How emotionally intelligent is your

How emotionally intelligent is your doctor? Although answers to this question vary, it is not surprising that physicians’ social skills or “EQ” are related to their job performance. After all, regardless of doctors’ technical competence, their ability to deal with patients and influence their behavior will depend more on their personality and attitude than what they learned in medical school. But as James Stoller, the Institute Chair for Education at Cleveland Clinic, argued, doctors have not been traditionally selected on their social skills. In fact, given that medical training mostly rewards individual competitiveness and academic knowledge, most doctors are ill-equipped to cater to the human side of patient demands.

Fortunately, that appears to be changing. In the UK, the National Health Service - the world’s fifth biggest employer with an estimated 1.7 million employees – has included leadership and collaboration as key competencies for engaging staff and improving patient satisfaction. In the US, which spends more on healthcare per capita than any other nation (despite dismal results), patient satisfaction is now critical. With the introduction of Obamacare, the quality rating of hospitals will partly depend on how satisfied patients are. Accordingly, various programs have been recently introduced to enhance EQ-related skills in doctors, including their teamwork and leadership potential.

For instance, the Centre for Creative Leadership puts doctors through an intense training program designed to boost their collaboration and leadership skills. In the past 10 years, more than 400 healthcare institutions have participated in this program. Such efforts are important because they will make doctors’ career success more dependent on their leadership skills than their clinical experience. This issue is well-known in other industries. For example, Google GOOGL -2.18% and Apple AAPL -2.61% may hire people on the basis of their engineering or coding skills, but it only makes sense to promote them if they are capable of managing and leading a team. The same approach has characterized sensible talent management practices in the financial services and creative industries for decades.


But what is the actual evidence for the importance of EQ in medical education? In a review of 485 independent studies, higher EQ was positively associated with “more compassionate and empathetic patient care” (…), “higher-scoring assessments of knowledge” (…), “and effective coping with organizational pressures and leadership” (p. 762). Moreover, EQ was also related to improved teamwork and doctor– patient communication, leading the authors to conclude that educating and selecting doctors on EQ should improve both medical education and healthcare performance. It is noteworthy that although well-designed EQ-training programs do work, it is often more effective to focus on selection than development. In other words, when selection fails, you end up spending a great deal of time and money on training and development.


Since EQ is mostly dependent on people’s personality, personality assessments are particularly effective for hiring and promoting higher-EQ physicians. For example, a review of prospective studies on medical selection and training where initial scores on personality were used to predict subsequent medical performance and work-related stress, found that higher sociability, self-awareness, and conscientiousness were all linked to better individual and organizational outcomes in the future. Of particular relevance is the link between these attributes and patient satisfaction. For example, several studies indicate that physician communication skills, warmth and friendliness, as well as the tendency to take into account patients’ concerns and expectations, all increase patient satisfaction. In line, the Mayo Clinic has long been selecting and promoting doctors with a strong team spirit, tact, and service orientation, and regarding highly driven individualistic performers as “misfits”. Furthermore, several leading US medical and surgical programs, such as the NYU Langone Hospital for Joint Diseases, Rush University Medical Center, Thomas Jefferson, Cleveland Clinic and UCLA, are now using personality assessments for selection and training in their residency programs. A leading proponent for this approach, Joseph Zuckerman, a prominent clinician and the department chair of Orthopaedic Surgery at NYU Langone, stated that interpersonal skills and professionalism are now vital to the success of physicians and should be a central consideration in the selection and training of residents.

In what is arguably the most compelling case study for paying attention to soft skills in healthcare management, Kaiser Permanente, a large care provider with over 160,000 employees and more than 9 million health plans, completely transformed its poorly-performing Colorado operations in the 1990s by replacing its executive medical director. When the new director, Jack Cochran, took over, he made clinical leadership an explicit item in the agenda and re-defined the role of physicians as “healers, leaders, and partners”. In just five years, Colorado became Kaiser’s top-performing branch on quality of care, as well as one of the highest quality health institutions in the US. Patient satisfaction rocketed, staff turnover plummeted, and, importantly for those who worry only about ROI, net income increased from zero to $87 million. Clearly, then, it does pay off to pay attention to soft skills and EQ.

