error detection and correction. Eac

error detection and correction. Each byte in a memory system may have a
parity bit associated with it that records whether the numbers of bits in the
byte that are set to 1 is even (parity = 0) or odd (parity = 1). If one of the bits
in the byte gets damaged (either a 1 becomes a 0, or a 0 becomes a 1), the
parity of the byte changes and thuswill not match the stored parity. Similarly,
if the stored parity bit gets damaged, it will not match the computed parity.
Thus, all 1-bit errorswill be detected by the memory system. Error-correcting
schemes store 2 or more extra bits, and can reconstruct the data if a single bit
gets damaged.
The idea of error-correcting codes can be used directly in disk arrays by
striping bytes across disks. For example, the first bit of each byte could be
stored in disk 0, the second bit in disk 1, and so on until the eighth bit is
stored in disk 7, and the error-correction bits are stored in further disks.
Figure 10.3c shows the level 2 scheme. The disks labeled P store the errorcorrection
bits. If one of the disks fails, the remaining bits of the byte and the
associated error-correction bits can be read fromother disks, and can be used
to reconstruct the damaged data. Figure 10.3c shows an array of size 4; note
RAID level 2 requires only three disks’ overhead for four disks of data, unlike
RAID level 1, which required four disks’ overhead.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การตรวจสอบข้อผิดพลาดและการแก้ไข แต่ละไบต์ในระบบหน่วยความจำอาจจะมีความเท่าเทียมกันบิต
ที่เกี่ยวข้องกับมันที่บันทึกไม่ว่าจะเป็นตัวเลขของบิตใน
ไบต์ที่มีการตั้งค่าเป็น 1 จะได้ (ความเท่าเทียมกัน = 0) หรือคี่ (ความเท่าเทียมกัน = 1) ถ้าหนึ่งของบิตในไบต์
ได้รับความเสียหาย (ทั้งที่ 1 จะกลายเป็น 0 หรือ 0 จะกลายเป็นที่ 1)
ความเท่าเทียมกันของการเปลี่ยนแปลงไบต์และ thuswill ไม่ตรงกับความเท่าเทียมกันเก็บไว้ กัน
ถ้าบิตความเท่าเทียมกันที่เก็บไว้ได้รับความเสียหายก็จะไม่ตรงกับความเท่าเทียมกันคำนวณ.
จึงทั้งหมด 1 บิต errorswill ถูกตรวจพบโดยระบบหน่วยความจำ ข้อผิดพลาดการแก้ไขแผนการเก็บ
2 หรือบิตพิเศษมากขึ้นและสามารถสร้างข้อมูลใหม่ถ้าบิตเดียวได้รับความเสียหาย
.
ความคิดของรหัสข้อผิดพลาดแก้ไขสามารถใช้โดยตรงในอาร์เรย์ดิสก์โดย
แถบไบต์ในดิสก์ ตัวอย่างเช่นบิตแรกของแต่ละไบต์จะถูกเก็บไว้ใน
ดิสก์ 0, บิตที่สองในดิสก์ 1 และอื่น ๆ จนเป็นที่แปดบิต
เก็บไว้ในดิสก์ 7 และบิตแก้ไขข้อผิดพลาดจะถูกเก็บไว้ในแผ่นดิสก์ต่อไป.
รูป 10.3 คแสดงให้เห็นถึงระดับ 2 โครงการ แผ่นป้ายพีร้าน errorcorrection
บิต ถ้าอย่างใดอย่างหนึ่งของดิสก์ล้มเหลวบิตที่เหลือของไบต์และ
บิตที่เกี่ยวข้องแก้ไขข้อผิดพลาดที่สามารถอ่านดิสก์ fromother และสามารถนำมาใช้
เพื่อสร้างข้อมูลที่เสียหาย ตัวเลขที่แสดงให้เห็น 10.3c อาร์เรย์ของขนาด 4; ทราบ
โจมตีระดับที่ 2 ต้องมีเพียง 'ค่าใช้จ่ายเป็นเวลาสี่ดิสก์ข้อมูลซึ่งแตกต่างจากการโจมตี
ระดับที่ 1 ซึ่งต้องสี่ดิสก์' สามดิสก์ค่าใช้จ่าย

