Imagine this: You are asked to do a

Imagine this: You are asked to do a tedious and boring task, like fit wooden pegs into holes. After you have done the task, someone pays you to lie about what it's like. 'I really enjoy doing it,' you tell another person, 'and I think you will, too!'

If you are like many people, you probably believe that you know what you feel and what the lie is. But believe it or not, some studies have shown that people don't always know exactly how they feel. Instead, they use their own behavior to guess about what they are feeling. Self-perception theory says that, 'When people are unsure about their feelings and motivations, they will use their own behavior to infer what they feel.'

What does that have to do with the scenario above? When we lie to someone else, we sometimes begin to believe our own lies. We look at our own behavior - in this case the lie - and make an inference. So, in the example above, lying about your feelings could cause you to believe your own lie! You are using your behavior to figure out how you feel about something. You might be surprised at how often this happens.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จินตนาการนี้: คุณจะต้องทำงานน่าเบื่อ และน่าเบื่อ ชอบตอกไม้พอดีลงหลุม หลังจากที่คุณได้ทำงาน คนจ่ายคุณนอนมันเป็นเช่น 'อาหารทำ คุณบอกบุคคลอื่น 'และคิดว่า คุณจะ เกินไป'ถ้าคุณเป็นเหมือนหลายคน คุณคงเชื่อว่า คุณทราบว่าสิ่งที่คุณรู้สึกและแนวใด แต่เชื่อหรือไม่ บางการศึกษาแสดงให้เห็นว่า คนไม่รู้ดีเสมอว่าวิธีการที่พวกเขารู้สึก แทน พวกเขาใช้ลักษณะการทำงานของตนเองคาดเดาเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขามีความรู้สึก ทฤษฎี self-perception บอกว่า 'เมื่อคนไม่แน่ใจเกี่ยวกับความรู้สึกของพวกเขาและโต่ง จะใช้ลักษณะการทำงานของตนเองเพื่อเข้าใจสิ่งที่พวกเขารู้สึก 'ที่ไม่มีอะไรจะทำอย่างไรกับสถานการณ์ดังกล่าว เมื่อเราอยู่กับใคร เราบางครั้งเริ่มเชื่ออยู่ของเราเอง เราดูที่พฤติกรรมของเราเอง - ในกรณีนี้โกหก - และทำให้ข้อความ ดังนั้น ในตัวอย่างข้างต้น โกหกเกี่ยวกับความรู้สึกของคุณอาจทำให้คุณเชื่อว่าการนอนของคุณเอง คุณใช้ลักษณะการทำงานของคุณจะคิดออกว่าคุณรู้สึกเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง คุณอาจจะประหลาดใจที่ว่านี้เกิดขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลองนึกภาพนี้: คุณกำลังขอให้ทำงานที่น่าเบื่อและน่าเบื่อเช่นหมุดไม้พอดีลงในหลุม หลังจากที่คุณได้กระทำงานที่มีคนจ่ายให้คุณโกหกเกี่ยวกับสิ่งที่มันต้องการ 'ผมสนุกกับการทำมัน' คุณบอกคนอื่น 'และฉันคิดว่าคุณจะมากเกินไป!' หากคุณเป็นเช่นคนจำนวนมากที่คุณอาจเชื่อว่าคุณรู้ว่าสิ่งที่คุณรู้สึกและสิ่งที่โกหกคือ แต่เชื่อหรือไม่ว่าการศึกษาบางส่วนได้แสดงให้เห็นว่าคนที่ไม่เคยรู้ว่าวิธีการที่พวกเขารู้สึกว่า แต่พวกเขาใช้พฤติกรรมของตัวเองที่จะคาดเดาเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขามีความรู้สึก ทฤษฎีการรับรู้ของตัวเองกล่าวว่า "เมื่อคนไม่แน่ใจเกี่ยวกับความรู้สึกและแรงจูงใจของพวกเขาพวกเขาจะใช้พฤติกรรมของตัวเองเพื่อสรุปสิ่งที่พวกเขารู้สึก. อะไรที่มีจะทำอย่างไรกับสถานการณ์ข้างต้นหรือไม่ เมื่อเราอยู่กับคนอื่นบางครั้งเราจะเริ่มต้นที่จะเชื่อคำโกหกของเราเอง เรามองไปที่พฤติกรรมของเราเอง - ในกรณีนี้โกหก - และทำให้อนุมาน ดังนั้นในตัวอย่างข้างต้นโกหกเกี่ยวกับความรู้สึกของคุณอาจทำให้คุณเชื่อเรื่องโกหกของคุณเอง! คุณกำลังใช้พฤติกรรมของคุณที่จะคิดออกว่าคุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่าง คุณอาจจะแปลกใจที่มักจะเกิดเหตุการณ์นี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ลองนึกภาพนี้คุณจะต้องทำงานที่น่าเบื่อและน่าเบื่อเหมือนพอดีหมุดไม้ลงหลุม หลังจากที่คุณได้กระทำงานที่ มีคนจ่ายให้คุณโกหกเกี่ยวกับสิ่งที่มันต้องการ . ผมสนุกกับการทำมัน บอกคน อื่น และฉันคิดว่าคุณจะเกินไป !

ถ้าคุณเป็นเหมือนหลายๆ คน คุณอาจจะเชื่อว่าคุณรู้สิ่งที่คุณรู้สึกและสิ่งที่โกหกเป็น แต่เชื่อหรือไม่บางการศึกษาแสดงให้เห็นว่าคนไม่รู้เสมอว่าเขารู้สึกยังไง แทน พวกเขาใช้พฤติกรรมของตนที่จะคาดเดาเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาจะรู้สึก ทฤษฎีการรับรู้ด้วยตนเองว่า เมื่อผู้ที่ไม่แน่ใจเกี่ยวกับความรู้สึกของตนและแรงจูงใจ , พวกเขาจะใช้พฤติกรรมของตนเอง เพื่อสรุปสิ่งที่พวกเขารู้สึก '

ไม่ต้องทำอะไรกับสถานการณ์ข้างต้น ? เมื่อเราโกหกคนอื่นบางครั้งเราเริ่มเชื่อคำโกหกของตัวเอง เราดูที่พฤติกรรมของเราเอง ในกรณีนี้ โกหก และทำให้การอนุมาน ดังนั้นในตัวอย่างข้างต้น โกหกเกี่ยวกับความรู้สึกของคุณอาจทำให้คุณเชื่อคำโกหกของคุณเอง ! คุณใช้พฤติกรรมของคุณที่จะคิดออกวิธีที่คุณรู้สึกเกี่ยวกับบางอย่าง คุณอาจจะประหลาดใจที่วิธีการที่มักจะเกิดขึ้น