Okra (Hibiscus esculentus L.) known

Okra (Hibiscus esculentus L.) known as lady’s finger is a
heat loving plant of Malvaceae family and is one of the most
important summer vegetable in Bangladesh. It is also popular
home garden vegetable and a good source to fulfill the energy
requirements of the body. It is also provides vitamin A, B, C,
protein, amino acids, minerals and iodine (Hossain et al.,
2006). This vegetable is quite palatable and linked equally by
poor and rich. Total area under cultivation in Bangladesh is
12900 hectares and total production is about 40000 tons of
green fruits (BBS, 2009). In spite of all our efforts to increase
okra yield in the country, its yield is much lower (3.1 t ha-1)
than that of other agriculturally developed countries (FAO,
2007). Despite significant annual increase in fertilizer use, its
yield has stagnated and even declined in some cases. So far,
different conventional approaches have been used to improve
the yield of okra. These approaches are not much effective in
many cases in improving the yield or narrowing down the
gap between potential and farmer’s obtained yields. This
situation forces us to use non-conventional approaches such
as biotechnology, genetic engineering and use of plant
hormones. Application of plant growth regulator (PGR)
seems to be one of the important practices in view of
convenience, cost and labour efficiency. Recently, there has
been global realization of the important role of PGRs in
agriculture for better growth and yield of crops. Developed
countries like Japan, China, Poland, South Korea etc. have
long been using PGRs to increase crop yield. Like other crop
plants, the physiological mechanisms of okra growth are
hormonally mediated. Additional supply of plant growth
regulators control growth and yield in plants. Chitosan is
derived from chitin, a polysaccharide found in exoskeleton of
shellfish such as shrimp, lobster or crabs and cell wall of
fungi (Wojdyla, 2001). Very few efforts were done to study
the effect of chitosan on plant growth, development and
productivity, which is mainly attributed to stimulation of
plants immunity against microorganisms (bacteria and fungi)
(ChunYan et al., 2003; Patkowska et al., 2006; Sereih et al.,
2007; No et al., 2007; Gornik et al., 2008). Recently, some
researchers reported that chitosan enhanced plant growth and
development (Khan et al., 2002; Chibu et al., 2003; Gornik et
al., 2008). They reported that application of chitosan
increased key enzymes activities of nitrogen metabolism
(nitrate reductase, glutamine synthetase and protease) and
improved the transportation of nitrogen (N) in the functional
leaves which enhanced plant growth and development.
