำของโครงสร้าง in-อย่างเป็นทางการในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เรียนรู้การอ่านมีความเกี่ยวข้องกับการรับรู้เสียงของเด็ก (Lonigan, ประชากรและแอนโธนี 2000; แว็กเนอร์, et al, 1997) เพื่อให้ความรู้ของพวกเขาของตัวอักษร (Ehri 1998. อีแวนส์, ชอว์ & เบลล์ 2000. แว็กเนอร์, et al, 1997) เพื่อความรู้ของพวกเขาเกี่ยวกับฟังก์ชั่น ของการพิมพ์ (เพอร์เซลล์เกตส์, 1996) และทักษะการใช้ภาษาของพวกเขา (แบ่งปันจอมคลีนและแมทธิวส์, 1984. แว็กเนอร์, et al, 1997) มันเป็นที่น่าสนใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดทำเอกสารและวิธีการที่เด็กได้เรียนรู้ทักษะต้นเหล่านี้เพราะหลักฐานที่มีอยู่ให้เห็นว่าแตกต่างระหว่างบุคคลในช่วงต้นทักษะเหล่านี้จะค่อนข้างมีเสถียรภาพตั้งแต่ชั้นอนุบาลเป็นต้นไป (ไบรอันท์คลีน, แบรดลีย์และ Crossland, 1990; บัตเลอร์มาร์ช Sheppard และ Sheppard 1985. Lonigan et al, 2000; Scarborough, Dobrich และ Hager 1991; Tunmer, Herriman และ Nesdale 1988. แว็กเนอร์, et al, 1997; ดูการตรวจสอบโดยการเลือกตั้ง Scar-, 1998) สันนิษฐานว่าบางส่วนของทักษะเหล่านี้มี quired ทําผ่านประสบการณ์เฉพาะที่บ้านหรือใน kin- dergarten

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แนะนำการเรียนรู้ที่จะอ่าน คือ กระบวนการที่ซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายของทักษะและความสามารถ . เด็กจะต้องนำความรู้ และประสบการณ์ที่มีอยู่มาไว้ในงานของการเรียนรู้ที่จะอ่าน ซึ่งเด็กส่วนใหญ่จะเริ่มเอาจริงเอาจังกับการแนะนำอย่างเป็นทางการ - struction ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 การเรียนรู้ที่จะอ่านเกี่ยวกับการรับรู้เสียงเด็ก ( lonigan เบอร์เกส และ แอนโทนี่ , 2000 ; วากเนอร์ et al . , 1997 ) เพื่อ knowl - ขอบของตัวอักษร ( ehri , 2541 , อีแวนส์ , ชอว์ , ออด , 2000 ; วากเนอร์ et al . , 1997 ) , ความรู้เกี่ยวกับการทำงานของ พิมพ์ ( เพอร์เซลเกต , 1996 ) และทักษะการใช้ภาษาของพวกเขา ( แบ่งปัน จอมลีน , และ , แมทธิว , 1984 ; วากเนอร์ et al . , 1997 ) เป็นประโยชน์เฉพาะกับเอกสารอย่างไร และที่เด็กได้รับทักษะเหล่านี้ก่อน เพราะหลักฐานที่มีอยู่แสดงให้เห็นว่าต้นความแตกต่างในแต่ละทักษะเหล่านี้จะค่อนข้างมีเสถียรภาพตั้งแต่ระดับอนุบาลเป็นต้น ( ไบรอัน แมคลีน แบรดลีย์ และ crossland 1990 ; คนรับใช้ มาร์ช เชพเพิร์ด , & Sheppard , 1985 ; lonigan et al . , 2000 ; สการ์บูร์ , และ , แฮกเกอร์ , 1991 ; tunmer herriman , และ nesdale , 1988 ; วากเนอร์ et al . , 1997 ; ดูยัง การทบทวน โดยแผลเป็น - เลือกตั้ง , 1998 ) มีบางส่วนของทักษะเหล่านี้เป็น AC - quired ผ่านประสบการณ์เฉพาะในบ้านหรือในคิน - dergarten .