Potential for rural electrification

Potential for rural electrification based on biomass gasification in Cambodia
Abstract
Around 76% of the 10,452 villages of Cambodia will still be without electricity in the year 2010. We examined the potential of biomass gasification fuelled by alternative resources of agricultural residues and woody biomass to increase rural power supply, using geographic and social economic databases provided by the Royal Government of Cambodia. About 77% of villages currently without electricity have sufficient land available for tree planting for electricity generation based on a requirement of 0.02 ha per household. Among 8008 villages with sufficient land, we assumed that those villages that had greater than 10% of households owning a television (powered by a battery or a generator) would have both a high electricity demand and a capacity to pay for electricity generation. Those 6418 villages were considered appropriate candidates for mini-grid installation by biomass gasification. This study demonstrated that while agricultural residues such as rice husks or cashew nut shells may have high energy potential, only tree farming or plantations would provide sufficient sustainable resources to supply a biomass gasification system. Cost per unit electricity generation by biomass gasification is less than diesel generation when the plant capacity factor exceeds 13%. In order to ensure long-term ecological sustainability as well as appropriate tree-farming technology for farmers, there is an urgent need for studies aimed at quantifying biomass production across multiple rotations and with different species across Cambodia.
6. Conclusion
Tree farming for biomass production by local farmers is likely to be the most sustainable method of fuel supply for biomass gasification electricity generation for a rural mini-grid. More than 60% of the villages in Cambodia expected to be still without electricity in 2010 are potential candidates for biomass gasification mini-grid in terms of land availability for tree planting and ability to pay for electricity by villagers. Biomass gasification is economically competitive compared with diesel generation. The cost for unit electricity generation of biomass gasification becomes lower than diesel generation when the plant capacity factor exceeds by 13%. The largest cost associated with power generation via biomass gasifier is the depreciation, which could be reduced if gasifiers were manufactured locally. However, there are few accurate estimates of the productivity of plantations and tree farms in Cambodia. In order to ensure long-term ecological sustainability as well as appropriate tree farming technology for farmers, there is an urgent need for further studies that quantify biomass production across multiple rotations and with different species across Cambodia.

Acknowledgements
This study was conducted as part of a project funded by the Japan International Cooperation Agency (JICA): ‘The master plan study on rural electrification by renewable energy in the Kingdom of Cambodia’. The authors thank SME Cambodia for providing data about the Anlong Ta Mei biomass electrification project. Khieu Borin and Miech Phalla of the Center for Livestock and Agriculture Development provided biomass fuel efficiency test for gasification. Nakorn Worasuwannarak of The Joint Graduate School of Energy and Environment and King Mongkut's University of Technology Thonburi, Thailand provided the ultimate analyses of biomass samples. Ung Chanpisey and Takeshi Okamura of the JICA study team provided logistical support. We also thank three anonymous reviewers for their valuable comments and criticism.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าในชนบทขึ้นอยู่กับการผลิตก๊าซชีวมวลในกัมพูชา

นามธรรมรอบ 76% ของ 10,452 หมู่บ้านของกัมพูชาจะยังคงไม่มีกระแสไฟฟ้าในปี 2010 เราตรวจสอบศักยภาพของการผลิตก๊าซชีวมวลเชื้อเพลิงโดยทรัพยากรทางเลือกของการตกค้างทางการเกษตรและชีวมวลในการเพิ่มแหล่งจ่ายไฟในชนบทใช้ฐานข้อมูลทางภูมิศาสตร์ทางเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับจากรัฐบาลกัมพูชา ประมาณ 77% ของหมู่บ้านที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ในปัจจุบันมีที่ดินเพียงพอสำหรับการเพาะปลูกต้นไม้ในการผลิตไฟฟ้าขึ้นอยู่กับความต้องการของ 0.02 ฮ่าต่อครัวเรือน 8008 ในหมู่บ้านที่มีที่ดินเพียงพอเราสันนิษฐานว่าหมู่บ้านที่มีมากกว่า 10% ของผู้ประกอบการเป็นเจ้าของโทรทัศน์ (พลังงานจากแบตเตอรี่หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้า) จะมีทั้งความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงและความสามารถที่จะจ่ายสำหรับการผลิตไฟฟ้า 6418 ที่หมู่บ้านมีการพิจารณาผู้สมัครที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งมินิตารางโดยการผลิตก๊าซชีวมวลการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าในขณะที่ส่วนที่เหลือจากการเกษตรเช่นแกลบหรือเปลือกเม็ดมะม่วงหิมพานต์อาจมีศักยภาพพลังงานสูงเพียงการเลี้ยงต้นไม้หรือสวนจะให้ทรัพยากรเพียงพอที่ยั่งยืนในการจัดหาระบบการผลิตก๊าซชีวมวล ต้นทุนต่อหน่วยการผลิตไฟฟ้าโดยการผลิตก๊าซชีวมวลน้อยกว่ารุ่นดีเซลเมื่อปัจจัยกำลังการผลิตเกินกว่า 13%เพื่อที่จะให้มีความยั่งยืนของระบบนิเวศในระยะยาวรวมทั้งเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงต้นไม้ที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกรที่มีความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับการศึกษามุ่งเป้าไปที่ปริมาณการผลิตชีวมวลในการหมุนเวียนและมีหลายสายพันธุ์ที่แตกต่างกันทั่วกัมพูชา.
