Close to a century has passed since

Close to a century has passed since the first research into the impact of economic changes on mortality was undertaken. This research found that short-term economic improvements were accompanied by increases in mortality (pro-cyclical mortality) in the USA and Great Britain (Ogburn and Thomas 1922; Thomas 1927). In the 1970s and 1980s, the seminal works of Brenner (1971, 1973, 1977, 1979, 1987) found that mortality increases during economic downturns (counter-cyclical mortality) in the USA, in England and Wales and in Sweden. Using mortality as
an indicator of health, and unemployment, amongst others, as a measure of economic cycles, Brenner found that mortality was counter-cyclical in nature–that is, as unemployment increases, mortality rises and vice versa. Brenner’s work also introduced the concept of lagged dependent variables in the context of studies of the effect of the economy on mortality. However, Brenner’s studies have been criticized by various researchers, especially on statistical grounds, because it has not been possible to replicate his results when identified model shortcomings were corrected (Gravelle et al. 1981; Forbes and McGregor 1984; Wagstaff 1985). Laporte (2004) provides a summary of the critiques of Brenner’s work and empirically demonstrates that economic cycles have a permanent pro-cyclical effect on health. Additionally, Laporte showed that health expenditures were positively associated with mortality risk. In particular, Laporte (p. 775) argues ‘‘… GDP was only significant in the long run, which may reflect the fact that for most people in the United States, the level of medical care they receive is tied to their ability to pay.’’

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใกล้เคียงกับศตวรรษตั้งแต่ดำเนินวิจัยแรกเป็นผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจในการตาย งานวิจัยนี้พบว่า ปรับปรุงเศรษฐกิจระยะสั้นมาพร้อมกับเพิ่มในตาย (ตายแบบ pro) ในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร (Ogburn และ Thomas 1922 Thomas 1927) ในปี 1970 และทศวรรษ 1980 งานบรรลุถึงของ Brenner (1971, 1973, 1977, 1979, 1987) พบว่า การตายเพิ่มระหว่างเศรษฐกิจเอกชน (วัฏจักรทวนตาย) ในสหรัฐอเมริกา อังกฤษและเวลส์ และ ในสวีเดน ใช้การตายเป็นan indicator of health, and unemployment, amongst others, as a measure of economic cycles, Brenner found that mortality was counter-cyclical in nature–that is, as unemployment increases, mortality rises and vice versa. Brenner’s work also introduced the concept of lagged dependent variables in the context of studies of the effect of the economy on mortality. However, Brenner’s studies have been criticized by various researchers, especially on statistical grounds, because it has not been possible to replicate his results when identified model shortcomings were corrected (Gravelle et al. 1981; Forbes and McGregor 1984; Wagstaff 1985). Laporte (2004) provides a summary of the critiques of Brenner’s work and empirically demonstrates that economic cycles have a permanent pro-cyclical effect on health. Additionally, Laporte showed that health expenditures were positively associated with mortality risk. In particular, Laporte (p. 775) argues ‘‘… GDP was only significant in the long run, which may reflect the fact that for most people in the United States, the level of medical care they receive is tied to their ability to pay.’’