Dr. Tomas Chamorro-Premuzic is a Professor of Psychology at UCL and Columbia University, and the Vice-president of Research and Innovation at Hogan Assessments.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อารมณ์ว่าอัจฉริยะคือแพทย์ แม้ว่าคำตอบของคำถามนี้แตกต่างกัน จึงไม่น่าแปลกใจที่สังคมหรือ "EQ" แพทย์เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน หลังจากที่ทุก ว่าความสามารถทางเทคนิคการแพทย์ ความสามารถในการจัดการกับผู้ป่วย และมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของพวกเขาจะมากขึ้นอยู่กับบุคลิกภาพและทัศนคติมากกว่าสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้ในโรงเรียนแพทย์ของพวกเขา แต่เป็น James Stoller เก้าอี้สถาบันการศึกษาที่คลีฟแลนด์คลินิก โต้เถียง แพทย์ซึ่งงานในทักษะทางสังคม ในความเป็นจริง ที่ฝึกทางการแพทย์ส่วนใหญ่สะสม°รีวอร์ดแข่งขันละและวิชาการ แพทย์ส่วนใหญ่ป่วยครบครันเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยข้างมนุษย์โชคดี ที่ปรากฏจะเปลี่ยนไป สหราชอาณาจักร บริการสุขภาพแห่งชาติ -โลกที่ใหญ่ที่สุดห้านายจ้างกับพนักงานเป็น 1.7 ล้านประเมิน – ได้รวมความเป็นผู้นำและทำงานร่วมกันเป็นความสามารถหลักสำหรับห้องพนักงาน และปรับปรุงความพึงพอใจผู้ป่วย ในสหรัฐ ซึ่งใช้มากในการดูแลสุขภาพต่อหัวมากกว่าประเทศอื่น ๆ (แม้มีผลแค่), ความพึงพอใจผู้ป่วยเป็นสำคัญ ด้วยการแนะนำของ Obamacare การประเมินคุณภาพของโรงพยาบาลจะบางส่วนขึ้นอยู่กับผู้ป่วยว่าพออยู่ ตาม โปรแกรมต่าง ๆ ได้ถูกเพิ่งแนะนำเพื่อเพิ่มทักษะที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการแพทย์ รวมถึงการทำงานเป็นทีมและภาวะผู้นำที่มีศักยภาพในการเช่น ศูนย์สร้างสรรค์ความเป็นผู้นำทำให้แพทย์ผ่านการฝึกอย่างเข้มข้นออกแบบมาเพื่อเพิ่มทักษะการทำงานร่วมกันและเป็นผู้นำ ใน 10 ปี สถาบันสุขภาพมากกว่า 400 ได้มีส่วนร่วมในโปรแกรมนี้ ความพยายามดังกล่าวมีความสำคัญเนื่องจากพวกเขาจะทำให้ประสบความสำเร็จในการทำงานของแพทย์มากขึ้นอยู่กับภาวะกว่าประสบการณ์ทางคลินิก ปัญหานี้เป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ตัวอย่าง Google GOOGL-2.18% และแอปเปิ้ล AAPL-2.61% อาจจ้างคนตามของวิศวกรรมหรือทักษะในการเขียนโค้ด แต่ควรเท่านั้นเพื่อส่งเสริมพวกเขาหากพวกเขามีความสามารถในการจัดการ และนำทีม วิธีการเดียวกันมีลักษณะความสามารถที่เหมาะสมวิธีการบริหารจัดการบริการทางการเงินและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สำหรับทศวรรษที่ผ่านมาแต่หลักฐานจริงเห็นความสำคัญของ EQ ในการศึกษาคืออะไร ในการตรวจสอบของการศึกษาอิสระ 485, EQ สูงเป็นเชิงบวกเกี่ยวข้องกับ "empathetic และสังเวชมากดูแลผู้ป่วย" (...), "สูงการให้คะแนนประเมินความรู้" (...), "และการเผชิญกับแรงกดดันขององค์กรและภาวะผู้นำ" (p. 