6 สรุป
การเกษตรต้นไม้สำหรับการผลิตพลังงานชีวมวลโดยเกษตรกรในท้องถิ่นมีโอกาสที่จะเป็นวิธีที่ยั่งยืนที่สุดของการจัดหาน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตไฟฟ้าชีวมวลเป็นก๊าซสำหรับมินิตารางชนบทกว่า 60% ของหมู่บ้านในกัมพูชาคาดว่าจะยังคงไม่มีกระแสไฟฟ้าในปี 2010 มีผู้สมัครที่มีศักยภาพในการผลิตก๊าซชีวมวลขนาดเล็กตารางในแง่ของการมีที่ดินสำหรับการเพาะปลูกต้นไม้และความสามารถในการจ่ายค่าไฟฟ้าของชาวบ้าน การผลิตก๊าซชีวมวลมีการแข่งขันทางเศรษฐกิจเมื่อเทียบกับรุ่นดีเซลค่าใช้จ่ายในการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยของการผลิตก๊าซชีวมวลจะกลายเป็นรุ่นที่ต่ำกว่าดีเซลเมื่อปัจจัยกำลังการผลิตเกินกว่า 13% ค่าใช้จ่ายที่ใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตกระแสไฟฟ้าผ่านเครื่องผลิตก๊าซจากชีวมวลเป็นค่าเสื่อมราคาซึ่งอาจจะลดลงถ้าผลิตก๊าซที่ผลิตในประเทศ อย่างไรก็ตามมีประมาณการที่ถูกต้องบางส่วนของผลผลิตของสวนและฟาร์มต้นไม้ในกัมพูชา เพื่อที่จะให้มีความยั่งยืนของระบบนิเวศในระยะยาวรวมทั้งเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงต้นไม้ที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกรที่มีความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับการศึกษาต่อไปว่าปริมาณการผลิตชีวมวลในการหมุนเวียนและมีหลายสายพันธุ์ที่แตกต่างกันทั่วกัมพูชา.


