The rate of a reaction is the speed

The rate of a reaction is the speed at which a reaction happens. If a reaction has a low rate, that means the molecules combine at a slower speed than a reaction with a high rate. Some reactions take hundreds, maybe even thousands, of years while others can happen in less than one second. The rate of reaction depends on the type of molecules that are combining. If you want to think of a very slow reaction, think about how long it took dinosaur bones to become fossils through breakdown. You can thank chemical processes in bacteria for most of those dinosaur bones in the museum.

There is another big idea for rates of reaction called collision theory. The collision theory says that as more collisions in a system occur, there will be more combinations of molecules bouncing into each other. If there are a higher number of collisions in a system, more combinations of molecules can occur. The reaction will go faster and the rate of that reaction will be higher. Even though they are both liquids, think about how slowly molecules move in honey when compared to your soda. There are a lower number of collisions in the honey.

Reactions happen - no matter what. Chemicals are always combining or breaking down. The reactions happen over and over, but not always at the same speed. A few things affect the overall speed of the reaction and the number of collisions that can occur.

Concentration, Temperature, and Pressure change reaction ratesConcentration: If there is more of a substance in a system, there is a greater chance that molecules will collide and speed up the rate of the reaction. If there is less of something, there will be fewer collisions and the reaction will probably happen at a slower speed. Sometimes when you are in a chemistry lab, you will add one solution to another. When you want the rate of reaction to be slower, you will add only a few drops at a time instead of the entire beaker.

Temperature: When you raise the temperature of a system, the molecules bounce around a lot more because they have more energy. When they bounce around more, they are more likely to collide. That fact means they are also more likely to combine. When you lower the temperature, the molecules are slower and collide less. That temperature drop lowers the rate of the reaction. Back to the chemistry lab! Sometimes you will mix solutions in ice so that the temperature of the system stays cold and the rate of reaction is slower.

Pressure: Pressure affects the rate of reaction, especially when you look at gases. When you increase the pressure, the molecules have less space in which they can move. That greater density of molecules increases the number of collisions. When you decrease the pressure, molecules don't hit each other as often. The lower pressure decreases the rate of reaction.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อัตราของปฏิกิริยาที่คือ ความเร็วซึ่งปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น ถ้าปฏิกิริยาที่มีอัตราต่ำ ซึ่งหมายความว่า โมเลกุลรวมที่ช้ากว่าปฏิกิริยาที่มีอัตราสูง บางปฏิกิริยาใช้ร้อย ทีหลายพัน ปีในขณะที่คนอื่น ๆ อาจเกิดขึ้นได้ในน้อยกว่าหนึ่งวินาที อัตราของปฏิกิริยาขึ้นอยู่กับชนิดของโมเลกุลที่จะรวม ถ้าคุณต้องการคิดว่า ปฏิกิริยาช้ามาก คิดนานก็เอากระดูกไดโนเสาร์ซากดึกดำบรรพ์ โดยแบ่งเป็น คุณสามารถขอบคุณกระบวนการเคมีในแบคทีเรียสำหรับส่วนมากของที่กระดูกไดโนเสาร์ในพิพิธภัณฑ์

มีความคิดใหญ่อื่นสำหรับอัตราของปฏิกิริยาที่เรียกว่าทฤษฎีการชนกัน ทฤษฎีการชนบอกว่า เป็นตามที่เพิ่มเติมในระบบเกิดขึ้น จะมีชุดอื่น ๆ ของโมเลกุลใหญ่เป็นกัน ถ้ามีของตามในระบบ ชุดเพิ่มเติมของโมเลกุลสามารถเกิดขึ้นได้ จะทำปฏิกิริยาได้เร็ว และอัตราของปฏิกิริยาที่จะสูงขึ้น แม้พวกเขามีทั้งของเหลว คิดว่า ช้าโมเลกุลย้ายผึ้งเมื่อเปรียบเทียบกับของคุณโซดา มีเลขล่างของตามในน้ำผึ้ง

ปฏิกิริยาเกิด - ไม่ว่าสิ่งที่ สารเคมีจะรวมเสมอ หรือแบ่ง ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นมากกว่า และกว่า แต่ไม่เสมอไป ที่ความเร็วเดียวกัน บางสิ่งที่มีผลต่อความเร็วโดยรวมของปฏิกิริยาจะไม่เกิดการชนที่เกิดขึ้น

ความเข้มข้น อุณหภูมิ และความดันเปลี่ยนแปลงปฏิกิริยา ratesConcentration: ถ้ามีเพิ่มเติมของสารในระบบ มีมากกว่าโอกาสที่โมเลกุลจะชนกัน และเร่งอัตราของปฏิกิริยา ถ้ามีน้อยของบางสิ่งบางอย่าง จะมีน้อยลงตาม และปฏิกิริยาจะเกิดขึ้นคงที่ความเร็วช้าลง บางครั้งเมื่อคุณอยู่ในห้องปฏิบัติการเคมี คุณจะเพิ่มวิธีการแก้ไขปัญหาอื่น เมื่อคุณต้องการให้อัตราของปฏิกิริยาจะช้าลง คุณจะเพิ่มเพียงไม่กี่หยดบีกเกอร์ทั้งที

