It is clear, with more than 49 mill

It is clear, with more than 49 million individuals in the United States with a chronic condition or disability, that health promotion for people with disabilities is a crucial goal of the rehabilitation process (Waldrop & Stern, 2003). A major objective addressed in the “Disability and Health” section of Healthy People 2020 (USDHHS, 2010) is to reduce the disparity in employment rates between people with disabilities and the general population. A key to achieving this goal is through health promotion efforts for people with disabilities; yet health promotion interventions have not received much attention in the rehabilitation literature (Harrison, 2006). Due to the lack of available or accessible programs, there is a growing call to integrate health promotion programs into the health care and rehabilitation service systems that assist people with disabilities with vocational and health care issues (Ipsen, 2006). This will require an increase in development efforts and utilization of such programs. Hence, the state federal vocational rehabilitation program is a reasonable point of access for health promotion programs targeted at reducing health problems and
secondary conditions that may pose barriers to employment (Ipsen, Seekins, & Ravesloot, 2010).
Although there is certainly more recognition by the federal government of the negative impact secondary conditions have on health care, employment, and quality of life for people with disabilities (Harrison, 2006), research focused on validating theory-driven health promotion models for people with disabilities remains remarkably limited. Although there have been promising findings from some notable intervention studies targeting health promotion (e.g., Ravesloot, Seekins, & White, 2005; Zemper et al., 2003), currently, there are only a limited number of studies evaluating the application of models of health promotion to people with disabilities and no studies applying them to people with SCI. Research focused explicitly on validation of models of health promotion is also necessary to develop theory-driven and empirically validated health promotion interventions for people with SCI.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นที่ชัดเจนที่มีมากกว่า 49 ล้านคนในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีภาวะเรื้อรังหรือความพิการที่การส่งเสริมสุขภาพสำหรับผู้ที่มีความพิการเป็นเป้าหมายที่สำคัญของกระบวนการฟื้นฟูกิจการ (Waldrop และสเติร์น, 2003) วัตถุประสงค์ที่สำคัญที่อยู่ในส่วน "พิการและสุขภาพ" ของคนสุขภาพ 2020 (USDHHS 2010) คือการลดความเหลื่อมล้ำในอัตราการจ้างงานระหว่างผู้คนที่มีความพิการและประชาชนทั่วไป กุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายนี้เป็นความพยายามส่งเสริมสุขภาพสำหรับคนพิการ แต่การแทรกแซงการส่งเสริมสุขภาพยังไม่ได้รับความสนใจมากในวรรณคดีฟื้นฟู (แฮร์ริสัน, 2006) เนื่องจากการขาดการโปรแกรมที่สามารถใช้ได้หรือเข้าถึงได้มีการเรียกร้องที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อบูรณาการโปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพในการดูแลสุขภาพและการฟื้นฟูสมรรถภาพระบบบริการที่ช่วยให้คนพิการมีอาชีพและปัญหาการดูแลสุขภาพ (Ipsen, 2006) นี้จะต้องมีการเพิ่มขึ้นในการพัฒนาและการใช้โปรแกรมดังกล่าว ดังนั้นโปรแกรมการฟื้นฟูสมรรถภาพสหพันธรัฐอาชีวศึกษาเป็นจุดที่เหมาะสมในการเข้าถึงสำหรับโปรแกรมการส่งเสริมสุขภาพการกำหนดเป้าหมายในการลดปัญหาสุขภาพและสภาพรองที่อาจก่อให้เกิดอุปสรรคในการจ้างงาน (Ipsen, Seekins และ Ravesloot 2010). แม้ว่าจะมีแน่นอนได้รับการยอมรับมากขึ้นโดย รัฐบาลมีเงื่อนไขผลกระทบเชิงลบที่สองมีอยู่ในการดูแลสุขภาพ, การจ้างงานและคุณภาพชีวิตของคนพิการ (แฮร์ริสัน, 2006) การวิจัยมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบทฤษฎีที่ขับเคลื่อนด้วยรูปแบบการส่งเสริมสุขภาพสำหรับผู้ที่มีความพิการยังคง จำกัด อย่างน่าทึ่ง แม้ว่าจะมีการค้นพบที่มีแนวโน้มจากการศึกษาการแทรกแซงที่โดดเด่นบางกำหนดเป้าหมายการส่งเสริมสุขภาพ (เช่น Ravesloot, Seekins และสีขาว, 2005. Zemper, et al, 2003), ขณะนี้มีเพียงจำนวน จำกัด ของการศึกษาการประเมินผลการประยุกต์ใช้รูปแบบของ การส่งเสริมสุขภาพให้กับผู้ที่มีความพิการและการศึกษาไม่นำมาใช้กับคนที่มี SCI ที่มุ่งเน้นการวิจัยอย่างชัดเจนในการตรวจสอบรูปแบบของการส่งเสริมสุขภาพยังเป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาทฤษฎีที่ขับเคลื่อนด้วยการสังเกตุและตรวจสอบการแทรกแซงการส่งเสริมสุขภาพสำหรับผู้ที่มี SCI

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันชัดเจนกว่า 49 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา ด้วยเงื่อนไขที่เรื้อรังหรือพิการ ว่า การส่งเสริมสุขภาพสำหรับคนพิการ เป็นเป้าหมายที่สำคัญของกระบวนการฟื้นฟูกิจการ ( วอลดร็อป&ท้ายเรือ , 2003 ) มีวัตถุประสงค์หลักอยู่ใน " สุขภาพ " ความพิการและส่วนของภาพ ( usdhhs 2020 ,2010 ) เพื่อลดความแตกต่างในอัตราการจ้างงานระหว่างคนพิการและคนทั่วไป กุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมายนี้ ผ่านความพยายามส่งเสริมสุขภาพคนพิการ แต่มาตรการส่งเสริมสุขภาพ ยังไม่ได้รับความสนใจมากในการฟื้นฟูวรรณคดี ( แฮร์ริสัน , 2006 ) เนื่องจากการขาดของโปรแกรมที่มีอยู่หรือสามารถเข้าถึงได้มีการเรียกรวมโปรแกรมส่งเสริมสุขภาพในการดูแลสุขภาพ และฟื้นฟูระบบที่ช่วยให้คนพิการมีปัญหาอาชีพและการดูแลสุขภาพ ( อิปเซิ่น , 2006 ) นี้จะต้องมีการเพิ่มความพยายามในการพัฒนาและการใช้โปรแกรมดังกล่าว ดังนั้นรัฐสหพันธ์วิชาชีพฟื้นฟูโปรแกรมเป็นจุดที่เหมาะสมในการส่งเสริมสุขภาพ โปรแกรมที่กำหนดเป้าหมายการลดปัญหาสุขภาพและ
เงื่อนไขรองที่อาจก่อให้เกิดอุปสรรคในการจ้างงาน ( อิปเซิ่น seekins & ravesloot , , , 2010 ) .
ถึงแม้ว่ามีแน่นอนมากขึ้นได้รับการยอมรับโดยรัฐบาลของผลกระทบเชิงลบที่เงื่อนไขรองในการดูแลสุขภาพ การจ้างงานและคุณภาพชีวิตของคนพิการ ( Harrison , 2006 ) , การวิจัยมุ่งเน้นการตรวจสอบทฤษฎีการขับเคลื่อนการสร้างเสริมสุขภาพคนพิการยังคงอยู่อย่างน่าทึ่ง โมเดล จำกัด แม้จะมีสัญญาผลจากการแทรกแซงการศึกษาบางเด่นเป้าหมายการส่งเสริมสุขภาพ เช่น ravesloot seekins & , , สีขาว , 2005 ; zemper et al . , 2003 ) ในปัจจุบันมีเพียงจำนวน จำกัด ของการศึกษาการประเมินการประยุกต์ใช้โมเดลการส่งเสริมสุขภาพกับคนพิการและยังไม่มีการวิจัยที่ใช้กับคน กับสภาวะโลกร้อน การวิจัยเน้นอย่างชัดเจนในการตรวจสอบความถูกต้องของแบบจำลองการส่งเสริมสุขภาพเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาทฤษฎีเชิงประจักษ์โดยการส่งเสริมสุขภาพสำหรับผู้ที่มีปัญหาสภาวะโลกร้อน