กิตติกรรมประกาศการศึกษาครั้งนี้ได้ดำเนินการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ได้รับทุนจากหน่วยงานความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (JICA): 'การศึกษาจัดทำแผนแม่บทในการผลิตไฟฟ้าในชนบทโดยพลังงานทดแทนในราชอาณาจักรกัมพูชา' ผู้เขียนขอขอบคุณ sme กัมพูชาในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ Anlong กระแสไฟฟ้าชีวมวล ta เหม่ยKhieu borin และ phalla Miech ศูนย์สำหรับปศุสัตว์และการเกษตรการพัฒนาให้ผลผลิตมวลรวมการทดสอบประสิทธิภาพของน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการผลิตก๊าซ worasuwannarak นครของบัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมและมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีประเทศไทยให้​​การวิเคราะห์ตัวอย่างที่ดีที่สุดของชีวมวลchanpisey อึ้งและ Okamura takeshi ของทีมการศึกษา JICA ให้การสนับสนุนจิสติกส์ เรายังขอขอบคุณที่แสดงความคิดเห็นที่ไม่ระบุชื่อสามสำหรับความคิดเห็นที่มีคุณค่าของพวกเขาและการวิจารณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไฟฟ้าชนบทตามการแปรสภาพเป็นแก๊สชีวมวลในกัมพูชาอาจ
นามธรรม
ประมาณ 76% ของหมู่บ้าน 10,452 ของกัมพูชาจะยังคงไม่ มีกระแสไฟฟ้าในปี 2553 เราตรวจสอบศักยภาพของการแปรสภาพเป็นแก๊สชีวมวลที่เติมพลัง ด้วยทรัพยากรอื่นตกค้างทางการเกษตรและชีวมวลวู้ดดี้เพื่อเพิ่มไฟในชนบท ใช้ทางภูมิศาสตร์ และสังคมเศรษฐกิจฐานโดยรัฐบาลกัมพูชารอยัล ประมาณ 77% ของหมู่บ้านในปัจจุบันโดยไม่มีไฟฟ้ามีที่ดินเพียงพอสำหรับต้นไม้ที่ปลูกสำหรับไฟฟ้าตามความต้องการของ 0.02 ฮา ต่อครัวเรือน ระหว่างหมู่บ้าน 8008 มีที่ดินเพียงพอ เราสันนิษฐานว่า ที่หมู่บ้านที่มีมากกว่า 10% ของครัวเรือนที่เป็นเจ้าของโทรทัศน์ (ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่หรือเครื่องกำเนิดไฟฟ้าการ) จะมีความต้องการไฟฟ้าสูงและความสามารถในการชำระค่าไฟฟ้า หมู่บ้านเหล่า 6418 ได้พิจารณาผู้สมัครที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งมินิกริด โดยการแปรสภาพเป็นแก๊สชีวมวล การศึกษานี้แสดงที่ขณะตกค้างทางการเกษตรเช่นข้าวแพ้ง่าย หรือเม็ดมะม่วงหิมพานต์หอยอาจมีศักยภาพพลังงานสูง ทรีนาหรือไร่เท่านั้นที่จะให้ทรัพยากรยั่งยืนเพียงพอในการจัดหาระบบการแปรสภาพเป็นแก๊สชีวมวล ต้นทุนต่อหน่วยไฟฟ้าโดยการแปรสภาพเป็นแก๊สชีวมวลจะน้อยกว่ารุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเมื่อสัดส่วนกำลังการผลิตโรงงานเกิน 13% เพื่อให้ระบบนิเวศยั่งยืนระยะยาวรวมทั้งแผนภูมินาเทคโนโลยีที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกรที่ต้องการ มีความจำเป็นเร่งด่วนมุ่ง quantifying ผลิตชีวมวล ทั้งหลายหมุนเวียน และ มีสายพันธุ์ต่าง ๆ ในกัมพูชาศึกษา
6 บทสรุป
แผนภูมิการเกษตรสำหรับการผลิตชีวมวลโดยเกษตรกรในท้องถิ่นเป็นน่าจะเป็นวิธีที่ยั่งยืนที่สุดของเพลิงสำหรับไฟฟ้าการแปรสภาพเป็นแก๊สชีวมวลสำหรับชนบทมินิกริด กว่า 60% ของหมู่บ้านในกัมพูชาที่คาดว่าจะยังคงไม่ มีกระแสไฟฟ้าในปี 2553 มีผู้ที่มีศักยภาพสำหรับการแปรสภาพเป็นแก๊สชีวมวลมินิกริดในที่ดินใช้ปลูกและความสามารถในการจ่ายไฟฟ้าโดยชาวบ้าน การแปรสภาพเป็นแก๊สชีวมวลได้อย่างแข่งขันเปรียบเทียบกับรุ่นดีเซล ต้นทุนสำหรับหน่วยไฟฟ้าของการแปรสภาพเป็นแก๊สชีวมวลจะต่ำกว่ารุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเมื่อสัดส่วนกำลังการผลิตโรงงานเกิน 13% ต้นทุนที่ใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้าผ่าน gasifier ชีวมวลมีค่าเสื่อมราคา ซึ่งอาจจะลดลงถ้า gasifiers ถูกผลิตขึ้นในท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม มีการประเมินไม่ถูกต้องของผลผลิตของพืชและต้นไม้ฟาร์มในกัมพูชา เพื่อให้ระบบนิเวศยั่งยืนระยะยาวเป็นแผนภูมิที่เหมาะสมที่เกษตรเทคโนโลยีสำหรับเกษตรกร การเร่งด่วนจำเป็นสำหรับการศึกษาที่กำหนดปริมาณการผลิตชีวมวล ทั้งหลายหมุนเวียน และ มีสายพันธุ์ต่าง ๆ ในกัมพูชาเพิ่มเติม