Research works of chitosan on growth, yield attributes and
fruit yield of okra is almost rare. Considering the above facts,
the present research work was undertaken to study the effect
of chitosan on growth, morphological features, yield

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กระเจี๊ยบเขียว (Hibiscus esculentus L.) เป็นนิ้วของสุภาพสตรีที่รู้จักกันเป็นร้อนรักพืชตระกูลวงศ์ฝ้าย และเป็นหนึ่งในสุดผักฤดูร้อนที่สำคัญในประเทศบังกลาเทศ มันยังเป็นที่นิยมบ้านสวนผักและเป็นแหล่งที่ดีเพื่อตอบสนองพลังงานความต้องการของร่างกาย ก็ยังมีวิตามิน A, B, Cโปรตีน กรดอะมิโน เกลือแร่ และไอโอดีน (Hossain et al.,2006) . ผักนี้จะอร่อยมาก และเชื่อมโยงกันโดยคนจนและคนรวย รวมพื้นที่เพาะปลูกในประเทศบังกลาเทศเป็นเฮคเตอร์ 12900 และการผลิตรวมเป็นประมาณ 40000 ตันสีเขียวผลไม้ (BBS, 2009) แม้ว่าความพยายามของเราเพื่อเพิ่มผลผลิตของกระเจี๊ยบเขียวในประเทศ ผลตอบแทนได้ต่ำมาก (3.1 t ฮา-1)กว่าที่ประเทศอื่นพัฒนาเกษตรกรรม (FAO2007) แม้ มีการเพิ่มรายปีใช้ปุ๋ย การผลผลิตได้ stagnated และปฏิเสธแม้แต่ในบางกรณี ฉะนี้ใช้เพื่อปรับปรุงวิธีอื่นทั่วไปผลผลิตของกระเจี๊ยบเขียว วิธีเหล่านี้ไม่มีประสิทธิภาพมากในการหลายกรณีในการปรับปรุงจากผลตอบแทน หรือจำกัดให้แคบลงลงตัวช่องว่างระหว่างศักยภาพของเกษตรกรได้รับผลผลิต นี้สถานการณ์บังคับให้เราใช้ไม่ธรรมดาวิธีดังกล่าวเทคโนโลยีชีวภาพ พันธุวิศวกรรม และใช้โรงงานฮอร์โมน ใช้ควบคุมการเจริญเติบโตของพืช (PGR)ดูเหมือนว่าจะ เป็นแนวทางปฏิบัติที่สำคัญในมุมมองของสะดวก ต้นทุน และแรงงานมีประสิทธิภาพ เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการรับรู้บทบาทสำคัญของ PGRs ในโลกการเกษตรสำหรับการเจริญเติบโตดีและผลผลิตของพืช ได้รับการพัฒนาประเทศเช่นญี่ปุ่น จีน ประเทศโปแลนด์ ประเทศเกาหลีใต้ฯลฯ ได้จึงได้ใช้ PGRs เพื่อเพิ่มผลผลิตพืช เหมือนพืชอื่น ๆมีกลไกสรีรวิทยาของกระเจี๊ยบเขียวเจริญเติบโตของพืชhormonally mediated จัดหาเพิ่มเติมของพืชเจริญเติบโตหน่วยงานกำกับดูแลควบคุมการเจริญเติบโตและผลผลิตในพืช ไคโตซานคือมาจากไคทิน polysaccharide ในโครงกระดูกภายนอกของหอยกุ้ง กุ้ง หรือปู และผนังเซลล์ของเชื้อรา (Wojdyla, 2001) ทำการศึกษาความพยายามน้อยมากผลของไคโตซานพืชเจริญเติบโต พัฒนา และผลผลิต ซึ่งส่วนใหญ่การเกิดจากการกระตุ้นของภูมิคุ้มกันของพืชกับจุลินทรีย์ (แบคทีเรียและเชื้อรา)(ChunYan et al., 2003 Patkowska และ al., 2006 Sereih et al.,2007 ไม่มี et al., 2007 Gornik et al., 2008) ล่าสุด บางนักวิจัยรายงานว่า การเจริญเติบโตพืชไคโตซานที่เพิ่ม และพัฒนา (Khan et al., 2002 Chibu และ al., 2003 Gornik ร้อยเอ็ดal., 2008) พวกเขารายงานว่า โปรแกรมประยุกต์ของไคโตซานเพิ่มกิจกรรมเอนไซม์ที่สำคัญของไนโตรเจน(ไนเตรต reductase, glutamine synthetase และรติเอส) และปรับปรุงการขนส่งของไนโตรเจน (N) ในการทำงานใบซึ่งสนับสนุนการเจริญเติบโตของพืชวิจัยงานของไคโตซานในการเจริญเติบโต ผลผลิตแอตทริบิวต์ และผลไม้ผลผลิตของกระเจี๊ยบเขียวหายากเกือบได้ พิจารณาข้อเท็จจริงข้างต้นงานวิจัยปัจจุบันได้ดำเนินการศึกษาผลของไคโตซานในการเจริญเติบโต ลักษณะสัณฐาน ผลผลิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กระเจี๊ยบเขียว (Hibiscus esculentus L. ) ที่รู้จักกันเป็นลายนิ้วมือของผู้หญิงเป็น
