Although, recent statistics have re

Although, recent statistics have revealed an increase in the number of women in educational leadership positions, the number of females serving as secondary principals still lags proportionally behind the number of elementary female principals. The purpose of this mixed methods study was to explore women's perceptions of underrepresentation in educational administration at the secondary level.

A quantitative survey was sent to female principals and assistant principals in three school divisions located in Northern Virginia to gather demographic and narrative information. Of the 334 women surveyed, 140 (42%) returned the survey. The results of the survey revealed the average female assistant principal or principal to be at least 46 years of age, white, married with two children, and a master's degree holder.

The research design also incorporated three qualitative focus groups and six interviews. The qualitative portion of the study explored career paths, leadership challenges, barriers that prevented or impeded women from advancement, and the benefits of mentoring and networking opportunities.

The major findings of the study revealed that the majority of women took the traditional route to administration by assuming leadership opportunities within their own schools, with 87% of the participants' being encouraged to pursue leadership positions. The women in the study described their participation in a cohort program or internship program as an invaluable experience. Furthermore, a number of participants indicated that they benefited from both mentoring and networking opportunities.

As reported by the secondary school participants, some of the major barriers preventing women from aspiring to be secondary principals included managerial and weekend responsibilities, safety or discipline concerns, and time commitments. Female participants at the elementary level believed women are underrepresented at this level because of family obligations; the elementary school's becoming more of a community center, and unrealistic parent expectations.

Other external and internal barriers included biased community perceptions, competition, the interview process, age discrimination, cultural barriers, resistance encountered from others, financial constraints, leadership style, and personality issues.

The study findings recommend changes in educational leadership programs, plus changes in hiring practices at the state and local levels.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้ว่าสถิติที่ผ่านมาได้เปิดเผยการเพิ่มจำนวนของผู้หญิงในตำแหน่งผู้นำทางการศึกษาจำนวนของผู้หญิงที่ทำหน้าที่ครูใหญ่รองยังคงล่าช้าหลังตามสัดส่วนจำนวนของผู้บริหารหญิงระดับประถมศึกษา วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้วิธีการผสมคือการสำรวจการรับรู้ของผู้หญิงของ underrepresentation ในการบริหารการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาการสำรวจเชิงปริมาณถูกส่งไปยังผู้บริหารและผู้ช่วยผู้บริหารฝ่ายหญิงในโรงเรียนสามตั้งอยู่ในตอนเหนือของเวอร์จิเนียเพื่อรวบรวมข้อมูลทางด้านประชากรศาสตร์และการเล่าเรื่อง ของผู้หญิง 334 สำรวจ 140 (42%) กลับมาสำรวจ ผลการสำรวจพบว่าผู้ช่วยครูใหญ่เฉลี่ยหญิงหรือหลักที่จะมีอย่างน้อย 46 ปีสีขาวแต่งงานกับลูกสองคนและปริญญาโทจบระดับการออกแบบการวิจัยยังเป็น บริษัท สามกลุ่มมุ่งเน้นคุณภาพและหกสัมภาษณ์ ส่วนคุณภาพของการศึกษาสำรวจเส้นทางอาชีพท้าทายความเป็นผู้นำอุปสรรคที่ขัดขวางหรือถูกขัดขวางผู้หญิงจากความก้าวหน้าและผลประโยชน์ของการให้คำปรึกษาและเครือข่ายโอกาสในการค้นพบที่สำคัญของการศึกษาพบว่าส่วนใหญ่ของผู้หญิงเอาเส้นทางแบบดั้งเดิมกับการบริหารงานโดย สมมติว่าโอกาสในการเป็นผู้นำที่อยู่ในโรงเรียนของตัวเองกับ 87% ของผู้เข้าร่วมได้รับการสนับสนุนที่จะไล่ตามตำแหน่งผู้นำ ผู้หญิงในการศึกษาที่อธิบายการมีส่วนร่วมในโปรแกรมการศึกษาหรือการฝึกงานโปรแกรมเป็นประสบการณ์อันล้ำค่า นอกจากนี้จำนวนผู้เข้าร่วมแสดงให้เห็นว่าพวกเขาได้รับประโยชน์จากการให้คำปรึกษาทั้งโอกาสและเครือข่ายตามการรายงานของผู้เข้าร่วมโรงเรียนมัธยมบางส่วนของอุปสรรคสำคัญป้องกันผู้หญิงจากที่ต้องการที่จะเป็นครูมัธยมรวมถึงการบริหารจัดการและวันหยุดสุดสัปดาห์ความรับผิดชอบด้านความปลอดภัยหรือวินัยความกังวลและ ภาระผูกพันเวลา ผู้เข้าร่วมหญิงที่ผู้หญิงระดับประถมเชื่อว่ามีบทบาทในระดับเพราะภาระหน้าที่ของครอบครัวนี้ โรงเรียนประถมศึกษาที่มากขึ้นของศูนย์ชุมชนและความคาดหวังของผู้ปกครองไม่สมจริงอุปสรรคภายนอกและภายในอื่น ๆ รวมถึงการรับรู้ลำเอียงชุมชนการแข่งขัน, การสัมภาษณ์, การเลือกปฏิบัติอายุอุปสรรคทางวัฒนธรรม, ความต้านทานพบจากคนอื่น ๆ ข้อ จำกัด ทางการเงินรูปแบบความเป็นผู้นำและบุคลิกภาพ ปัญหาจากผลการศึกษาเสนอแนะการเปลี่ยนแปลงในโปรแกรมการเป็นผู้นำด้านการศึกษารวมทั้งการเปลี่ยนแปลงในการจ้างงานการปฏิบัติในระดับรัฐและท้องถิ่น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แม้ว่าสถิติล่าสุดพบการเพิ่มจำนวนของผู้หญิงในตำแหน่งผู้นำทางการศึกษา จำนวนของผู้หญิงที่ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารโรงเรียนมัธยมยังคงล้าหลังตามส่วนหลังหมายเลขของผู้บริหารหญิงชั้นประถม วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อสำรวจการรับรู้วิธีการผสมของผู้หญิง underrepresentation ในการบริหารการศึกษาในระดับมัธยมศึกษา