ถาม-ตอบ
การศึกษานี้ได้ดำเนินการเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสนับสนุนคณะ jica โดยญี่ปุ่นนานาชาติความร่วมมือหน่วยงาน (เยี่ยม): 'ศึกษาแผนหลักการไฟฟ้าชนบทโดยพลังงานทดแทนในราชอาณาจักรกัมพูชา' ผู้เขียนขอขอบคุณ SME กัมพูชาให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการไฟฟ้าชีวมวล Anlong ตาเหมย Khieu Borin และซันพัลลา Miech ของศูนย์ปศุสัตว์และเกษตรให้ทดสอบประสิทธิภาพเชื้อเพลิงชีวมวลสำหรับการแปรสภาพเป็นแก๊ส นคร Worasuwannarak ด้านร่วมบัณฑิตวิทยาลัยพลังงานและสิ่งแวดล้อมและสมเด็จพระจอมเกล้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีธนบุรี ไทยให้วิเคราะห์ที่ดีที่สุดตัวอย่างชีวมวล อัง Chanpisey และทาเคชิโอะกะมุระของคณะ jica เยี่ยมการศึกษาทีมให้ logistical สนับสนุน นอกจากนี้เรายังขอขอบคุณผู้ตรวจทานแบบสามมีข้อคิดเห็นและวิจารณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

gasification มี ศักยภาพ ในการรับพลังงานที่ใช้พลังงานชีวมวลในกัมพูชา

ซึ่งจะช่วยเป็นนามธรรมประมาณ 76% ของ 10,452 หมู่บ้านของประเทศกัมพูชาจะได้รับโดยไม่ใช้ไฟฟ้าในปี 2010 จะยังคงอยู่ เราพิจารณา ศักยภาพ ของพลังงานชีวมวล gasification โหมจากทรัพยากรบุคคลทางเลือกของสารเคมีตกค้างทางการเกษตรและพลังงานชีวมวลเป็นป่าเพื่อเพิ่มปริมาณพลังงานในชนบทการใช้ฐานข้อมูลทางเศรษฐกิจและสังคมในทาง ภูมิศาสตร์ ให้มาโดยรัฐบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของประเทศกัมพูชา ประมาณ 77% ของหมู่บ้านอยู่ในขณะนี้โดยไม่ใช้ไฟฟ้ามีที่ดินไม่เพียงพอสำหรับการปลูกต้นไม้สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าซึ่งเป็นไปตามคุณสมบัติของ 0.02 Ha Long ต่อครัวเรือน ท่ามกลาง 8008 หมู่บ้านพร้อมที่ดินนั้นไม่เพียงพอเราคาดว่าที่หมู่บ้านที่มีมากกว่า 10% ของครัวเรือนเป็นเจ้าของโทรทัศน์(ใช้ไฟจากแบตเตอรี่หรือเครื่องทำที่)จะมีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงและความสามารถที่จะจ่ายเงินเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าทั้งสอง 6418 หมู่บ้านที่ได้รับการพิจารณาให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้ง Mini - กริดโดย gasification พลังงานชีวมวลการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าในขณะที่เรื่องสารเคมีตกค้างทางการเกษตรเช่นฝาครอบมะม่วงหิมพานต์หรือเปลือกข้าวอาจมี ศักยภาพ ด้านพลังงานที่สูงพื้นที่เพาะปลูกหรือเลี้ยงต้นเท่านั้นจะให้ทรัพยากรอย่างยั่งยืนเพียงพอที่จะพาวเวอร์ซัพพลายระบบ gasification พลังงานชีวมวลที่ ต้นทุนต่อหน่วยไฟฟ้าของการไฟฟ้า ส่วนภูมิภาค โดย gasification ชีวมวลมีน้อยกว่ารุ่นดีเซลเมื่อปัจจัยความจุโรงงานที่มีความยาวเกิน 13%ในการตรวจสอบให้แน่ใจว่าด้านความยั่งยืนทางด้านระบบนิเวศน์ระยะยาวรวมถึงเทคโนโลยีทรี - การเลี้ยงที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกรมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะให้การศึกษาที่มุ่ง Quantifying Pile Head Condition Before Basement Excavation by — Revolutions Per Minute —การผลิตพลังงานชีวมวลในหลายสายพันธุ์ที่แตกต่างกันไปพร้อมด้วยและในประเทศกัมพูชา.