อุณหภูมิ: เมื่อคุณเพิ่มอุณหภูมิของระบบ โมเลกุลการตีกลับรอบมากเนื่องจากมีพลังงานมากขึ้น เมื่อพวกเขาตีกลับรอบเพิ่มเติม พวกเขามีแนวโน้มที่ประจวบ ความจริงนั้นหมายความว่า พวกเขายังมีแนวโน้มที่จะรวม เมื่อลดอุณหภูมิ โมเลกุลจะช้าลง และเกิดการชนกันน้อย ที่อุณหภูมิหล่นช่วยลดอัตราของปฏิกิริยา กลับไปยังห้องปฏิบัติการเคมี บางครั้งคุณจะผสมโซลูชั่นในน้ำแข็งเพื่อให้อุณหภูมิของระบบยังคงเย็น และอัตราของปฏิกิริยาจะช้าลง

ความดัน: แรงดันมีผลต่ออัตราของปฏิกิริยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณดูที่ก๊าซ เมื่อคุณเพิ่มความดัน โมเลกุลมีพื้นที่น้อยสามารถย้าย ความหนาแน่นที่มากขึ้นของโมเลกุลเพิ่มขึ้นจำนวนตาม เมื่อคุณลดความดัน โมเลกุลไม่ตีกันบ่อย ความดันต่ำลดอัตราของปฏิกิริยา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อัตราของปฏิกิริยา คือ ความเร็วในการเกิดปฏิกิริยาเกิดขึ้น ถ้าเกิดมีอัตราต่ำ นั่นหมายความว่าโมเลกุลรวมที่ความเร็วช้ากว่าปฏิกิริยาที่มีอัตราสูง บางปฏิกิริยาที่ใช้เวลาหลายร้อยหรือแม้กระทั่งนับพันของปีในขณะที่คนอื่น ๆสามารถเกิดขึ้นได้ในเวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที อัตราการเกิดปฏิกิริยาขึ้นอยู่กับชนิดของโมเลกุลที่มีการรวม .ถ้าคุณต้องการที่จะคิดว่ามีปฏิกิริยาช้ามาก คิดเกี่ยวกับการใช้เวลานานแค่ไหนที่จะกลายเป็นฟอสซิลกระดูกไดโนเสาร์ โดยแบ่ง คุณสามารถขอบคุณกระบวนการทางเคมีในแบคทีเรียสำหรับส่วนใหญ่ของกระดูกไดโนเสาร์ในพิพิธภัณฑ์

มีอีกไอเดียสำหรับอัตราของปฏิกิริยา เรียกว่า ทฤษฎีการปะทะกัน ทฤษฎีการชนกล่าวว่าเป็นชนในระบบเกิดขึ้นจะมีชุดของโมเลกุลใหญ่ลงในแต่ละอื่น ๆ หากมีจำนวนที่สูงของการชนกันในระบบ ชุดเพิ่มเติมของโมเลกุลที่สามารถเกิดขึ้นได้ ปฏิกิริยาจะเร็วขึ้น และอัตราการเกิดปฏิกิริยาจะสูงขึ้น ถึงแม้ว่าพวกเขาเป็นทั้งของเหลว คิดว่าช้า โมเลกุลย้ายที่รักเมื่อเทียบกับโซดาของคุณมีการลดจำนวนการชนในน้ำผึ้ง

ปฏิกิริยาเกิดขึ้น - ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เคมีมักจะรวมหรือหมดสภาพ ปฏิกิริยาเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ไม่เสมอไปที่ความเร็วเดียวกัน ไม่กี่สิ่งที่มีผลต่อความเร็วโดยรวมของปฏิกิริยา และหมายเลขของการชนที่สามารถเกิดขึ้นได้

ความเข้มข้น อุณหภูมิ และ ratesconcentration ปฏิกิริยาเปลี่ยนแปลงความดัน :หากมีมากกว่าสารในระบบมีมากกว่าโอกาสที่โมเลกุลจะชนกัน และเร่งอัตราของปฏิกิริยา ถ้ามีน้อยบางอย่าง จะมีการชนกันน้อยลง และปฏิกิริยาที่อาจจะเกิดขึ้นที่ความเร็วที่ช้าลง บางครั้ง เมื่อคุณมีการทดสอบในแล็บเคมี คุณจะเพิ่มโซลูชั่นหนึ่งไปยังอีก เมื่อคุณต้องการให้อัตราการเกิดปฏิกิริยาจะช้าลงคุณจะเพิ่มเพียงไม่กี่หยดในเวลาแทนที่จะเอาทั้งหมด

อุณหภูมิ : เมื่อคุณเพิ่มอุณหภูมิของระบบโมเลกุลที่ตีกลับรอบมากขึ้นเพราะพวกเขามีพลังงานมากขึ้น เมื่อพวกเขาตีกลับรอบมากขึ้น มีโอกาสที่จะชนกัน ความเป็นจริงซึ่งหมายความว่าพวกเขายังมีแนวโน้มที่จะรวม เมื่อคุณลดอุณหภูมิโมเลกุลชนกันช้าลงและน้อยลงที่อุณหภูมิต่ำลงลดอัตราของปฏิกิริยา กลับไปที่แล็บเคมี ! บางครั้งคุณจะผสมโซลูชั่นในน้ำแข็งเพื่อให้อุณหภูมิของระบบอยู่ที่เย็นและอัตราการเกิดปฏิกิริยาจะช้าลง

ความดันความดันมีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณมองไปที่ก๊าซ เมื่อคุณเพิ่มความดัน โมเลกุลที่มีพื้นที่น้อยในการที่พวกเขาสามารถย้ายที่มากกว่าความหนาแน่นของโมเลกุลเพิ่มจํานวนของการชนกัน เมื่อคุณลดความดัน , โมเลกุลอย่าตีกันบ่อย ความดันลดจะลดอัตราของปฏิกิริยา