762) นอกจากนี้ EQ ได้ที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงทีม และสื่อสารแพทย์ผู้ป่วย การนำผู้เขียนสรุปว่า ให้และเลือกแพทย์ที่คณะกรรมการควรปรับปรุงการศึกษาแพทย์และแพทย์ประสิทธิภาพ เป็นที่น่าสังเกตว่า แม้ว่าโปรแกรมการฝึกอบรมคณะกรรมการห้องทำงาน เป็นเรื่องที่เพิ่มเติมมีประสิทธิภาพจะเน้นเลือกกว่าพัฒนา ในคำอื่น ๆ เมื่อเลือกล้มเหลว คุณเอยใช้จ่ายเงินและเวลามากในการฝึกอบรมและพัฒนาเนื่องจากคณะกรรมการส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับบุคลิกภาพของบุคคล ประเมินบุคลิกภาพจะมีประสิทธิภาพสูงในการจ้าง และส่งเสริมการแพทย์ EQ สูง ตัวอย่าง ทบทวนศึกษาอนาคตเลือกแพทย์และการอบรมที่ใช้บุคลิกภาพคะแนนเริ่มต้นในการทำนายประสิทธิภาพต่อมาทางการแพทย์และงานที่เกี่ยวข้องกับความเครียด พบว่า sociability สูง self-awareness, conscientiousness นำผลลัพธ์ทั้งหมดเชื่อมโยงองค์กร และแต่ละดีขึ้นในอนาคต ความเกี่ยวข้องเฉพาะเป็นการเชื่อมโยงระหว่างคุณลักษณะและความพึงพอใจผู้ป่วยเหล่านี้ ตัวอย่าง หลายการศึกษาบ่งชี้ว่า ทักษะการสื่อสารแพทย์ อบอุ่น และเป็นมิตร ตลอดจนแนวโน้มจะเป็นความกังวลและความคาดหวัง บัญชีผู้ป่วยทั้งหมดเพิ่มความพึงพอใจผู้ป่วย ในบรรทัด Mayo คลินิกจึงถูกเลือก และส่งเสริมแพทย์ทีมจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง ริต้า และบริการแนว และเกี่ยวกับนักแสดง individualistic สูงซึ่งเป็น "misfits" นอกจากนี้ หลายผู้นำสหรัฐฯ ทางการแพทย์ และศัลยกรรมโปรแกรม เช่น NYU Langone โรงพยาบาล โรคร่วม ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยรัช Thomas Jefferson คลีฟแลนด์คลินิก และ UCLA ตอนนี้ใช้ประเมินบุคลิกภาพสำหรับการเลือกและการฝึกอบรมในโปรแกรมของซี Proponent ชั้นนำสำหรับวิธีการนี้ โจเซฟ Zuckerman, clinician ที่โดดเด่นและเก้าอี้แผนกของศัลยกรรมที่ NYU Langone ระบุทักษะมนุษยสัมพันธ์และความเป็นมืออาชีพมีความสำคัญต่อความสำเร็จของแพทย์ และควรพิจารณาเป็นกลางในการเลือกและการฝึกอบรมของผู้อยู่อาศัยในสิ่งเป็นกรณีศึกษาน่าสนใจมากที่สุดสำหรับการชำระเงินความอ่อนทักษะในการจัดการสุขภาพ นิคม Permanente ผู้ใหญ่ดูแลพนักงานกว่า 160,000 และแผนสุขภาพมากกว่า 9 ล้าน สมบูรณ์แปลงกิจการโคโลราโดดำเนินงานในปี 1990 ด้วยการแทนที่ของกรรมการทางการแพทย์ เมื่อกรรมการใหม่ แจ็ค Cochran เอาไป เขากลายเป็นผู้นำทางคลินิกชัดเจนสินค้าในวาระการประชุม และกำหนดบทบาทของแพทย์ "healers ผู้นำ และคู่ค้า" อีกครั้ง ในเพียงห้าปี โคโลราโดเป็น นิคมของสาขาที่ดำเนินการด้านคุณภาพของการดูแล เป็นหนึ่งสถาบันสุขภาพคุณภาพสูงสุดในสหรัฐอเมริกา ความพึงพอใจผู้ป่วย rocketed พนักงานหมุนเวียนลดลง และ ที่สำคัญสำหรับผู้ที่กังวลเกี่ยวกับร้อย กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากศูนย์ถึง 87 ล้านดอลลาร์ ชัดเจน แล้ว มันจ่ายออกเพื่อใส่อ่อนทักษะและ EQ.