6 บทสรุป
ตามมาตรฐานการปลูกต้นไม้ในการผลิตพลังงานชีวมวลจากเกษตรกรรายย่อยในท้องถิ่นมีโอกาสที่จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดอย่างยั่งยืนของพาวเวอร์ซัพพลายน้ำมันสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าจากชีวมวล gasification สำหรับในชนบทมินิ - กริดที่มากกว่า 60% ของหมู่บ้านในกัมพูชาคาดว่าจะยังไม่มีไฟฟ้าในปี 2010 มีผู้สมัครมี ศักยภาพ สำหรับ gasification พลังงานชีวมวลขนาดมินิ - กริดในเรื่องของความพร้อมใช้งานที่ดินสำหรับปลูกต้นไม้และความสามารถในการจ่ายไฟฟ้าของชาวบ้าน gasification พลังงานชีวมวลมีการแข่งขันทางเศรษฐกิจเมื่อเทียบกับน้ำมันดีเซลรุ่นใหม่สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าของเครื่อง gasification พลังงานชีวมวลจะกลายเป็นรุ่นต่ำกว่าน้ำมันดีเซลเมื่อปัจจัยความจุโรงงานที่มีความยาวเกิน 13% ต้นทุนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับพลังงานไฟฟ้าผ่านงานพลังงานชีวมวลเป็นค่าเสื่อมราคาที่อาจจะถูกลดลงหาก gasifiers ได้ผลิตในท้องถิ่น แต่ถึงอย่างไรก็ตามมีเพียงไม่กี่อย่างถูกต้องเป็นการประมาณการผลผลิตของฟาร์มและพื้นที่เพาะปลูกในประเทศกัมพูชา ในการตรวจสอบให้แน่ใจว่าความยั่งยืนทางด้านระบบนิเวศน์ระยะยาวและเทคโนโลยีการปลูกต้นไม้ที่เหมาะสมสำหรับเกษตรกรมีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะให้การศึกษาเพิ่มเติมว่า volatility )— Revolutions Per Minute —การผลิตพลังงานชีวมวลในหลายสายพันธุ์ที่แตกต่างกันไปพร้อมด้วยและในประเทศกัมพูชา.


ตามมาตรฐานการรับรองการศึกษานี้ได้จัดทำขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ประเทศญี่ปุ่นเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศหน่วยงานของ(ลักษณะ)ที่'การศึกษาแผนหลักที่รับพลังงานโดยใช้พลังงานทดแทนในราชอาณาจักรกัมพูชา' ผู้เขียนขอขอบคุณลูกค้าเอสเอ็มอีประเทศกัมพูชาในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการรับพลังงานจากชีวมวลตา Mei anlong ได้khieu borin และ miech phalla ของศูนย์กลางสำหรับปศุสัตว์การเกษตรการพัฒนาและจัดให้บริการการทดสอบ ประสิทธิภาพ การใช้น้ำมันจากชีวมวลเพื่อ gasification นคร worasuwannarak ของโรงเรียนที่ร่วมกันระดับปริญญาโทของพลังงานและสิ่งแวดล้อมและมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าของเทคโนโลยีธนบุรีประเทศไทยจัดให้บริการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยมของตัวอย่างพลังงานชีวมวลung chanpisey และ takeshi okamura ของทีมการศึกษาลักษณะที่ให้การสนับสนุนในการส่งกำลังบำรุง นอกจากนั้นเรายังขอขอบคุณสามผู้ตรวจทานโดยไม่เปิดเผยชื่อสำหรับการวิจารณ์และแสดงความคิดเห็นที่มีค่าของพวกเขา