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตรวจหาข้อผิดพลาดและการแก้ไข แต่ละไบต์ในระบบหน่วยความจำอาจเป็น
บิตพาริตีสัมพันธ์กับระเบียนที่ว่าจำนวนบิตในการ
ไบต์ที่ถูกตั้งค่าเป็น 1 จะได้ (พาริตี้ = 0) หรือคี่ (พาริตี้ = 1) ได้ ถ้าบิตหนึ่ง
ในไบต์ได้รับเสียหาย (1 กลายเป็น 0 การ หรือการกลายเป็น 1), การ
พาริตี้เปลี่ยนแปลงไบต์และ thuswill ตรงกับพาริตี้เก็บไว้ ในทำนองเดียวกัน,
ถ้าบิตพาริตีเก็บไว้ได้รับความเสียหาย มันจะไม่ตรงกับการคำนวณพาริตี
ดังนี้ ทั้งหมด 1 บิต errorswill พบระบบหน่วยความจำ แก้ไขข้อผิดพลาด
แผนเก็บบิต 2 หรือเพิ่มมากขึ้น และสามารถสร้างข้อมูลถ้าบิตเดียว
ได้รับความเสียหายได้
ความคิดในการแก้ไขข้อผิดพลาดรหัสสามารถใช้โดยตรงในอาร์เรย์ดิสก์โดย
การสไทรพ์ไบต์บนดิสก์ได้ ตัวอย่าง บิตแรกของไบต์แต่ละอาจ
เก็บในดิสก์ 0 สองบิตในดิสก์ 1 และอื่น ๆ จนบิตแปด
แก้ไขเก็บไว้ในดิสก์ 7 และบิตแก้ไขข้อผิดพลาดเพิ่มเติมดิสก์ได้
รูป 10.3c แสดงโครงร่างระดับ 2 ได้ Errorcorrection การจัดเก็บดิสก์ชื่อ P
บิต ถ้าดิสก์หนึ่งล้ม บิตของไบต์เหลือและ
บิตแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกี่ยวข้องสามารถอ่านดิสก์ fromother และสามารถใช้
เพื่อสร้างข้อมูลเสียหาย 10.3 รูป c แสดงอาร์เรย์ขนาด 4 หมายเหตุ
RAID ระดับ 2 ต้องใช้เพียงสามดิสก์สำหรับดิสก์สี่ของข้อมูล ค่าใช้จ่ายต่างจาก
RAID ระดับ 1 ซึ่งจำเป็นต้องใช้ดิสก์ 4 ค่าใช้จ่ายในการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาด. Byte แต่ละตัวที่อยู่ในระบบหน่วยความจำอาจได้
พาริตี้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ที่มีการบันทึกว่าตัวเลขของจำนวนบิตใน
ไบต์ที่ได้รับการตั้งค่าเป็น 1 ได้(พาริตี้= 0 )หรือ ODD (พาริตี้= 1 ) หากหนึ่งในหน่วยบิต
ซึ่งจะช่วยได้ใน byte ที่ได้รับความเสียหาย(ทั้ง 1 จะกลายเป็นที่ 0 หรือที่ 0 จะกลายเป็นที่ 1 )
Parity ของ thuswill byte และการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ตรงกับพาริตี้จัดเก็บไว้ได้ ในทำนองเดียวกัน
parity bit หากจัดเก็บได้จะได้รับความเสียหายจะไม่ตรงกับพาริตี้ที่คำนวณ.
ทั้งหมด 1 บิต errorswill ได้รับการตรวจพบจากระบบหน่วยความจำ ข้อผิดพลาด - การแก้ไข
การใช้รูปแบบการจัดเก็บ 2 หรือมากกว่าบิตมากขึ้นและสามารถสร้างข้อมูลหากบิตเดียว
ซึ่งจะช่วยได้รับความเสียหาย.
ความคิดของรหัสข้อผิดพลาด - แก้ไขสามารถใช้โดยตรงในอาเรย์ดิสก์ด้วยไบต์
ซึ่งจะช่วยในการแยกเก็บข้อมูล(ฮาร์ดดิสก์ ตัวอย่างเช่นbit ครั้งแรกของ high byte แต่ละตัวสามารถมี
ซึ่งจะช่วยจัดเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์ 0 บิตที่สองในฮาร์ดดิสก์ 1 และต่อไปจนกว่า bit แปดคือ
ซึ่งจะช่วยจัดเก็บไว้ในดิสก์ 7 บิตเกิดข้อผิดพลาด - การแก้ไขที่จะถูกจัดเก็บไว้ในฮาร์ดดิสก์เพิ่มเติม.
รูปที่ 10.3 C จะแสดงระดับที่ 2 โครงการ ฮาร์ดดิสก์ที่มีข้อความ P จัดเก็บที่ errorcorrection
บิต หากหนึ่งในดิสก์ล้มเหลวบิตที่เหลืออยู่ของ high byte และ
บิตที่เกี่ยวข้องเกิดข้อผิดพลาด - การแก้ไขสามารถอ่านแผ่นดิสก์ fromother และสามารถใช้
ซึ่งจะช่วยในการสร้างข้อมูลที่ได้รับความเสียหาย รูปที่ 10.3 C แสดงความหลากหลายของขนาด 4 หมายเหตุ:
RAID ระดับ 2 ต้องมีค่าใช้จ่ายเพียงสามฮาร์ดดิสก์สำหรับผู้ใช้บริการสี่ฮาร์ดดิสก์ของข้อมูลไม่เหมือนกับ
RAID ระดับ 1 ซึ่งจำเป็นต้องขึ้นเหนือศีรษะของสี่ฮาร์ดดิสก์