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ใกล้กับศตวรรษที่ผ่านมาตั้งแต่การวิจัยครั้งแรกในผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจต่อการตายได้ดำเนินการ การวิจัยครั้งนี้พบว่าการปรับปรุงทางเศรษฐกิจในระยะสั้นได้รับพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของอัตราการตาย (การตายโปรวงจร) ในประเทศสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร (OGBURN และโทมัส 1922; โทมัส 1927) ในปี 1970 และ 1980, การทำงานของน้ำเชื้อของเบรนเนอร์ (1971, 1973, 1977, 1979, 1987) พบว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราการเสียชีวิตในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ (การตายเคาน์เตอร์วงจร) ในประเทศสหรัฐอเมริกาในอังกฤษและเวลส์และในสวีเดน
การใช้อัตราการเสียชีวิตเป็นตัวบ่งชี้สุขภาพและการว่างงานในหมู่คนอื่นเป็นตัวชี้วัดของวงจรเศรษฐกิจที่เบรนเนอร์พบว่าอัตราการเสียชีวิตที่เป็นเคาน์เตอร์ของวัฏจักรในธรรมชาตินั่นคือเป็นการเพิ่มขึ้นของการว่างงานที่เพิ่มขึ้นอัตราการเสียชีวิตและในทางกลับกัน การทำงานของเบรนเนอร์ยังนำแนวคิดของตัวแปรตามรั้งท้ายในบริบทของการศึกษาถึงผลกระทบของเศรษฐกิจในการตาย อย่างไรก็ตามการศึกษาเบรนเนอร์ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากนักวิจัยต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณทางสถิติเพราะมันยังไม่ได้รับเป็นไปได้ที่จะทำซ้ำผลของเขาเมื่อระบุข้อบกพร่องรูปแบบได้รับการแก้ไข (Gravelle et al, 1981;. ฟอร์บและเกรเกอร์ 1984; Wagstaff 1985) พอร์ต (2004) ให้เป็นบทสรุปของการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเบรนเนอร์และสังเกตุแสดงให้เห็นว่าวงจรเศรษฐกิจมีผลโปรวัฏจักรถาวรต่อสุขภาพ นอกจากนี้พอร์ตแสดงให้เห็นว่าค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความเสี่ยงการเสียชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งพอร์ต (พี. 775) ระบุว่า '' ... GDP เป็นเพียงอย่างมีนัยสำคัญในระยะยาวซึ่งอาจสะท้อนให้เห็นถึงความจริงที่ว่าสำหรับคนส่วนใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกา, ระดับของการดูแลทางการแพทย์ที่ได้รับจะเชื่อมโยงกับความสามารถในการจ่าย . ''

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกือบศตวรรษได้ผ่านตั้งแต่ครั้งแรกที่วิจัยเรื่องผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจต่ออัตราการตายของมารดา ผลการวิจัยพบว่า การปรับปรุงเศรษฐกิจระยะสั้นยังมาพร้อมกับเพิ่มขึ้นในอัตราการตาย ( Pro ไม่มีการตาย ) ในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร ( ออเบิร์นและโทมัส 1922 ; โทมัส 1927 ) ในปี 1970 และ 1980 ผลงานสร้างของ เบรนเนอร์ ( 1971 , 1973 , 1977 , 1979 ,1987 ) พบว่า อัตราการตายที่เพิ่มขึ้นในช่วง downturns ทางเศรษฐกิจ ( นับเวียนตาย ) ในสหรัฐอเมริกา ในอังกฤษและเวลส์และในสวีเดน ใช้อัตราการตายเป็น
เป็นตัวบ่งชี้ของสุขภาพ และการว่างงานในหมู่คนอื่น ๆ ในฐานะที่เป็นวัดของวัฏจักรเศรษฐกิจ เบรนเนอร์พบว่าตายในธรรมชาติและเคาน์เตอร์อื่นนั่นคือ การว่างงานเพิ่มขึ้น อัตราการตายสูงขึ้น และในทางกลับกันเบรนเนอร์งานแนะนำแนวคิดที่ล้าหลัง ตัวแปร ในบริบทของการศึกษาผลกระทบของเศรษฐกิจในการตาย อย่างไรก็ตาม เบรนเนอร์ศึกษาได้รับการวิพากษ์วิจารณ์โดยนักวิจัยต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ทางสถิติ เพราะมันไม่ได้เป็นไปได้ที่จะทำซ้ำผลลัพธ์ของเขา เมื่อมีการแก้ไขข้อบกพร่องที่ระบุรูปแบบ ( gravelle et al . 1981 ;ฟอร์บ และ แมคเกรเกอร์ 1984 ; องค์กร 1985 ) เลิปพอร์ต ( 2004 ) แสดงข้อมูลสรุปของการวิจารณ์ของ เบรนเนอร์ งานเชิงประจักษ์แสดงให้เห็นว่า วัฏจักรเศรษฐกิจมีผลถาวร โปรพิเศษด้านสุขภาพ นอกจากนี้ พบว่า ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเลิปพอร์ตมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการตาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เลิปพอร์ต ( P775 ) ระบุ ' ' . . . . . . . GDP เป็นเพียงที่สำคัญในระยะยาว ซึ่งอาจจะสะท้อนให้เห็นถึงความจริงที่ว่าคนส่วนใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ระดับของการดูแลทางการแพทย์ที่พวกเขาได้รับจะเชื่อมโยงกับความสามารถในการจ่าย ' ' .