พืชร้อนรักของครอบครัว Malvaceae และเป็นหนึ่งในที่สุด
ผักฤดูร้อนที่สำคัญในประเทศบังกลาเทศ นอกจากนี้ยังเป็นที่นิยม
ผักสวนบ้านและเป็นแหล่งที่ดีเพื่อตอบสนองการใช้พลังงาน
ความต้องการของร่างกาย นอกจากนี้ยังมีวิตามิน A, B, C,
โปรตีนกรดอะมิโนและแร่ธาตุไอโอดีน (งะ et al.,
2006) ผักนี้ค่อนข้างเป็นที่พอใจและเชื่อมโยงอย่างเท่าเทียมกันโดย
ที่ไม่ดีและอุดมไปด้วย รวมพื้นที่เพาะปลูกในบังคลาเทศเป็น
12,900 เฮคเตอร์และการผลิตรวมอยู่ที่ประมาณ 40,000 ตันของ
ผลไม้สีเขียว (BBS, 2009) ทั้งๆที่มีความพยายามของเราที่จะเพิ่ม
ผลผลิตกระเจี๊ยบเขียวในประเทศที่ให้ผลตอบแทนที่เป็นที่ต่ำกว่ามาก (3.1 ตันต่อเฮกตาร์ 1)
กว่าของประเทศอื่น ๆ ที่พัฒนาข้าวอู่น้ำแห่งสหประชาชาติ (FAO,
2007) แม้จะมีการเพิ่มขึ้นปีอย่างมีนัยสำคัญในการใช้ปุ๋ยของ
ผลผลิตได้หยุดนิ่งและลดลงแม้ในบางกรณี จนถึง
วิธีการแบบเดิมที่แตกต่างกันได้รับการใช้ในการปรับปรุง
ผลผลิตของกระเจี๊ยบเขียว วิธีการเหล่านี้ไม่ได้มีประสิทธิภาพมากใน
หลาย ๆ กรณีในการปรับปรุงอัตราผลตอบแทนหรือแคบลง
ช่องว่างระหว่างที่มีศักยภาพและอัตราผลตอบแทนของเกษตรกรที่ได้รับ นี้
สถานการณ์บังคับให้เราใช้วิธีการที่ไม่ธรรมดาเช่น
เป็นเทคโนโลยีชีวภาพพันธุวิศวกรรมและการใช้พืช
ฮอร์โมน การประยุกต์ใช้การควบคุมการเจริญเติบโตของพืช (PGR)
น่าจะเป็นหนึ่งในวิธีปฏิบัติที่สำคัญในมุมมองของ
ความสะดวกสบายที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพแรงงาน เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้มี
ความตระหนักรับทั่วโลกของบทบาทที่สำคัญของ PGRs ใน
การเกษตรสำหรับการเจริญเติบโตที่ดีขึ้นและผลผลิตของพืช การพัฒนา
ประเทศเช่นญี่ปุ่น, จีน, โปแลนด์, เกาหลีใต้ ฯลฯ มี
ความยาวได้ใช้ PGRs เพื่อเพิ่มผลผลิตของพืช เช่นเดียวกับพืชอื่น ๆ
พืชกลไกทางสรีรวิทยาของการเจริญเติบโตของกระเจี๊ยบเขียวจะ
พึ่ง hormonally อุปทานที่เพิ่มขึ้นของการเจริญเติบโตของพืชที่
หน่วยงานกำกับดูแลควบคุมการเจริญเติบโตและผลผลิตในพืช ไคโตซานจะ
มาจากไคติน, polysaccharide พบในโครงร่างของ
หอยเช่นกุ้งก้ามกรามกุ้งหรือปูและผนังเซลล์ของ
เชื้อรา (Wojdyla, 2001) ความพยายามที่น้อยมากที่ได้ทำเพื่อศึกษา
ผลของไคโตซานต่อการเจริญเติบโตการพัฒนาและ
การผลิตซึ่งเป็นสาเหตุหลักมาจากการกระตุ้นของ
พืชภูมิคุ้มกันต่อเชื้อจุลินทรีย์ (แบคทีเรียและเชื้อรา)
(Chunyan et al, 2003;. Patkowska et al, 2006. Sereih, et ​​al.
2007; ไม่มี et al, 2007;. Gornik et al, 2008). เมื่อเร็ว ๆ นี้บาง
นักวิจัยรายงานว่าไคโตซานเจริญเติบโตของพืชที่เพิ่มขึ้นและ
การพัฒนา (ข่าน et al, 2002;. Chibu et al, 2003;. Gornik และ
al. 2008) พวกเขาได้รายงานว่าการใช้ไคโตซาน
เพิ่มกิจกรรมเอนไซม์สำคัญของการเผาผลาญอาหารไนโตรเจน
(reductase ไนเตรต, glutamine synthetase และโปรติเอส) และ
การปรับปรุงการขนส่งของไนโตรเจน (N) ในการทำงาน
ใบที่เจริญเติบโตของพืชที่เพิ่มขึ้นและการพัฒนา.