ดร.โทมัส Chamorro-Premuzic จะเป็นศาสตราจารย์ของจิตวิทยาของประชาชนสสส. และ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และรองประธานฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมที่ Hogan ประเมิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีที่ชาญฉลาดทางอารมณ์เป็นแพทย์ของคุณ? ถึงแม้ว่าคำตอบสำหรับคำถามนี้จะแตกต่างกันก็ไม่น่าแปลกใจที่แพทย์ทักษะทางสังคมหรือ "EQ" ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของพวกเขา หลังจากที่ทุกคนโดยไม่คำนึงถึงความสามารถทางเทคนิคการแพทย์, ความสามารถในการจัดการกับผู้ป่วยและมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของพวกเขาจะขึ้นอยู่กับเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุคลิกภาพและทัศนคติของพวกเขามากกว่าสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ในโรงเรียนแพทย์ แต่ในขณะที่เจมส์โต, เก้าอี้สำหรับสถาบันการศึกษาที่คลีฟแลนด์คลินิกแย้งแพทย์ยังไม่ได้รับการคัดเลือกแบบดั้งเดิมในทักษะทางสังคมของพวกเขา ในความเป็นจริงที่ได้รับการฝึกอบรมทางการแพทย์ส่วนใหญ่เป็นรางวัลในการแข่งขันของแต่ละบุคคลและความรู้ทางวิชาการแพทย์ส่วนใหญ่จะไม่พร้อมที่จะตอบสนองความต้องการด้านมนุษย์ของความต้องการของผู้ป่วย. โชคดีที่ดูเหมือนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ในสหราชอาณาจักรบริการสุขภาพแห่งชาติ - นายจ้างที่ห้าที่ใหญ่ที่สุดของโลกที่มีประมาณ 1.7 ล้านพนักงาน - ได้รวมความเป็นผู้นำและการทำงานร่วมกันเป็นความสามารถที่สำคัญสำหรับการมีส่วนร่วมของพนักงานและเพิ่มความพึงพอใจของผู้ป่วย ในสหรัฐอเมริกาซึ่งใช้เวลามากขึ้นในการดูแลสุขภาพต่อหัวกว่าประเทศอื่น ๆ (แม้จะมีผลกลุ้มใจ) ความพึงพอใจของผู้ป่วยอยู่ในขณะนี้ที่สำคัญ ด้วยการแนะนำของ Obamacare, คะแนนคุณภาพของโรงพยาบาลบางส่วนจะขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ป่วย ดังนั้นโปรแกรมต่างๆได้รับการแนะนำเมื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อเสริมสร้างทักษะ EQ ที่เกี่ยวข้องในการแพทย์รวมทั้งการทำงานเป็นทีมและศักยภาพความเป็นผู้นำของพวกเขา. ยกตัวอย่างเช่นศูนย์ผู้นำความคิดสร้างสรรค์ทำให้แพทย์ผ่านการฝึกอบรมอย่างเข้มข้นออกแบบมาเพื่อเพิ่มความร่วมมือและทักษะความเป็นผู้นำของพวกเขา ในอดีต 10 ปีที่ผ่านมามากกว่า 400 สถาบันสุขภาพได้มีส่วนร่วมในโปรแกรมนี้ ความพยายามดังกล่าวมีความสำคัญเพราะพวกเขาจะทำให้ความสำเร็จในอาชีพแพทย์มากขึ้นอยู่กับทักษะความเป็นผู้นำของพวกเขามากกว่าประสบการณ์ทางคลินิกของพวกเขา ปัญหานี้เป็นที่รู้จักกันในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น Google GOOGL -2.18% และแอปเปิ้ล AAPL -2.61% อาจจ้างคนที่อยู่บนพื้นฐานของวิศวกรรมหรือทักษะการเขียนโปรแกรมของพวกเขา แต่ก็เพียงทำให้รู้สึกที่จะส่งเสริมให้พวกเขาว่าพวกเขามีความสามารถในการจัดการและนำทีม วิธีการเดียวกันมีความโดดเด่นการจัดการความสามารถการปฏิบัติที่เหมาะสมในการให้บริการทางการเงินและอุตสาหกรรมความคิดสร้างสรรค์มานานหลายทศวรรษ. แต่สิ่งที่เป็นหลักฐานที่เกิดขึ้นจริงสำหรับความสำคัญของ EQ ในการศึกษาทางการแพทย์? ในการทบทวนการศึกษาอิสระ 485, EQ ที่สูงขึ้นมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับ "มากกว่าเห็นอกเห็นใจและความเห็นอกเห็นใจการดูแลผู้ป่วย" (... ), "การประเมินผลการให้คะแนนที่สูงกว่าความรู้" (... ) "และมีประสิทธิภาพในการรับมือกับความกดดันและความเป็นผู้นำขององค์กร" (พี . 762) นอกจากนี้ EQ ก็ยังเกี่ยวข้องกับการทำงานเป็นทีมที่ดีขึ้นและการสื่อสารของผู้ป่วยหมอนำผู้เขียนจะสรุปได้ว่าการให้ความรู้และเลือกแพทย์ใน EQ ควรปรับปรุงทั้งการศึกษาทางการแพทย์และประสิทธิภาพการทำงานด้านการดูแลสุขภาพ เป็นที่น่าสังเกตว่าแม้การออกแบบที่ดี EQ โปรแกรมการฝึกอบรมทำผลงานก็มักจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นที่จะมุ่งเน้นในการเลือกกว่าการพัฒนา ในคำอื่น ๆ เมื่อเลือกล้มเหลวคุณสิ้นสุดการใช้จ่ายการจัดการที่ดีของเวลาและเงินในการฝึกอบรมและการพัฒนา. ตั้งแต่ EQ เป็นส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับบุคลิกของผู้คนการประเมินบุคลิกภาพที่มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการจ้างงานและการส่งเสริมการแพทย์สูง EQ ยกตัวอย่างเช่นการทบทวนการศึกษาที่คาดหวังในการเลือกทางการแพทย์และการฝึกอบรมที่คะแนนเริ่มต้นกับบุคลิกภาพถูกนำมาใช้ในการคาดการณ์ผลการดำเนินงานทางการแพทย์ที่ตามมาและความเครียดจากการทำงานที่เกี่ยวข้องพบว่าการเข้าสังคมที่สูงขึ้นความตระหนักในตนเองและความยุติธรรมถูกเชื่อมโยงกับการที่ดีขึ้นของแต่ละบุคคลและองค์กร ผลในอนาคต ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมโยงระหว่างคุณลักษณะเหล่านี้และความพึงพอใจของผู้ป่วย ยกตัวอย่างเช่นการศึกษาหลายแห่งแสดงให้เห็นทักษะการสื่อสารแพทย์ที่อบอุ่นและเป็นมิตรเช่นเดียวกับแนวโน้มที่จะนำเข้าบัญชีของผู้ป่วยกังวลและความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นของความพึงพอใจของผู้ป่วยทั้งหมด ในบรรทัดเมโยคลินิกได้รับการเลือกและการส่งเสริมการแพทย์ที่มีจิตวิญญาณของทีมที่แข็งแกร่งชั้นเชิงและการวางแนวการบริการและการเกี่ยวกับการขับเคลื่อนสูงแสดงปัจเจกเป็น "ฟิต" นอกจากนี้หลายชั้นนำของสหรัฐโปรแกรมทางการแพทย์และศัลยกรรมเช่นโรงพยาบาล NYU Langone โรคร่วม Rush ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยโทมัสเจฟเฟอร์สัน, คลีฟแลนด์คลินิกและยูซีแอลอยู่ในขณะนี้โดยใช้การประเมินบุคลิกภาพสำหรับการเลือกและการฝึกอบรมในโปรแกรมที่อยู่อาศัยของพวกเขา แสดงชั้นนำสำหรับวิธีการนี้โจเซฟซัคเกอร์แมนแพทย์ที่โดดเด่นและเก้าอี้แผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อที่เอ็นวายยู Langone ระบุว่าทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความเป็นมืออาชีพที่มีตอนนี้สำคัญต่อความสำเร็จของแพทย์และควรจะพิจารณากลางในการเลือกและการฝึกอบรม ที่อาศัยอยู่. ในสิ่งที่เป็นเนื้อหาที่เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจมากที่สุดสำหรับการให้ความสนใจกับทักษะอ่อนในการบริหารจัดการด้านการดูแลสุขภาพ Kaiser Permanente, ผู้ให้บริการดูแลที่มีขนาดใหญ่ที่มีมากกว่า 160,000 คนและกว่า 9,000,000 แผนประกันสุขภาพเปลี่ยนอย่างสมบูรณ์ไม่ดีประสิทธิภาพการดำเนินงานของ บริษัท ในโคโลราโด 1990 โดยการเปลี่ยนผู้อำนวยการแพทย์ของผู้บริหาร เมื่อกรรมการใหม่แจ็ค Cochran เข้ามาเขาได้เป็นผู้นำทางคลินิกรายการอย่างชัดเจนในวาระการประชุมอีกครั้งและกำหนดบทบาทของแพทย์เป็น "หมอผู้นำและคู่ค้า" ในเวลาเพียงห้าปีที่ผ่านมากลายเป็นโคโลราโด Kaiser สาขาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในคุณภาพของการดูแลเช่นเดียวกับหนึ่งในสถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพสูงสุดสุขภาพในสหรัฐอเมริกา ความพึงพอใจของผู้ป่วยพุ่ง, การหมุนเวียนพนักงานลดลงและที่สำคัญสำหรับผู้ที่กังวลเกี่ยวกับผลตอบแทนการลงทุนรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นจากศูนย์ถึง $ 87,000,000 เห็นได้ชัดว่าแล้วก็ไม่ต้องจ่ายออกไปให้ความสนใจกับทักษะนุ่มและ EQ. ดร. โทมัส Chamorro-Premuzic เป็นศาสตราจารย์วิชาจิตวิทยาที่ยูซีแอลและมหาวิทยาลัยโคลัมเบียและรองประธานของการวิจัยและนวัตกรรมที่โฮแกนประเมิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธีฉลาด อารมณ์ คือ แพทย์ แม้ว่าคำตอบสำหรับคำถามนี้แตกต่างกัน จึงไม่น่าแปลกใจที่แพทย์ ทักษะทางสังคม หรือ " EQ " เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของพวกเขา หลังจากทั้งหมด โดยไม่คำนึงถึงความสามารถทางเทคนิคของแพทย์ของพวกเขา ความสามารถในการรับมือกับผู้ป่วยและมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของพวกเขาจะขึ้นอยู่กับเพิ่มเติมเกี่ยวกับบุคลิกภาพและทัศนคติของพวกเขามากกว่าสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้ในโรงเรียนแพทย์แต่เจมส์ เลอร์ สถาบันเก้าอี้เพื่อการศึกษาที่คลีฟแลนด์คลินิกที่ถกเถียงกันอยู่ว่า หมอไม่ได้ตามเกณฑ์ที่เลือกทักษะทางสังคมของพวกเขา ในความเป็นจริงที่ได้รับการฝึกอบรมทางการแพทย์ส่วนใหญ่รางวัลการแข่งขันของแต่ละบุคคลและความรู้ทางวิชาการ แพทย์ส่วนใหญ่จะป่วยพร้อม เพื่อรองรับกับความต้องการของมนุษย์ด้านผู้ป่วย