สำรวจปริมาณถูกส่งไปยังผู้บริหารหญิงและผู้ช่วยครูใหญ่ในโรงเรียนสามหน่วยงานตั้งอยู่ในภาคเหนือเวอร์จิเนียเพื่อรวบรวมข้อมูลด้านประชากร และการเล่าเรื่อง ของพวกผู้หญิงทั้งสิ้น 140 ( 42% ) กลับมา ) ผลจากการสำรวจพบมีหญิงผู้ช่วยครูใหญ่หรืออาจารย์ใหญ่เป็นอย่างน้อย 46 ปีของอายุ , ขาว , แต่งงานกับเด็กสองคนและผู้ถือปริญญาโท

การออกแบบการวิจัยยังรวม 3 กลุ่ม เน้น คุณภาพ และ หก สัมภาษณ์ ส่วนคุณภาพของการศึกษาสำรวจเส้นทาง อาชีพท้าทายภาวะผู้นำ อุปสรรคที่ขัดขวาง หรือขัดขวางผู้หญิงจากความก้าวหน้าและประโยชน์ของพี่เลี้ยงและโอกาสเครือข่าย .

ข้อค้นพบที่สำคัญของการศึกษา พบว่า ส่วนใหญ่ผู้หญิงเอาเส้นทางแบบดั้งเดิมเพื่อการบริหารโดยสมมติว่าผู้นำโอกาสภายในโรงเรียนของตนเอง กับ 87 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วม ' การกระตุ้นให้ติดตามตำแหน่งความเป็นผู้นำ ผู้หญิงในการศึกษา อธิบายการมีส่วนร่วมในโครงการตามแผนหรือโครงการฝึกงานเป็นประสบการณ์ที่หาค่ามิได้ นอกจากนี้จำนวนของผู้ที่ระบุว่าพวกเขาได้รับประโยชน์จากโอกาสทั้งพี่เลี้ยงและเครือข่าย

รายงานโดยผู้เข้าร่วมโรงเรียนมัธยม , บางส่วนของอุปสรรคสําคัญป้องกันผู้หญิงจากที่ต้องการให้เป็นผู้บริหารมัธยมรวมการจัดการและวันหยุดความรับผิดชอบ ความกังวลด้านความปลอดภัย หรือ วินัย และเวลาผูกพันผู้ หญิง ในระดับประถมศึกษา เชื่อว่าผู้หญิงมีบทบาทในระดับนี้ เพราะภาระหน้าที่ของครอบครัว โรงเรียน ประถมศึกษามากขึ้นของศูนย์กลางชุมชน และผู้ปกครองคาดหวังไม่สมจริง

อื่น ๆ ทั้งภายในและภายนอกชุมชน การรับรู้อุปสรรค ได้แก่ ลำเอียง , การแข่งขัน , การสัมภาษณ์ , อายุการแยกแยะอุปสรรคทางวัฒนธรรมค่าความต้านทานที่พบจากผู้อื่น ปัญหาการเงิน ปัญหาบุคลิกภาพ ภาวะผู้นำ และ

ผลการศึกษาแนะนำการเปลี่ยนแปลงในหลักสูตรภาวะผู้นำทางการศึกษา และการเปลี่ยนแปลงในการปฏิบัติการในระดับรัฐและท้องถิ่น