ทำงานวิจัยของไคโตซานต่อการเจริญเติบโตผลผลิต คุณลักษณะและ
ผลผลิตของกระเจี๊ยบเขียวเป็นของหายากเกือบ พิจารณาข้อเท็จจริงข้างต้น
นำเสนองานวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผล
ของไคโตซานต่อการเจริญเติบโตลักษณะทางสัณฐานของผลผลิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กระเจี๊ยบเขียว ( ชบา 4 L . ) ที่รู้จักกันเป็นนิ้วของผู้หญิง คือ ความรักของครอบครัว
ความร้อนพืชวงศ์ฝ้ายและเป็นหนึ่งในที่สุด
ที่สำคัญผักฤดูร้อนในบังคลาเทศ มันก็ยังเป็นที่นิยม
บ้านผักสวนและเป็นแหล่งที่ดีที่จะเติมเต็มพลังงาน
ความต้องการของร่างกาย มันเป็นยังให้วิตามิน A , B , C ,
โปรตีน , กรดอะมิโน , แร่ธาตุไอโอดีน (
Hossain et al . , 2006 )ผักนี้ค่อนข้างอร่อยและเชื่อมโยงกันโดย
คนจนและคนรวย พื้นที่ทั้งหมดภายใต้การเพาะปลูกในบังคลาเทศ
900 เฮกตาร์ และผลิตรวมประมาณ 40 , 000 ตันของ
ผลไม้สีเขียว ( BBS , 2009 ) ทั้งๆที่มีความพยายามของเราทั้งหมดเพื่อเพิ่มผลผลิต
กระเจี๊ยบในประเทศ ผลตอบแทนของต่ำมาก ( 3.1 T
ha-1 ) ที่สำคัญของประเทศที่พัฒนาอื่น ๆเงื่อนไข ( เฝ้า
, 2550 )แม้จะเพิ่มประจำปีที่สำคัญในการใช้ปุ๋ยของผลผลิตมี stagnated และแม้แต่
ลดลงได้ในบางกรณี ดังนั้นไกล
วิธีปกติที่แตกต่างกันจะถูกใช้เพื่อปรับปรุง
ผลผลิตของกระเจี๊ยบ วิธีเหล่านี้ไม่ได้มีประสิทธิภาพมากใน
หลายกรณีในการปรับปรุงผลผลิต หรือแคบลง
ช่องว่างระหว่างศักยภาพและเกษตรกรได้รับผลผลิต นี้
สถานการณ์บังคับให้เราใช้วิธีการดังกล่าวไม่ปกติ
เป็นเทคโนโลยีชีวภาพ พันธุวิศวกรรม และใช้ฮอร์โมนพืช

การใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช ( pgr )
น่าจะเป็นหนึ่งในวิธีปฏิบัติที่สำคัญในมุมมองของ
สะดวก ต้นทุน และประสิทธิภาพแรงงาน เมื่อเร็วๆ นี้ มีการรับรู้ของโลก

มีบทบาทสำคัญในการเจริญเติบโตของการเกษตรดีขึ้น และผลผลิตของพืชพัฒนา
ประเทศเช่นญี่ปุ่น , จีน , โปแลนด์ , เกาหลีใต้ ฯลฯ ได้ใช้
ยาวเพื่อเพิ่มผลผลิตของพืช เหมือนพืชพืช
อื่น ๆ กลไกทางสรีรวิทยาของการเจริญเติบโตของกระเจี๊ยบเขียวเป็น
hormonally เพื่อ . จัดหาเพิ่มเติมสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช
ควบคุมการเจริญเติบโตและผลผลิตของพืช ไคโตซาน
มาจากไคติน , โพลีแซคคาไรด์ที่พบในเปลือกของ
อาหารทะเล เช่น กุ้งกุ้งหรือปู และผนังเซลล์ของเชื้อรา (
wojdyla , 2001 ) ความพยายามน้อยมาก ทำเพื่อศึกษาผลของไคโตซานต่อ

การเจริญเติบโต การพัฒนา และการผลิต ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการกระตุ้นของ
พืชภูมิคุ้มกันต้านจุลินทรีย์ ( แบคทีเรียและเชื้อรา )
( chunyan et al . , 2003 ; patkowska et al . , 2006 ; sereih et al . ,
2007 ; ไม่และ al . , 2007 ; gornik et al . , 2008 ) เมื่อเร็วๆนี้บาง
นักวิจัยรายงานว่า ไคโตซานเพิ่มการเจริญเติบโตของพืชและการพัฒนา ( ข่าน et al . , 2002 ; chibu et al . , 2003 ;
gornik et al . , 2008 ) พวกเขารายงานว่า การเพิ่มกิจกรรมของเอนไซม์ไคโตซาน
คีย์ไนโตรเจนเมแทบอลิซึม
( ไนเตรตรีดักเทสเทสกลูตามีน , และ protease ) และ
ปรับปรุงการขนส่งของไนโตรเจน ( N ) ในการทำงาน
ใบที่ทำให้การเจริญเติบโตของพืชและการพัฒนา .
งานวิจัยของไคโตซานต่อการเจริญเติบโต ผลผลิต และผลผลิตของกระเจี๊ยบเขียวเป็นเกือบ
ของหายาก พิจารณาข้อเท็จจริงข้างต้น
งานงานวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของไคโตซานต่อการเจริญเติบโต
, คุณสมบัติลักษณะ ผลผลิต