โชคดี ที่ดูเหมือนจะเปลี่ยนไป ในสหราชอาณาจักรบริการสุขภาพแห่งชาติของโลก - ที่ห้าที่ใหญ่ที่สุดของนายจ้างที่มีประมาณ 1.7 ล้านคน และมีภาวะผู้นำและความร่วมมือเป็นสมรรถนะหลักสำหรับการพนักงานและปรับปรุงความพึงพอใจของผู้ป่วย ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพต่อหัวมากกว่าประเทศอื่นใด ( แม้จะหดหู่ ) ความพึงพอใจของผู้ป่วยเป็นสำคัญด้วยการแนะนำของ Obamacare คุณภาพการประเมินของโรงพยาบาลจะส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ป่วยที่เป็น ตาม โปรแกรมต่าง ๆที่ได้รับเมื่อเร็ว ๆนี้แนะนำให้เพิ่ม EQ ที่เกี่ยวข้องทักษะแพทย์ รวมทั้งการทำงานเป็นทีมและศักยภาพความเป็นผู้นำ

สำหรับอินสแตนซ์ศูนย์ความเป็นผู้นำที่สร้างสรรค์ ทำให้แพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรมเข้มโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความร่วมมือและทักษะความเป็นผู้นำ ในอดีต 10 ปี มากกว่า 400 สถาบันการแพทย์ที่ได้เข้าร่วมในโครงการนี้ ความพยายามดังกล่าวเป็นสำคัญ เพราะจะทำให้ความสำเร็จในอาชีพหมอมากขึ้นขึ้นอยู่กับทักษะความเป็นผู้นำของพวกเขามากกว่าประสบการณ์ทางคลินิกของพวกเขาปัญหานี้เป็นที่รู้จักกันดีในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น Google googl - 2.18 % และแอปเปิ้ล AAPL - 2.61 % อาจจ้างบุคคลบนพื้นฐานของวิศวกรรมหรือทักษะการเขียนโปรแกรมของพวกเขา แต่มันทำให้รู้สึกเพื่อส่งเสริมให้พวกเขาหากพวกเขามีความสามารถในการจัดการและการเป็นผู้นำทีม วิธีการเดียวกันมีลักษณะการปฏิบัติการจัดการความสามารถที่เหมาะสมในการให้บริการทางการเงินและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์

สำหรับหลายทศวรรษ
แต่อะไรคือหลักฐานที่แท้จริงสำหรับความสำคัญของ EQ ในการศึกษาทางการแพทย์ ในรีวิวของ 485 การศึกษาอิสระ สูงกว่า EQ มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับ " ความเห็นอกเห็นใจมากขึ้น และการดูแลผู้ป่วย empathetic " ( . . . ) , " สูงกว่าเกณฑ์การให้คะแนนการประเมินความรู้ " ( . . . ) " และมีประสิทธิภาพรับมือกับความกดดันและความเป็นผู้นำขององค์กร " ( หน้า 762 ) นอกจากนี้EQ คือยังเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงการทำงานเป็นทีมแพทย์และผู้ป่วย และการสื่อสาร นำผู้เขียนสรุปได้ว่า การให้ และการเลือกแพทย์ที่ EQ ควรปรับปรุงทั้งด้านการแพทย์การศึกษา และการปฏิบัติการดูแลสุขภาพ เป็นที่น่าสังเกตว่าแม้ว่าดี EQ ฝึกอบรมการทำงาน มันมักจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อมุ่งเน้นการเลือกมากกว่าการพัฒนา ในคำอื่น ๆเมื่อการล้มเหลวคุณท้ายการใช้จ่ายมากของเวลาและเงินในการฝึกอบรมและการพัฒนา


ตั้งแต่ EQ เป็นส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับบุคลิกภาพของคน , การประเมินบุคลิกภาพที่มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการจ้างและการส่งเสริม EQ สูง แพทย์ ตัวอย่างเช่นความคิดเห็นของนักศึกษาการศึกษาการแพทย์และการฝึกอบรมที่คะแนนเริ่มต้นต่อบุคลิกภาพ คือ ทำนายการปฏิบัติทางการแพทย์ที่ตามมา และความเครียดจากการทำงาน พบว่า การรับรู้สูง นับถือ และความซื่อตรงเป็นลิงค์ดีกว่า ผล บุคคลและองค์กรในอนาคตของโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงระหว่างแอตทริบิวต์เหล่านี้และความพึงพอใจของผู้ป่วย ตัวอย่างเช่น หลายการศึกษาบ่งชี้ว่า แพทย์ทักษะการสื่อสาร , เป็นมิตรและอบอุ่นเช่นเดียวกับแนวโน้มที่จะใช้ลงในบัญชีความกังวลและความคาดหวังของผู้ป่วยทั้งหมด เพิ่มความพึงพอใจ . ในบรรทัดเมโยคลินิกได้รับการคัดเลือกและส่งเสริมการแพทย์ที่มีจิตวิญญาณของทีมงานที่แข็งแกร่ง ชั้นเชิง และการบริการ และด้านสูงขับเคลื่อนแต่ละผู้แสดงเป็น " แปลกประหลาด " นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐทางการแพทย์และศัลยกรรมหลายโปรแกรม เช่นโรงพยาบาล แลงก NYU สำหรับโรคร่วม ทีมงานจากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยรัช โทมัส เจฟเฟอร์สัน คลีฟแลนด์ คลินิก และ มหาวิทยาลัยยูซีแอลเอตอนนี้ใช้ประเมินบุคลิกภาพสำหรับการเลือกและการฝึกอบรมในโปรแกรมที่อยู่อาศัยของพวกเขา ผู้นำเสนอวิธีการนี้โจเซฟ Zuckerman แพทย์ที่โดดเด่นและแผนกศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ที่ NYU แลงกเก้าอี้ ,ระบุว่าทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและเป็นมืออาชีพคือตอนนี้ที่สำคัญเพื่อความสำเร็จของแพทย์ และควรมีการพิจารณาหลักในการฝึกแพทย์ประจำบ้าน

ในสิ่งที่เป็น arguably กรณีศึกษาน่าสนใจที่สุดสำหรับสนใจเพิ่มทักษะในการจัดการสุขภาพ Kaiser Permanente ขนาดใหญ่การดูแลผู้ให้บริการที่มีมากกว่า 160 , 000 คนและกว่า 9 ล้านสุขภาพแผนสมบูรณ์แปลงของมันไม่ดีแสดงโคโลราโดการดำเนินการในปี 1990 โดยแทนของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์หัวหน้า เมื่อผู้กำกับคนใหม่ แจ็ค Cochran , เอาไป เขาได้เป็นผู้นำทางคลินิก รายการที่ชัดเจนในการประชุมและกำหนดบทบาทของแพทย์ว่า " หมอ , ผู้นำ , และคู่ค้า " ในเวลาเพียงห้าปี , โคโลราโดกลายเป็นจักรพรรดิของสาขาด้านการปฏิบัติต่อคุณภาพของการดูแลเป็นหนึ่งในสถาบันสุขภาพที่มีคุณภาพสูงสุดในสหรัฐอเมริกา ความพึงพอใจในการบริการผู้โดยสาร การหมุนเวียนพนักงานลดลง และที่สำคัญสำหรับผู้ที่กังวลเกี่ยวกับ ROI กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากศูนย์ถึง $ 87 ล้านบาท ชัดเจนแล้ว มันจ่ายปิดสนใจทักษะที่อ่อนนุ่ม และอีคิว

ดร. โทมัส Chamorro premuzic เป็นศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาที่ UCL และมหาวิทยาลัยโคลัมเบียและรองประธานฝ่ายวิจัยและนวัตกรรมที่โฮแกนการประเมิน